อดีตเมีย-ลูกสาวหมอบุญ เครียดนอนห้องขังคืนแรก ยังให้การภาคเสธ ตำรวจจ่อออกหมายแดง ทนายชี้ถูกหมอบุญปลอมลายเซ็น ค้ำประกันในเช็ค
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ความคืบหน้าคดีของ นพ.บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ ซึ่งถูกออกหมายจับพร้อมผู้ร่วมขบวนการ 9 คน รวมถึงลูกและภรรยา ซึ่งปรากฏว่ามีการเช็นสลักหลังเช็คที่หมอบุญจ่ายให้แก่ผู้เสียหาย โดยขณะนี้หมอบุญหลบหนีไปต่างประเทศแล้ว ส่วนภรรยากับลูก ได้เข้าพบตำรวจแล้ว
อ่านข่าว : เปิดเส้นทางหนี หมอบุญ ย้ำล่าตัวถึงที่สุด พบจงใจหลอก 5 โครงการ เสียหาย 7.5 พันล้าน
ล่าสุด (24 พฤศจิกายน 2567) สำนักข่าวไทย รายงานว่า ภายหลังนางจารุวรรณ และนางสาวนลิน อดีตภรรยาและลูกสาวของหมอบุญ ซึ่งมีชื่อในหมายจับ ถูกตำรวจควบคุมตัวแล้ว มีการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา
โดย พลตำรวจตรี อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำลูกสาวหมอบุญเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือสอบปากคำอดีตภรรยาหมอบุญ ที่เมื่อคืนขอพัก และขอรับประทานยาโรคประจำตัวหลายครั้ง เนื่องจากอายุมากจึงต้องพักการสอบสวนไว้ก่อน และจะสอบเพิ่มเติมในช่วงบ่ายวันนี้ (24 พฤศจิกายน)
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การภาคเสธ แต่รายละเอียอยู่ในสำนวนการสอบสวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดี เตรียมขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ
เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก เฉพาะในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 มีผู้เสียหายแล้วกว่า 247 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 7,600 ล้านบาท ยังไม่นับรวมพื้นที่อื่น ๆ จากนี้ต้องหารือร่วมกับผู้บังคับบัญชา ว่าจะมีแนวทางรับแจ้งความกลุ่มผู้เสียหายอย่างไร และตอนนี้ก็มีผู้เสียหายจากต่างจังหวัดทยอยเข้าแจ้งความต่อเนื่อง
สำหรับหมอบุญ
ที่ทางอดีตภรรยาและลูกสาวให้ข้อมูลว่าอยู่ที่ประเทศจีนนั้น
พนักงานสอบสวนได้ยื่นเรื่องไปยังกองการต่างประเทศ
เพื่อขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดง และจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
ขณะที่บรรยากาศภายใน สร.พญาไท พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังอยู่ในห้องคุมขัง มีความเครียด แต่คลายกังวลได้บ้างเพราะแม่ลูกอยู่ด้วยกัน เมื่อเช้ามีญาติติดต่อขอเข้าเยี่ยม แต่ไม่สะดวกให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
อนึ่ง วานนี้ (23 พฤศจิกายน) เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า ภายหลังนางจารุวรรณ และนางสาวนลิน พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วนั้น นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ลูกความทั้ง 2 คนถูกหมอบุญปลอมแปลงลายมือชื่อ โดยตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีความผิดปกติ ทั้งลายเส้น น้ำหนักมือ รวมถึงรูปแบบตัวอักษร แต่ก็ยังไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
โดยเรื่องดังกล่าว ทางผู้เสียหายและทนายความได้แจ้งความไว้ที่ ปอศ. ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 แต่ไม่ได้เปิดเผยให้เป็นข่าว เนื่องจากการปลอมลายเซ็นมีส่วนเชื่อมโยงกับอีกหลายคดีที่เกี่ยวข้องทางเศรษฐกิจ จึงต้องแจ้งที่ ปอศ.
ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในศาลแพ่ง โดยศาลนัดพร้อมคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อสืบพยานเรื่องการปลอมลายเซ็น ส่วนคดีอื่น ๆ นัดเร็ว ๆ นี้ ส่วนสถานะของหมอบุญกับอดีตภรรยานั้น ได้หย่าร้างกันนานแล้ว และการปลอมแปลงลายเซ็นเพื่อทำสัญญาค้ำประกัน เกิดขึ้นหลังหย่าร้าง และช่วงนั้นนางจารุวรรณก็อยู่ต่างประเทศ โดยมั่นใจว่าคนที่ปลอมลายเซ็นก็คือหมอบุญ
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย, เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ความคืบหน้าคดีของ นพ.บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ ซึ่งถูกออกหมายจับพร้อมผู้ร่วมขบวนการ 9 คน รวมถึงลูกและภรรยา ซึ่งปรากฏว่ามีการเช็นสลักหลังเช็คที่หมอบุญจ่ายให้แก่ผู้เสียหาย โดยขณะนี้หมอบุญหลบหนีไปต่างประเทศแล้ว ส่วนภรรยากับลูก ได้เข้าพบตำรวจแล้ว
อ่านข่าว : เปิดเส้นทางหนี หมอบุญ ย้ำล่าตัวถึงที่สุด พบจงใจหลอก 5 โครงการ เสียหาย 7.5 พันล้าน
ล่าสุด (24 พฤศจิกายน 2567) สำนักข่าวไทย รายงานว่า ภายหลังนางจารุวรรณ และนางสาวนลิน อดีตภรรยาและลูกสาวของหมอบุญ ซึ่งมีชื่อในหมายจับ ถูกตำรวจควบคุมตัวแล้ว มีการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา
โดย พลตำรวจตรี อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำลูกสาวหมอบุญเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือสอบปากคำอดีตภรรยาหมอบุญ ที่เมื่อคืนขอพัก และขอรับประทานยาโรคประจำตัวหลายครั้ง เนื่องจากอายุมากจึงต้องพักการสอบสวนไว้ก่อน และจะสอบเพิ่มเติมในช่วงบ่ายวันนี้ (24 พฤศจิกายน)
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การภาคเสธ แต่รายละเอียอยู่ในสำนวนการสอบสวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดี เตรียมขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ
เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก เฉพาะในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 มีผู้เสียหายแล้วกว่า 247 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 7,600 ล้านบาท ยังไม่นับรวมพื้นที่อื่น ๆ จากนี้ต้องหารือร่วมกับผู้บังคับบัญชา ว่าจะมีแนวทางรับแจ้งความกลุ่มผู้เสียหายอย่างไร และตอนนี้ก็มีผู้เสียหายจากต่างจังหวัดทยอยเข้าแจ้งความต่อเนื่อง
ขณะที่บรรยากาศภายใน สร.พญาไท พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังอยู่ในห้องคุมขัง มีความเครียด แต่คลายกังวลได้บ้างเพราะแม่ลูกอยู่ด้วยกัน เมื่อเช้ามีญาติติดต่อขอเข้าเยี่ยม แต่ไม่สะดวกให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
อนึ่ง วานนี้ (23 พฤศจิกายน) เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า ภายหลังนางจารุวรรณ และนางสาวนลิน พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วนั้น นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ลูกความทั้ง 2 คนถูกหมอบุญปลอมแปลงลายมือชื่อ โดยตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีความผิดปกติ ทั้งลายเส้น น้ำหนักมือ รวมถึงรูปแบบตัวอักษร แต่ก็ยังไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
โดยเรื่องดังกล่าว ทางผู้เสียหายและทนายความได้แจ้งความไว้ที่ ปอศ. ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 แต่ไม่ได้เปิดเผยให้เป็นข่าว เนื่องจากการปลอมลายเซ็นมีส่วนเชื่อมโยงกับอีกหลายคดีที่เกี่ยวข้องทางเศรษฐกิจ จึงต้องแจ้งที่ ปอศ.
ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในศาลแพ่ง โดยศาลนัดพร้อมคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อสืบพยานเรื่องการปลอมลายเซ็น ส่วนคดีอื่น ๆ นัดเร็ว ๆ นี้ ส่วนสถานะของหมอบุญกับอดีตภรรยานั้น ได้หย่าร้างกันนานแล้ว และการปลอมแปลงลายเซ็นเพื่อทำสัญญาค้ำประกัน เกิดขึ้นหลังหย่าร้าง และช่วงนั้นนางจารุวรรณก็อยู่ต่างประเทศ โดยมั่นใจว่าคนที่ปลอมลายเซ็นก็คือหมอบุญ
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย, เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว