
ตีแผ่ความสำเร็จของนักร้องใต้หลายราย ล้วนเกิดจากฝืมือและมันสมองของ หนู มิเตอร์ นักแต่งเพลง นักร้องที่อยู่ในวงการมากกว่า 20 ปี
หนู มิเตอร์เผยแก่ ไอเอ็นเอ็นลูกทุ่ง ถึงเบื้องหลังความสำเร็จในการสร้างสรรค์ผลงานเพลงของตน และ นักร้องในสังกัด เช่น บ่าววี หรือหลวงไก่ ว่าตนเองได้ยึดแบบการทำเพลงโดยอาศัยการสร้างสรรค์ท่วงทำนองใหม่ แต่ไม่ทิ้งเอกลักษณ์เดิมของลูกทุ่ง และที่สำคัญต้องมีสไตล์แบบหนู มิเตอร์ หนูบอกว่าในแง่ของการทำเพลงให้แก่ตัวเอง เขาจะวางคอนเซปต์โดยมี จุดยืนชัดเจน โดยเน้นการนำเสนเรื่องที่มีมุมมองกว้างขึ้นกว่าเดิม เช่นพูดถึงความรักในมุมมองที่เติบโตกว่าหนุ่มสาว ไม่จำกัดเฉพาะเรื่องรักที่คุ้นเคย
หนู มิเตอร์ : คือผมอายุมากแล้ว เราน่าจะนำเสนอเรื่องราวใหม่ๆ ได้ คือถ้าเราอายุน้อย สอนใครคงไม่ได้ ผมโตแล้ว ผมพูดเรื่องราวต่าง ๆ แง่มุมที่แตกต่าง เนื้อหาเพลงต้องมาแบบนี้ ดนตรีต้อง ใส่สำเนียงแบบของเรา คนฟัง ฟังผมเล่นก็ได้ยินมานาน มันมีสำนวน มีสำเนียง มีสไตล์ของผม คือมีลายมือของผม เหมือนเพลงนี้เป็นแบบของครู จิตรกร บัวเนียม เป็นต้น มันมีแคเรกเตอร์ ของตัวเอง ในเสียงดนตรีนั้นๆ

กับเพลงหนอนผีเสื้อ ของหนู มิเตอร์ เขาบอกว่า วัตถุดิบในการสร้างสรรค์ มาจากหลายแหล่งตนเองไม่ได้เขียนเพลงคนเดียว ทุกวันนี้การทำเพลงต้องมีทีมงานหลายคน และยอมรับว่าเพลงดังกล่าวไต่ขึ้ชาร์ตเร็วกว่าที่เขาคาด หนูมิเตอร์เผยถึงความสำเร็จในการสร้างสรรค์เพลงให้ บ่าววี และหลวงไก่ อีกว่าการทำงานเพลงให้ศิลปินในสังกัด ต้องดูว่า เขาคือใคร เขาร้องอย่างไร ดูจากบ่าววีนั้นเขาเป็น คนใต้ มีความเป็นลูกผู้ชายเข้มแข็ง แต่วงการเพลงต้องยอมรับว่า ทางใต้นั้นมีนักร้องชื่อ หลวงไก่มาก่อน เป็นนักร้องเพลงใต้แบบพิเศษด้วยคือ ร้องเพลงใต้ แต่หลวงไก่ไม่ใช่เพื่อชีวิตแบบสุดๆ เขาร้องเพลงมีสำเนียงใต้ไม่เยอะมาก และ คนภาคอื่นๆ ฟังได้
ในขณะที่ บ่าววี มีความเป็นใต้มากกว่า อธิบายง่ายๆ ก็คือได้กลิ่นสะตอแรงกว่าหลวงไก่มาก ฉะนั้น คนใต้รับได้ทันที ฉะนั้นการใส่สไตล์ใหม่ให้ บ่าววี ตนเองต้องสร้างสรรค์ หาเรื่องราวเข้ามาใหม่ เอา บิว กัลยา เขามาเสริมให้น่าสนใจแต่ คงของเดิมที่เขามีเอาไว้
ผมว่าการทำเพลงให้คนอื่น ยากกว่าทำเพลงให้ ตัวเองนะ ยากกว่า และ ลุ้นมากกว่างาน
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต






