พ่อชาวไต้หวัน โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้ลงทุน เงินสูญ 7 แสน ลูกชายวางแผนเอาเงินคืน ด้วยการปลอมเป็น 3 คน หักหลังมิจฉาชีพ จนได้เงินคืนมาทั้งหมด สุดยอด

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ ETtoday
เผยเรื่องราวเกี่ยวกับกลโกงการหลอกเงินและการแก้แค้นเอาคืน
ภายหลังจากพ่อของชายรายหนึ่ง ถูกมิจฉาชีพ หลอกเอาเงินไปมากกว่า 7 แสน แต่ตำรวจไม่สามารถช่วยเอาเงินคืนมาได้
ทำให้ลูกชายต้องซ้อนแผนตลบหลัง โดยแกล้งเล่นละครสวม 3 บทบาท จนสามารถ "โกง"
เงินของพ่อคืนกลับมาได้ในที่สุด
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองหนานโถว ในไต้หวัน ชายรายนี้เปิดเผยว่า พ่อของเขาหลงเชื่อกลโกงการลงทุนบนเฟซบุ๊ก โดยมีบัญชีผู้ใช้ที่แอบอ้างเป็นหญิงสาวทักทายมาคุยด้วยทั้งวัน ก่อนที่จะชักชวนให้ลงทุนด้วยเงินสด 700,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 740,000 บาท) โดยให้พ่อของเขาต้องติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่ทราบที่มาบนโทรศัพท์มือถือ
หลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง เมื่อพ่อของเชายรายนี้เปิดเข้าไปข้อมูลในแอปฯ ดังกล่าว มันก็แสดงให้เห็นว่า เงินที่เขาลงทุนไป 700,000 นั้น ได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1.37 ล้านบาท) เขาตื่นเต้นดีใจมากเพราะได้กำไรสูงถึง 600,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 635,000 บาท) จากนั้นเขาจึงต้องการจะถอนเงินต้นคืน แต่อีกฝ่ายปฏิเสธ อ้างว่ายอดเงินจะต้องถึงจำนวนหนึ่งที่กำหนดก่อน ถึงจะสามารถถอนออกมาได้
หลังจากเกิดความไม่สบายใจ พ่อของชายรายนี้จึงมาปรึกษาลูกชาย เมื่อลูกชายได้ฟังเรื่องราวก็เข้าใจทันทีว่ามันคือการฉ้อโกงของมิจฉาชีพ ทว่าพ่อของเขาก็ยังไม่อยากเชื่อ จนกระทั่งเขาพาพ่อไปแจ้งความ หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวน ก็สามารถจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้บ้าง แต่ไม่สามารถกู้คืนเงินจำนวน 700,000 บาทกลับมาได้
ผู้เป็นพ่อเสียใจมากที่ไม่ได้เงินคืน เพราะเป็นเงินเก็บออมทั้งชีวิตที่หามาด้วยความยากลำบาก ทางลูกชายจึงโกรธแค้น เขาคิดหนักตลอดทั้งคืนจนเกิดความคิดว่า พวกมิจฉาชีพที่ฉ้อโกงคนอื่นก็คงจะมีความโลภมากเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงวางแผนตลบหลังจากจุดอ่อนข้อนี้เช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน เขาได้อาศัยโอกาสนี้ทำเนียนเปลี่ยนบทสนทนามาบอกว่า "ตอนนี้ครอบครัวของเขาต้องการเงิน เขาสามารถถอนเงิน 700,000 จากกำไรออกมาก่อนได้หรือไม่ ?" แต่อีกฝ่ายมีท่าทีไม่เต็มใจในตอนแรก แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ อดทนคุยหลอกล่อกับอีกฝ่ายต่อไปอีกหลายชั่วโมง
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังแกล้งทำเป็นเพื่อนอีกคนทักเข้าไปคุย บอกว่าเห็นเพื่อน 2 คนมาคุยว่ามีช่องทางลงทุนทำกำไรดี จึงเกิดความสนใจด้วย จุดนี้เองที่ทำให้จนอีกฝ่ายเกิดความชะล่าใจคิดว่าปลาตัวใหญ่หลายตัวกำลังจะมารุมกินเหยื่อ จนท้ายที่สุดทางมิจฉาชีพจึงยอมให้เงินจำนวน 700,000 ตามที่ตกลง
หลังจากนั้น เขายังคงแกล้งทำเป็นเพื่อนที่สนใจจะลงทุนคุยกับแก๊งมิจฉาชีพต่อ พูดคุยจริงจังเกี่ยวกับรายละเอียดการลงทุนเพื่อดึงดูดความสนใจเอาไว้ไม่ให้คิดว่ามีอะไรผิดปกติ ส่วนทางด้านของพ่อเธอ อีกฝ่ายยังไม่เลิกหลอกลวงบอกว่าในแอปฯ ตอนนี้บัญชีของเขามีกำไรสูงถึง 2.35 ล้าน แต่ต้องจ่ายภาษี 5-10 เปอร์เซ็นต์ก่อนถึงจะถอนได้
อย่างไรก็ตาม คราวนี้พ่อของเขาไม่ถูกหลอกอีกต่อไป พร้อมทั้งดีใจที่ได้เงินต้นคืนกลับมาแล้ว