บริษัทอินเดียแจงดราม่า หลังมีข่าวไล่พนักงานที่เครียด เพื่อไม่ให้มีคนเครียดในที่ทำงาน กระทบกว่า 100 ชีวิต ลั่นไม่ได้ไล่ออก แค่ให้พัก ขอบคุณสังคมที่ถล่มเมนต์
วันที่ 10 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ news18.com รายงานว่า YesMadam บริษัทสตาร์ทอัปในประเทศอินเดีย ซึ่งเสนอบริการซาลอนที่บ้าน กำลังเผชิญกระแสวิจารณ์หนักบนโลกออนไลน์ หลังมีการเปิดเผยว่าทางบริษัทได้ไล่ออกพนักงานกว่า 100 คน ผ่านทางอีเมล
โดยพบว่าก่อนหน้านั้น ทางบริษัทได้จัดทำแบบสำรวจด้านสุขภาพจิตในกลุ่มพนักงาน แต่ต่อมาพนักงานกลับได้รับอีเมลที่ส่งจากผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งมีเนื้อหาแจ้งว่า
"ไม่นานมานี้เราได้ทำการสำรวจเพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกของคุณเกี่ยวกับความเครียดในงาน หลายคนแบ่งปันความกังวล ซึ่งเราให้เห็นคุณค่าและเคารพสิ่งนั้น ในฐานะบริษัทที่มุ่งมั่นจะส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ส่งเสริมสุขภาพดีและส่งเสริมซึ่งกันและกัน เราจึงพิจารณาผลตอบรับอย่างรอบคอบ
เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครที่มีความเครียดในการทำงานอีก เราจึงตัดสินใจอย่างยากลำบาก ในการแยกทางกับพนักงานที่แสดงออกถึงความเครียดอย่างมีนัยสำคัญ โดยการตัดสินใจนี้มีผลทันที พนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับรายละเอียดเพิ่มเติมแยกต่างหาก"
รายงานเผยว่า อนุสกา ดุตตา ตำแหน่งก๊อบปี้ไรเตอร์ที่ YesMadam คือผู้ที่แชร์ภาพหน้าจอ ซึ่งมีเนื้อหาอีเมลที่พนักงานได้รับจากผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์
ด้านหนึ่งในพนักงานที่ถูกไล่ออกหลังทำแบบสำรวจความเครียด ระบุว่า "เกิดอะไรขึ้นที่ YesMadam ก่อนอื่นคุณสุ่มทำแบบสำรวจ แล้วจากนั้นก็ไล่เราออกในชั่วข้ามคืน เพราะเรารู้สึกเครียดเนี่ยนะ และไม่ใช่แค่ผม แต่ยังมีคนอีก 100 ชีวิตที่ถูกไล่ออกเหมือนกัน"
เนื้อหาซึ่งบ่งชี้ว่าทางบริษัท เลือกที่จะไล่พนักงานที่รู้สึกเครียดในการทำงานออก ไม่ได้สร้างความตกใจในกลุ่มพนักงานเท่านั้น แต่ยังช็อกชาวเน็ตอย่างมาก หลายคนพากันถล่มคอมเมนต์บนเพจโซเชียลมีเดียของบริษัท เรียกร้องคำอธิบายและคำชี้แจงต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น
"เอาจริงดิ ? นี่มันช่างน่าสมเพช พวกเขากำลังล้อเล่นกับอาชีพของพนักงาน"
"นี่เป็นวิธีเลิกจ้างที่ไร้มนุษยธรรมที่สุด คุณแกล้งทำทีเป็นให้ความใส่ใจ ด้วยการส่งแบบสำรวจความเครียดไปให้ และด้วยเหตุผลเดียวกัน คุณเลือกที่จะไล่พนักงานออก น่าเหลือเชื่อและบ้ามาก นี่บอกถึงวัฒนธรรมการทำงานและบริการที่ท็อกซิก บริษัทสตาร์ทอัปที่เริ่มจากความท็อกซิกจะตายเร็วที่สุด หากนี่เป็นความจริง ฉันก็หวังว่าผู้คนจะคว่ำบาตรแบรนด์ของคุณ ทั้งในฐานะพนักงานและลูกค้า และหากนี่เป็นเพียงกลอุบายในการประชาสัมพันธ์ ฉันก็ยังหวังให้คนคว่ำบาตรเหมือนกัน เพราะมันมีวิธีที่ดีกว่านี้ในการสร้างเทรนด์"
"การไล่พนักงานออกจากการรายงานเรื่องความเครียดในแบบสำรวจของสถานที่ทำงาน ไม่เพียงแค่จะไม่เกิดประโยชน์ แต่ยังเหมือนการเสียดสี แทนที่จะแก้ไขต้นเหตุของความเครียด แนวทางนี้กลับเหมือนการตะโกนออกมาชัด ๆ ว่า "สวัสดิภาพของคุณไม่ใช่เรื่องที่เรากังวล'"
ภาพจาก X @pitdesi
ถึงครอบครัว YesMadam และชุมชนของเรา เราขออภัยจากใจต่อความกังวลใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากโพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งระบุว่าเราได้ไล่พนักงานออกเนื่องจากมีความเครียด เราขอชี้แจงว่า เราไม่มีวันทำสิ่งที่ไร้มนุษยธรรมเช่นนั้น ทีมงานของเราเปรียบเสมือนครอบครัว ความทุ่มเท การทำงานหนัก และความหลงใหลในงานของพวกเขาคือรากฐานความสำเร็จทั้งหมดของเรา โพสต์บนโซเชียลมีเดียเป็นความพยายามเน้นย้ำถึงปัญหาร้ายแรงของความเครียดในการทำงาน ตามที่วางแผนไว้ และคนที่แสดงความเห็นเกรี้ยวกราดหรือมีความเห็นที่แข็งกร้าว เราขอขอบคุณ
เมื่อมีคนที่พูดมันออกมา มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความใส่ใจ และความใส่ใจคือหัวใจของธุรกิจเรา พนักงานของ YesMadam ถูกไล่ออกเพราะความเครียดจริงไหม แน่นอนว่าไม่จริง พวกเขาไม่ได้ถูกไล่ออก แต่พวกเขาได้รับเวลาพักเพื่อตั้งหลักใหม่ พวกเขาไม่ได้ถูกปล่อยไป พวกเขาได้รับการสนับสนุนให้คลายความเครียด พวกเขาไม่ได้ถูกเลิกจ้าง แต่ได้รับการเสนอโอกาสให้ผ่อนคลาย เราไม่ได้ไล่ใครออก พวกเขาถูกกระตุ้นให้พักผ่อนและชาร์จพลังใหม่ ในโลกที่เชื่อมต่อถึงกันนี้ ขอบเขตระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตจางหายไป ความเครียดกระจายไปทั่ว และประสิทธิภาพในการทำงาน ก็มักจะบดบังความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของบริษัท ยังประกาศนโยบายใหม่ ซึ่งจะจัดบริการนวดศีรษะและสปาในที่ทำงาน เพื่อช่วยให้พนักงานผ่อนคลายและชาร์จพลังใหม่ รวมถึงมีนโยบายให้ลาเพื่อคลายเครียดได้เป็นครั้งแรกในอินเดีย โดยพนักงานทุกคนจะได้รับสิทธิลาคลายเครียดแบบได้รับเงินเดือน 6 วันต่อปี เพื่อใช้เวลาดูแลสุขภาพจิตและฟื้นฟูร่างกาย
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีจดหมายขอโทษจากทางบริษัท ชาวเน็ตยังตั้งคำถามถึงเจตนาที่แท้จริง รวมถึงขอความโปร่งใสมากกว่านี้ โดยบางคนมองว่าภาษาที่ปรากฏในอีเมลนั้นแปลกเกินกว่าจะเป็นการมอบวันพักผ่อนแก่พนักงาน เพราะเลือกใช้คำว่า "แยกทางกัน" แทนที่จะเป็น "พวกเขาได้รับการพัก" แต่ทั้งนี้ ทางบริษัทไม่ได้ตอบสนองอะไรเพิ่มเติม ต่อกระแสที่ตามมา
ภาพจาก LinkedIn YesMadam
ขอบคุณข้อมูลจาก news18.com, Mothership
วันที่ 10 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ news18.com รายงานว่า YesMadam บริษัทสตาร์ทอัปในประเทศอินเดีย ซึ่งเสนอบริการซาลอนที่บ้าน กำลังเผชิญกระแสวิจารณ์หนักบนโลกออนไลน์ หลังมีการเปิดเผยว่าทางบริษัทได้ไล่ออกพนักงานกว่า 100 คน ผ่านทางอีเมล
โดยพบว่าก่อนหน้านั้น ทางบริษัทได้จัดทำแบบสำรวจด้านสุขภาพจิตในกลุ่มพนักงาน แต่ต่อมาพนักงานกลับได้รับอีเมลที่ส่งจากผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งมีเนื้อหาแจ้งว่า
"ไม่นานมานี้เราได้ทำการสำรวจเพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกของคุณเกี่ยวกับความเครียดในงาน หลายคนแบ่งปันความกังวล ซึ่งเราให้เห็นคุณค่าและเคารพสิ่งนั้น ในฐานะบริษัทที่มุ่งมั่นจะส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ส่งเสริมสุขภาพดีและส่งเสริมซึ่งกันและกัน เราจึงพิจารณาผลตอบรับอย่างรอบคอบ
เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครที่มีความเครียดในการทำงานอีก เราจึงตัดสินใจอย่างยากลำบาก ในการแยกทางกับพนักงานที่แสดงออกถึงความเครียดอย่างมีนัยสำคัญ โดยการตัดสินใจนี้มีผลทันที พนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับรายละเอียดเพิ่มเติมแยกต่างหาก"
รายงานเผยว่า อนุสกา ดุตตา ตำแหน่งก๊อบปี้ไรเตอร์ที่ YesMadam คือผู้ที่แชร์ภาพหน้าจอ ซึ่งมีเนื้อหาอีเมลที่พนักงานได้รับจากผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์
ด้านหนึ่งในพนักงานที่ถูกไล่ออกหลังทำแบบสำรวจความเครียด ระบุว่า "เกิดอะไรขึ้นที่ YesMadam ก่อนอื่นคุณสุ่มทำแบบสำรวจ แล้วจากนั้นก็ไล่เราออกในชั่วข้ามคืน เพราะเรารู้สึกเครียดเนี่ยนะ และไม่ใช่แค่ผม แต่ยังมีคนอีก 100 ชีวิตที่ถูกไล่ออกเหมือนกัน"
เนื้อหาซึ่งบ่งชี้ว่าทางบริษัท เลือกที่จะไล่พนักงานที่รู้สึกเครียดในการทำงานออก ไม่ได้สร้างความตกใจในกลุ่มพนักงานเท่านั้น แต่ยังช็อกชาวเน็ตอย่างมาก หลายคนพากันถล่มคอมเมนต์บนเพจโซเชียลมีเดียของบริษัท เรียกร้องคำอธิบายและคำชี้แจงต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น
"เอาจริงดิ ? นี่มันช่างน่าสมเพช พวกเขากำลังล้อเล่นกับอาชีพของพนักงาน"
"นี่เป็นวิธีเลิกจ้างที่ไร้มนุษยธรรมที่สุด คุณแกล้งทำทีเป็นให้ความใส่ใจ ด้วยการส่งแบบสำรวจความเครียดไปให้ และด้วยเหตุผลเดียวกัน คุณเลือกที่จะไล่พนักงานออก น่าเหลือเชื่อและบ้ามาก นี่บอกถึงวัฒนธรรมการทำงานและบริการที่ท็อกซิก บริษัทสตาร์ทอัปที่เริ่มจากความท็อกซิกจะตายเร็วที่สุด หากนี่เป็นความจริง ฉันก็หวังว่าผู้คนจะคว่ำบาตรแบรนด์ของคุณ ทั้งในฐานะพนักงานและลูกค้า และหากนี่เป็นเพียงกลอุบายในการประชาสัมพันธ์ ฉันก็ยังหวังให้คนคว่ำบาตรเหมือนกัน เพราะมันมีวิธีที่ดีกว่านี้ในการสร้างเทรนด์"
"การไล่พนักงานออกจากการรายงานเรื่องความเครียดในแบบสำรวจของสถานที่ทำงาน ไม่เพียงแค่จะไม่เกิดประโยชน์ แต่ยังเหมือนการเสียดสี แทนที่จะแก้ไขต้นเหตุของความเครียด แนวทางนี้กลับเหมือนการตะโกนออกมาชัด ๆ ว่า "สวัสดิภาพของคุณไม่ใช่เรื่องที่เรากังวล'"
ภาพจาก X @pitdesi
บริษัทแถลงโต้ ยันแค่ให้พักเครียด ไม่ได้ไล่ออก
หลังเผชิญกระแสดราม่าบนโลกออนไลน์ ในที่สุดทางบริษัท YesMadam จึงได้ออกแถลงการณ์ผ่านทาง LinkedIn เพื่อขอโทษและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ระบุว่าถึงครอบครัว YesMadam และชุมชนของเรา เราขออภัยจากใจต่อความกังวลใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากโพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งระบุว่าเราได้ไล่พนักงานออกเนื่องจากมีความเครียด เราขอชี้แจงว่า เราไม่มีวันทำสิ่งที่ไร้มนุษยธรรมเช่นนั้น ทีมงานของเราเปรียบเสมือนครอบครัว ความทุ่มเท การทำงานหนัก และความหลงใหลในงานของพวกเขาคือรากฐานความสำเร็จทั้งหมดของเรา โพสต์บนโซเชียลมีเดียเป็นความพยายามเน้นย้ำถึงปัญหาร้ายแรงของความเครียดในการทำงาน ตามที่วางแผนไว้ และคนที่แสดงความเห็นเกรี้ยวกราดหรือมีความเห็นที่แข็งกร้าว เราขอขอบคุณ
เมื่อมีคนที่พูดมันออกมา มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความใส่ใจ และความใส่ใจคือหัวใจของธุรกิจเรา พนักงานของ YesMadam ถูกไล่ออกเพราะความเครียดจริงไหม แน่นอนว่าไม่จริง พวกเขาไม่ได้ถูกไล่ออก แต่พวกเขาได้รับเวลาพักเพื่อตั้งหลักใหม่ พวกเขาไม่ได้ถูกปล่อยไป พวกเขาได้รับการสนับสนุนให้คลายความเครียด พวกเขาไม่ได้ถูกเลิกจ้าง แต่ได้รับการเสนอโอกาสให้ผ่อนคลาย เราไม่ได้ไล่ใครออก พวกเขาถูกกระตุ้นให้พักผ่อนและชาร์จพลังใหม่ ในโลกที่เชื่อมต่อถึงกันนี้ ขอบเขตระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตจางหายไป ความเครียดกระจายไปทั่ว และประสิทธิภาพในการทำงาน ก็มักจะบดบังความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของบริษัท ยังประกาศนโยบายใหม่ ซึ่งจะจัดบริการนวดศีรษะและสปาในที่ทำงาน เพื่อช่วยให้พนักงานผ่อนคลายและชาร์จพลังใหม่ รวมถึงมีนโยบายให้ลาเพื่อคลายเครียดได้เป็นครั้งแรกในอินเดีย โดยพนักงานทุกคนจะได้รับสิทธิลาคลายเครียดแบบได้รับเงินเดือน 6 วันต่อปี เพื่อใช้เวลาดูแลสุขภาพจิตและฟื้นฟูร่างกาย
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีจดหมายขอโทษจากทางบริษัท ชาวเน็ตยังตั้งคำถามถึงเจตนาที่แท้จริง รวมถึงขอความโปร่งใสมากกว่านี้ โดยบางคนมองว่าภาษาที่ปรากฏในอีเมลนั้นแปลกเกินกว่าจะเป็นการมอบวันพักผ่อนแก่พนักงาน เพราะเลือกใช้คำว่า "แยกทางกัน" แทนที่จะเป็น "พวกเขาได้รับการพัก" แต่ทั้งนี้ ทางบริษัทไม่ได้ตอบสนองอะไรเพิ่มเติม ต่อกระแสที่ตามมา
ภาพจาก LinkedIn YesMadam
ขอบคุณข้อมูลจาก news18.com, Mothership