สาวทำข้าวกล่องไปกินมื้อเที่ยง เพื่อนร่วมงานชมกันไม่ขาดปาก ใครจะคิด โดนเจ้านายเรียกพบ-ไล่ออกทันที ให้เหตุผลสุดอึ้ง แบบนี้ได้เหรอ ?
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
วันที่ 10 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ Soha รายงานว่า หญิงเวียดนามรายหนึ่ง ได้ออกมาเปิดใจเรื่องที่ตัวเองต้องตกงานรับช่วงสิ้นปีอย่างคาดไม่ถึง ด้วยสาเหตุจากอาชีพเสริมเล็ก ๆ ในที่ทำงานของเธอ ซึ่งในขณะที่เธอมองว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นไม่ใช่เรื่องร้ายแรง และการไล่ออกก็ดูเป็นบทลงโทษที่เกิดเหตุ แต่เจ้านายกลับต้องการใช้เธอเป็นตัวอย่าง เชือดไก่ให้ลิงดูซะอย่างนั้น
โดยหญิงรายนี้เล่าว่า เธอชอบทำอาหารมากตั้งแต่ยังเด็ก มันทำให้เธอผ่อนคลายและรู้สึกสดชื่น แม้เธอจะยุ่งกับการเรียนแค่ไหนก็ยังมักจะหาเวลามาทำอาหารอร่อย ๆ ให้ครอบครัวอยู่เสมอ จนเมื่อเรียนจบมัธยมปลาย เธอตั้งใจจะทำงานด้านอาหารต่อ แต่พ่อแม่คัดค้านหนัก จากนั้นแม่ก็หางานดี ๆ ให้เธอ แถมยังได้เงินเดือนดีด้วย
งานของเธอเครียดมาก แต่สิ่งที่แย่ยิ่งกว่าก็คือต้องทนกินอาหารกลางวันแห้ง ๆ ที่ทำเอากลืนไม่ลง แถมกระเพาะของเธอก็อ่อนแอไม่เหมาะกับอาหารข้างทาง เธอจึงมักจะปวดท้องบ่อย ๆ ดังนั้น หลังจากคิดดูให้ถี่ถ้วนแล้ว เธอตัดสินใจตื่นให้เช้าขึ้น เพื่อทำข้าวกล่องอร่อย ๆ มาเป็นมื้อเที่ยงให้ตัวเอง
จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยมีคนในบริษัทนำข้าวกล่องมาเป็นมื้อเที่ยงเลย เมื่อเห็นข้าวกล่องของเธอดูน่ากินมาก มีเมนูที่สะดุดตาไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน เพื่อนร่วมงานก็มักจะเอ่ยปากชมเธอตลอด เธอเองก็อวดว่าแค่ต้องตื่นให้เช้าขึ้น 45 นาทีเพื่อทำข้าวกล่อง แถมยังคุมงบประมาณได้อยู่ที่ 30,000 ดอง (ราว 40 บาท) ก็ได้ทั้งของอร่อยและสุขภาพที่ดีแล้ว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
แต่จากนั้น อยู่ ๆ เพื่อนร่วมงานที่ชื่อ ง็อก ก็มาขอให้ฉันทำข้าวกล่องเผื่อด้วย โดยยินดีที่จะจ่ายค่าข้าวให้เธอเป็น 2 เท่าจากต้นทุน เธอจึงยอมตกลง เพราะยังไงซะเธอก็ต้องทำข้าวกล่องของตัวเองอยู่แล้ว แค่เพิ่มปริมาณอีกนิดก็ไม่เสียเวลา แถมยังมีคนมาช่วยลดค่าใช้จ่ายด้วย ถือว่าเป็นเรื่องดี
หลังจากกินข้าวกล่องที่เธอทำให้อย่างเอร็ดอร่อยในทุก ๆ วัน ง็อกก็ชมเธอไม่ขาดปาก ข่าวดี ๆ แบบนี้กระจายไปเร็วมาก ทุกคนในบริษัทต่างก็รู้เรื่องทักษะการทำอาหารของเธอ หลายคนก็เริ่มมาสั่งข้าวกล่องกับเธอเพิ่มขึ้น แต่แม้เธอจะอยากขยายขอบเขตของอาชีพเสริมนี้ เธอก็สามารถทำไหวเพียงวันละ 6 กล่องเท่านั้น
และในตอนที่อาชีพเสริมนี้กำลังเป็นไปได้สวย อยู่ ๆ เจ้านายก็เรียกเธอไปพบ แล้วบอกว่า...
"ผมไม่อนุญาตให้พนักงานนำข้าวกล่องมื้อกลางวันมากินที่บริษัท สำนักงานของเราเป็นพื้นที่ปิด และข้าวกล่องก็ส่งกลิ่นเหม็น อีกทั้งบริษัทยังมักจะต้อนรับแขกบ่อย ๆ การได้เห็นกล่องอาหารวางกระจายอยู่เต็มโต๊ะนั้นเป็นภาพที่น่าเกลียดมาก"
เจ้านาย ยังย้ำอีกว่า "คุณเป็นคนที่เริ่มนำข้าวกล่องมาที่บริษัท ดังนั้น คุณต้องรับผิดชอบ นี่เป็นเงินเดือนในเดือนนี้สำหรับคุณ เริ่มตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้ คุณไม่จำเป็นต้องมาทำงานอีก บริษัทไม่ต้องการพนักงานที่ไม่เป็นมืออาชีพแบบนี้"
ได้ยินสิ่งที่เจ้านายพูด หญิงรายนี้ก็กลัวมากและรีบขอโทษ โดยสัญญาว่าจะไม่นำข้าวกล่องมาที่ทำงานอีก แต่เจ้านายชี้ว่าหากเขาให้โอกาสเธอแก้ตัว เขาก็คงไม่สามารถตามเช็ดล้างสิ่งที่พนักงานทำได้อีกในอนาคต ดังนั้น เขาจึงต้องการไล่เธอออก เพื่อเป็นตัวอย่างให้พนักงานคนอื่นเห็น
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หญิงสาวรู้สึกเสียใจมาก ที่ต้องตกงานช่วนสิ้นปีแบบนี้ และสงสัยว่าแค่เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ก็ทำให้ถูกไล่ออกได้แล้วงั้นหรือ เธอมองว่าหากไม่อนุญาตให้นำข้าวกล่องมา ก็น่าจะแค่ตักเตือนกันก่อน แล้วค่อยมีการลงโทษหากฝ่าฝืนกฎ แต่นี่เจ้านายเล่นไม่ให้โอกาสเธอได้แก้ไขความผิดพลาดเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
วันที่ 10 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ Soha รายงานว่า หญิงเวียดนามรายหนึ่ง ได้ออกมาเปิดใจเรื่องที่ตัวเองต้องตกงานรับช่วงสิ้นปีอย่างคาดไม่ถึง ด้วยสาเหตุจากอาชีพเสริมเล็ก ๆ ในที่ทำงานของเธอ ซึ่งในขณะที่เธอมองว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นไม่ใช่เรื่องร้ายแรง และการไล่ออกก็ดูเป็นบทลงโทษที่เกิดเหตุ แต่เจ้านายกลับต้องการใช้เธอเป็นตัวอย่าง เชือดไก่ให้ลิงดูซะอย่างนั้น
โดยหญิงรายนี้เล่าว่า เธอชอบทำอาหารมากตั้งแต่ยังเด็ก มันทำให้เธอผ่อนคลายและรู้สึกสดชื่น แม้เธอจะยุ่งกับการเรียนแค่ไหนก็ยังมักจะหาเวลามาทำอาหารอร่อย ๆ ให้ครอบครัวอยู่เสมอ จนเมื่อเรียนจบมัธยมปลาย เธอตั้งใจจะทำงานด้านอาหารต่อ แต่พ่อแม่คัดค้านหนัก จากนั้นแม่ก็หางานดี ๆ ให้เธอ แถมยังได้เงินเดือนดีด้วย
งานของเธอเครียดมาก แต่สิ่งที่แย่ยิ่งกว่าก็คือต้องทนกินอาหารกลางวันแห้ง ๆ ที่ทำเอากลืนไม่ลง แถมกระเพาะของเธอก็อ่อนแอไม่เหมาะกับอาหารข้างทาง เธอจึงมักจะปวดท้องบ่อย ๆ ดังนั้น หลังจากคิดดูให้ถี่ถ้วนแล้ว เธอตัดสินใจตื่นให้เช้าขึ้น เพื่อทำข้าวกล่องอร่อย ๆ มาเป็นมื้อเที่ยงให้ตัวเอง
จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยมีคนในบริษัทนำข้าวกล่องมาเป็นมื้อเที่ยงเลย เมื่อเห็นข้าวกล่องของเธอดูน่ากินมาก มีเมนูที่สะดุดตาไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน เพื่อนร่วมงานก็มักจะเอ่ยปากชมเธอตลอด เธอเองก็อวดว่าแค่ต้องตื่นให้เช้าขึ้น 45 นาทีเพื่อทำข้าวกล่อง แถมยังคุมงบประมาณได้อยู่ที่ 30,000 ดอง (ราว 40 บาท) ก็ได้ทั้งของอร่อยและสุขภาพที่ดีแล้ว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
แต่จากนั้น อยู่ ๆ เพื่อนร่วมงานที่ชื่อ ง็อก ก็มาขอให้ฉันทำข้าวกล่องเผื่อด้วย โดยยินดีที่จะจ่ายค่าข้าวให้เธอเป็น 2 เท่าจากต้นทุน เธอจึงยอมตกลง เพราะยังไงซะเธอก็ต้องทำข้าวกล่องของตัวเองอยู่แล้ว แค่เพิ่มปริมาณอีกนิดก็ไม่เสียเวลา แถมยังมีคนมาช่วยลดค่าใช้จ่ายด้วย ถือว่าเป็นเรื่องดี
หลังจากกินข้าวกล่องที่เธอทำให้อย่างเอร็ดอร่อยในทุก ๆ วัน ง็อกก็ชมเธอไม่ขาดปาก ข่าวดี ๆ แบบนี้กระจายไปเร็วมาก ทุกคนในบริษัทต่างก็รู้เรื่องทักษะการทำอาหารของเธอ หลายคนก็เริ่มมาสั่งข้าวกล่องกับเธอเพิ่มขึ้น แต่แม้เธอจะอยากขยายขอบเขตของอาชีพเสริมนี้ เธอก็สามารถทำไหวเพียงวันละ 6 กล่องเท่านั้น
และในตอนที่อาชีพเสริมนี้กำลังเป็นไปได้สวย อยู่ ๆ เจ้านายก็เรียกเธอไปพบ แล้วบอกว่า...
"ผมไม่อนุญาตให้พนักงานนำข้าวกล่องมื้อกลางวันมากินที่บริษัท สำนักงานของเราเป็นพื้นที่ปิด และข้าวกล่องก็ส่งกลิ่นเหม็น อีกทั้งบริษัทยังมักจะต้อนรับแขกบ่อย ๆ การได้เห็นกล่องอาหารวางกระจายอยู่เต็มโต๊ะนั้นเป็นภาพที่น่าเกลียดมาก"
เจ้านาย ยังย้ำอีกว่า "คุณเป็นคนที่เริ่มนำข้าวกล่องมาที่บริษัท ดังนั้น คุณต้องรับผิดชอบ นี่เป็นเงินเดือนในเดือนนี้สำหรับคุณ เริ่มตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้ คุณไม่จำเป็นต้องมาทำงานอีก บริษัทไม่ต้องการพนักงานที่ไม่เป็นมืออาชีพแบบนี้"
ได้ยินสิ่งที่เจ้านายพูด หญิงรายนี้ก็กลัวมากและรีบขอโทษ โดยสัญญาว่าจะไม่นำข้าวกล่องมาที่ทำงานอีก แต่เจ้านายชี้ว่าหากเขาให้โอกาสเธอแก้ตัว เขาก็คงไม่สามารถตามเช็ดล้างสิ่งที่พนักงานทำได้อีกในอนาคต ดังนั้น เขาจึงต้องการไล่เธอออก เพื่อเป็นตัวอย่างให้พนักงานคนอื่นเห็น
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หญิงสาวรู้สึกเสียใจมาก ที่ต้องตกงานช่วนสิ้นปีแบบนี้ และสงสัยว่าแค่เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ก็ทำให้ถูกไล่ออกได้แล้วงั้นหรือ เธอมองว่าหากไม่อนุญาตให้นำข้าวกล่องมา ก็น่าจะแค่ตักเตือนกันก่อน แล้วค่อยมีการลงโทษหากฝ่าฝืนกฎ แต่นี่เจ้านายเล่นไม่ให้โอกาสเธอได้แก้ไขความผิดพลาดเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha