ชายเปิดใจ ส่อมีรักต้องห้ามกับน้องสาว แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่รู้สึกผิดในใจ หวั่นสายตาคนรอบข้าง อยากรู้ รักนี้เป็นไปได้หรือไม่
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ในขณะที่ความรักในครอบครัวควรเป็นความรู้สึกบริสุทธิ์ที่มีต่อกัน แต่ชายคนหนึ่งต้องเผชิญกับความกลัดกลุ้ม เมื่อรู้ตัวดีว่าความรู้สึกที่มีต่อ "น้องสาว" ที่อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิต ได้เปลี่ยนไปจนแทบจะกลายเป็นรักต้องห้าม แม้อาจจะไม่ติดขัดข้อกฎหมาย และเขาก็ยังอดรู้สึกผิดไม่ได้ รวมถึงลังเลว่าปล่อยให้ความสัมพันธ์ในทิศทางที่เกินกว่าพี่น้อง เดินหน้าต่อไปดีหรือไม่
โดยเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่ส่งมายังคอลัมน์ปรึกษาปัญหาชีวิต เผยว่า เขากับน้องสาวมีความสัมพันธ์เกินเลย และได้จูบกันอย่างดูดดื่มลึกซึ้งกันแล้ว เรียกว่าอีกเพียงขั้นเดียวก็จะมีความสัมพันธ์ทางเพศกันแบบสุดทาง แม้พวกเขาจะโตมาด้วยกันในฐานะพี่น้องร่วมสายเลือดก็ตาม
ชายคนนี้เล่าว่า เขากับน้องสาวนึกว่าทั้งคู่เป็นลูกคนละแม่มาโดยตลอด แต่เพิ่งค้นพบความจริงในปี 2566 ว่าแม่เลี้ยงของเขาแอบนอกใจพ่อ ดังนั้น น้องสาวที่เกิดมาจึงไม่ได้มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับตัวเขาแต่อย่างใด ซึ่งนับตั้งแต่ค้นพบความจริง ความรู้สึกที่เขามีต่อน้องสาวก็เริ่มเปลี่ยนไป และถึงขั้นเคยมโนว่าได้อยู่ร่วมกันกับเธอ
สำหรับตัวเขา เป็นผู้ชายอายุ 39 ปี แม่ของเขาจากไปตั้งแต่ยังเล็ก ก่อนที่พ่อจะแต่งงานใหม่ตอนที่เขาอายุ 6 ขวบ เขาดีใจที่ได้มีแม่ใหม่ และก็ตื่นเต้นมากตอนที่ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกันใน 1 ปีต่อมา เขารักและเอ็นดูน้องสาวต่างแม่คนนี้มาก จนเมื่อเราโตขึ้น เราก็กลายเป็นเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน
น่าเศร้าที่ชีวิตแต่งงานของพ่อจบลงหลังเวลาผ่านไป 10 ปี แต่เขากับน้องสาวยังสนิทกันมาก เขารู้มาตลอดว่าน้องเป็นคนสวย ยิ่งเมื่อเธอเป็นผู้ใหญ่ ก็ยิ่งดูน่าดึงดูดใจ ปัจจุบันเธออายุ 32 ปีแล้ว
แต่สิ่งต่าง ๆ เริ่มเปลี่ยนไปในปีที่ผ่านมา เมื่อน้องสาวได้ชุดตรวจดีเอ็นเอมาเป็นของขวัญวันเกิด ทำให้พวกเขาค้นพบว่าตัวเองไม่ได้มีดีเอ็นเอเกี่ยวข้องกัน และในที่สุดแม่เลี้ยงก็ยอมสารภาพ ว่าตอนช่วงที่ให้กำเนิดลูกสาว เธอแอบมีความสัมพันธ์กับชายอีกคนเช่นกัน
แม้จะรู้เรื่องทั้งหมด เขากับน้องสาวยังคงเจอกันอยู่เรื่อย ๆ พร้อมกับความรู้สึกที่เปลี่ยนไป สิ่งต่าง ๆ ระหว่างเราเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนครั้งล่าสุดที่เธอกัน น้องสาวเปิดใจตรง ๆ ว่าอยากมีเซ็กส์กับเขา และบอกตามตรงว่าเขาเองก็ต้องการเช่นกัน
แต่อีกใจหนึ่งเขาก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องผิด เพราะแม้เขากับเธอจะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน ไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนเธอเป็นคนในครอบครัวของตัวเอง ตอนนี้เขากับเธออยู่ในจุดที่อีกนิดเดียวก็เกินเลย จนไม่สามารถอยกลับได้แล้ว และเธอก็ยังเอาแต่โทร. หาเขา
ทั้งนี้ เขารู้อยู่เต็มอกตัวว่าตัวเองรักผู้หญิงคนนี้มากกว่าน้องสาว แต่ก็ยังลังเลว่ามันถูกแล้วหรือไม่ ที่จะไปต่อกับเรื่องนี้ จึงอยากได้คำปรึกษา
ด้านเจ้าของคอลัมน์ ให้ความเห็นว่า จริง ๆ น้องสาวกับชายคนนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกัน อีกทั้งเขาก็ไม่ได้มีหน้าที่คอยดูแลเธอ ดังนั้น เขาจึงมีเสรีภาพทางกฎหมายอย่างเต็มที่ ในการคบหาหรือแม้แต่แต่งงานกับเธอ แต่หากเขาคิดจะเดินหน้า ย่อมมีผลกระทบต่อครอบครัวอย่างไม่ต้องสงสัย
โดยคนอื่น ๆ น่าจะมองพวกเขาเป็นพี่น้องแท้ ๆ กันมานานกว่า 30 ปี หากอยู่ ๆ เกิดจุดเปลี่ยน และต้องเห็นทั้งคู่กลายมาเป็นคนรัก ชายคนนี้พร้อมแล้วหรือไม่สำหรับแรงต่อต้านที่อาจจะเกิดขึ้น จากกลุ่มญาติหรือแม้แต่ตัวพ่อแม่อย่างไรก็ตาม มันคงจะเป็นการดีหากเขาลองไปขอคำแนะนำจากที่ปรึกษา ซึ่งน่าให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการความรู้สึกต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก The Sun
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
โดยเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่ส่งมายังคอลัมน์ปรึกษาปัญหาชีวิต เผยว่า เขากับน้องสาวมีความสัมพันธ์เกินเลย และได้จูบกันอย่างดูดดื่มลึกซึ้งกันแล้ว เรียกว่าอีกเพียงขั้นเดียวก็จะมีความสัมพันธ์ทางเพศกันแบบสุดทาง แม้พวกเขาจะโตมาด้วยกันในฐานะพี่น้องร่วมสายเลือดก็ตาม
ชายคนนี้เล่าว่า เขากับน้องสาวนึกว่าทั้งคู่เป็นลูกคนละแม่มาโดยตลอด แต่เพิ่งค้นพบความจริงในปี 2566 ว่าแม่เลี้ยงของเขาแอบนอกใจพ่อ ดังนั้น น้องสาวที่เกิดมาจึงไม่ได้มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับตัวเขาแต่อย่างใด ซึ่งนับตั้งแต่ค้นพบความจริง ความรู้สึกที่เขามีต่อน้องสาวก็เริ่มเปลี่ยนไป และถึงขั้นเคยมโนว่าได้อยู่ร่วมกันกับเธอ
สำหรับตัวเขา เป็นผู้ชายอายุ 39 ปี แม่ของเขาจากไปตั้งแต่ยังเล็ก ก่อนที่พ่อจะแต่งงานใหม่ตอนที่เขาอายุ 6 ขวบ เขาดีใจที่ได้มีแม่ใหม่ และก็ตื่นเต้นมากตอนที่ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกันใน 1 ปีต่อมา เขารักและเอ็นดูน้องสาวต่างแม่คนนี้มาก จนเมื่อเราโตขึ้น เราก็กลายเป็นเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน
น่าเศร้าที่ชีวิตแต่งงานของพ่อจบลงหลังเวลาผ่านไป 10 ปี แต่เขากับน้องสาวยังสนิทกันมาก เขารู้มาตลอดว่าน้องเป็นคนสวย ยิ่งเมื่อเธอเป็นผู้ใหญ่ ก็ยิ่งดูน่าดึงดูดใจ ปัจจุบันเธออายุ 32 ปีแล้ว
แต่สิ่งต่าง ๆ เริ่มเปลี่ยนไปในปีที่ผ่านมา เมื่อน้องสาวได้ชุดตรวจดีเอ็นเอมาเป็นของขวัญวันเกิด ทำให้พวกเขาค้นพบว่าตัวเองไม่ได้มีดีเอ็นเอเกี่ยวข้องกัน และในที่สุดแม่เลี้ยงก็ยอมสารภาพ ว่าตอนช่วงที่ให้กำเนิดลูกสาว เธอแอบมีความสัมพันธ์กับชายอีกคนเช่นกัน
แม้จะรู้เรื่องทั้งหมด เขากับน้องสาวยังคงเจอกันอยู่เรื่อย ๆ พร้อมกับความรู้สึกที่เปลี่ยนไป สิ่งต่าง ๆ ระหว่างเราเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนครั้งล่าสุดที่เธอกัน น้องสาวเปิดใจตรง ๆ ว่าอยากมีเซ็กส์กับเขา และบอกตามตรงว่าเขาเองก็ต้องการเช่นกัน
แต่อีกใจหนึ่งเขาก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องผิด เพราะแม้เขากับเธอจะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน ไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนเธอเป็นคนในครอบครัวของตัวเอง ตอนนี้เขากับเธออยู่ในจุดที่อีกนิดเดียวก็เกินเลย จนไม่สามารถอยกลับได้แล้ว และเธอก็ยังเอาแต่โทร. หาเขา
ทั้งนี้ เขารู้อยู่เต็มอกตัวว่าตัวเองรักผู้หญิงคนนี้มากกว่าน้องสาว แต่ก็ยังลังเลว่ามันถูกแล้วหรือไม่ ที่จะไปต่อกับเรื่องนี้ จึงอยากได้คำปรึกษา
ด้านเจ้าของคอลัมน์ ให้ความเห็นว่า จริง ๆ น้องสาวกับชายคนนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกัน อีกทั้งเขาก็ไม่ได้มีหน้าที่คอยดูแลเธอ ดังนั้น เขาจึงมีเสรีภาพทางกฎหมายอย่างเต็มที่ ในการคบหาหรือแม้แต่แต่งงานกับเธอ แต่หากเขาคิดจะเดินหน้า ย่อมมีผลกระทบต่อครอบครัวอย่างไม่ต้องสงสัย
โดยคนอื่น ๆ น่าจะมองพวกเขาเป็นพี่น้องแท้ ๆ กันมานานกว่า 30 ปี หากอยู่ ๆ เกิดจุดเปลี่ยน และต้องเห็นทั้งคู่กลายมาเป็นคนรัก ชายคนนี้พร้อมแล้วหรือไม่สำหรับแรงต่อต้านที่อาจจะเกิดขึ้น จากกลุ่มญาติหรือแม้แต่ตัวพ่อแม่อย่างไรก็ตาม มันคงจะเป็นการดีหากเขาลองไปขอคำแนะนำจากที่ปรึกษา ซึ่งน่าให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการความรู้สึกต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก The Sun