ปิดประตู ป้าติ๋ม รับมรดก 100 ล้าน เผยทำไมถึงไม่ได้ แถมแหม่มโดนแจ้งความทั้งที่ตาย

          ปิดตำนาน ป้าติ๋ม แม่บ้านรับมรดก 100 ล้าน หลังเจ้าของวิลล่าเขียนพินัยกรรมมอบมรดกให้ ด้านตำรวจสืบสวนพบ นิติกรรมอำพราง ให้ต่างชาติเป็นนอมินี งานนี้ตำรวจแจ้งความกลับ แม้กระทั่งแจ้งความเจ้าของเงินที่ตายไปแล้ว

          วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เดลินิวส์ รายงานว่า จากกรณีที่ นางแคทเธอรีน ชาวฝรั่งเศส เจ้าของวิลล่าบนเกาะสมุย เสียชีวิตในวิลล่าหรู และก่อนตายได้เขียนพินัยกรรมเพื่อยกมรดกให้กับ ป้าติ๋ม แม่บ้านคนสนิท เป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท ประกอบด้วยวิลล่าหรูราคา 30 ล้านบาท ที่ดินเปล่า 2 แปลงที่มีพื้นที่ติดวิลล่า ราคา 20 ล้านบาท ทรัพย์สิน เครื่องประดับ และเงินสดในธนาคารบางส่วน ซึ่งตอนนั้นก็เกิดข้อกังขาถึงข้อกฎหมายว่า ชาวต่างชาติสามารถถือครองทรัพย์สินในไทยได้ด้วยหรือ ทั้งที่กฎหมายระบุชัดว่า ต่างชาติไม่สามารถซื้อที่ดินในไทยได้

อ่านเพิ่มเติม ป้าติ๋ม เก็บตัวเงียบหลังโดนด่า - ทนายเปิดเคส กรณีไหนบ้างทำป้าไม่ได้มรดก 100 ล้าน


          ทั้งนี้ ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และพบพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่า ธุรกิจวิลล่านั้นเป็นการดำเนินการในลักษณะให้บุคคลต่างด้าวเป็นกรรมการ เข้าข่ายความผิดลักษณะตัวแทนอำพราง ตำรวจจึงได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังพบว่า มีสำนักงานกฎหมายที่เข้าไปช่วยเหลือ เพื่อจะทะเบียนนิติบุคคลของคนต่างด้าว และตำรวจกำลังสืบสวนเพื่อนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในเร็ว ๆ นี้

          ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ดังนี้

          1. บริษัท จี.วี.เอ็น.อี. จำกัด

          2. บริษัท แม็กซิเคท จำกัด ในฐานะนิติบุคคล

ในข้อหา

          - ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ

          - เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจ ที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9))

          - เป็นคนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

          - เป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้

นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่

          4. นายทองใส คติสุข อายุ 50 ปี

          5. นางรัชประภา โซเรดะ อายุ 36 ปี ข้อหา

ในข้อหา

          - ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ

          - ร่วมกันสนับสนุนช่วยเหลือให้คนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยผิดชอบด้วยกฎหมาย

          - เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9)) โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้

          - คนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้กระทำการดังกล่าว