ดราม่าประเด็นร้อน แม่เจ็บท้องใกล้จะคลอด จะไปโรงพยาบาลเจอรถยนต์ EV ทำพิษ สตาร์ตไม่ได้รออัปเดตระบบเกือบชั่วโมง
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ EV โดดเด่นเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่าย หลายคนจึงนิยมใช้เพราะคิดว่าสะดวก แต่ในยามคับขันอาจจะกลายเป็นอุปสรรคได้อย่างที่คาดไม่ถึง
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เผยเรื่องราวของหญิงตั้งครรภ์รายหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเรื่องราวของเธอได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กว้างขวาง ภายหลังจากเธอเผชิญเหตุไม่คาดฝัน ในขณะที่เธอเจ็บท้องกำลังจะขับรถไปคลอดลูกที่โรงพยาบาล แต่รถกลับสตาร์ตออกจากบ้านไปไม่ได้ เหตุเพราะระบบซอฟต์แวร์ของรถยนต์ไฟฟ้ากำลังอัปเดต
เรื่องราวนี้ถูกนำมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา
โดยชายรายหนึ่งจากมณฑลซานตง ประเทศจีน ได้โพสต์วิดีโอบนแพลตฟอร์ม Douyin
เล่าว่า เขากำลังจะพาภรรยาที่เจ็บท้องจะคลอดไปคลอดลูกที่โรงพยาบาล
แต่กลับพบว่ารถสตาร์ตไม่ได้ ต้องรอการอัปเดตแบบไร้สาย (OTA) เป็นเวลา 51
นาที โดยรถยนต์พวกเขาเป็นรถ SUV ของ Li Auto
บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า
300,000 หยวน (ราว 1.4 ล้านบาท)
สามีรายนี้เผยว่า เขากดเปิดใช้งานอัปเดตระบบที่แสดงบนหน้าจอรถยนต์โดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้น เขาก็รีบโทรศัพท์ไปยังฝ่ายบริการลูกค้าของ Li Auto เพื่อขอให้ยกเลิกการอัปเดต แต่ทางพนักงานแจ้งว่าไม่สามารถหยุดได้ สถานการณ์ตอนนั้นบีบคั้นมาก รถพยาบาลก็ไม่สามารถเข้ามาได้ เพราะทางเข้าบ้านของพวกเขาถูกรถคันอื่นปิดกั้น
ท้ายที่สุด สามีภรรยาคู่นี้จึงเหลือทางเลือกเดียว คือการพาภรรยาของเขาที่เจ็บท้องเดินออกจากชุมชนไปท่ามกลางอากาศหนาวเย็นเพื่อไปขึ้นรถแท็กซี่ ด้วยการเดินเร็วและความทุกข์ทางจิตใจทำให้อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์เพิ่มขึ้น เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ภรรยาของเขาก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดคลอดแบบฉุกเฉิน
สามีเผยว่า ภรรยาของเขากล่าวถึงความเจ็บปวดในขณะนั้นว่า "ฉันมีรถ แต่ฉันต้องฝืนเดินด้วยความเจ็บปวดจากปากมดลูกที่ขยายออกเรื่อย ๆ เพื่อที่จะไปเรียกแท็กซี่ ทุกย่างก้าวล้วนทรมาน"
จากนั้นในวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา สามีได้อัปเดตเรื่องราวว่า พวกเขาผ่านเหตุการณ์วิกฤตในวันนั้นมาได้ ขณะนี้ภรรยาและลูกสาวของเขาปลอดภัยแล้ว
เรื่องราวนี้ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ มีผู้เข้าไปติดตามดูมากกว่า 35 ล้านครั้ง พร้อมทั้งคอมเมนต์วิจารณ์ถกเถียง โดยส่วนหนึ่งมองว่าเป็นความผิดของสามี กล่าวทำนองว่า "เขาตกใจและกดปุ่มยืนยันการอัปเดตผิด ! แต่เขากลับโทษบริษัทผลิตรถยนต์" ในขณะที่อีกฝ่ายแย้งว่า "ระบบอัปเดตของรถยนต์ที่หยุดไม่ได้นั้นแย่มาก เพราะไม่ได้คำนึงถึงเหตุฉุกเฉินที่เจ้าของรถอาจเผชิญ"
ด้านตัวแทนของบริษัท Li Auto ได้แจ้งว่า เหตุการณ์กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยอธิบายในเบื้องต้นว่า "เจ้าของรถจะได้รับแจ้งก่อนการอัปเดต และสามารถเลือกได้ว่าจะอัปเดตทันทีหรือเลื่อนออกไปก่อน เมื่อการอัปเดตเริ่มต้นขึ้นแล้ว จะไม่สามารถหยุดได้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย"
เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ฟู่เจี้ยน ทนายความจากสำนักงานกฎหมาย ในมณฑลเหอหนาน เผยกับสื่อว่า ในกรณีนี้ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับรถยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์อาจจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหาย แต่คู่สามีภรรยาสามารถเรียกร้องค่าชดเชยสำหรับการสูญเสียทางการเงิน ซึ่งมีผลมาจากข้อบกพร่องด้านการออกแบบได้ เช่น ค่าแท็กซี่ หรืออื่น ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก South China Morning Post
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เผยเรื่องราวของหญิงตั้งครรภ์รายหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเรื่องราวของเธอได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กว้างขวาง ภายหลังจากเธอเผชิญเหตุไม่คาดฝัน ในขณะที่เธอเจ็บท้องกำลังจะขับรถไปคลอดลูกที่โรงพยาบาล แต่รถกลับสตาร์ตออกจากบ้านไปไม่ได้ เหตุเพราะระบบซอฟต์แวร์ของรถยนต์ไฟฟ้ากำลังอัปเดต
สามีรายนี้เผยว่า เขากดเปิดใช้งานอัปเดตระบบที่แสดงบนหน้าจอรถยนต์โดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้น เขาก็รีบโทรศัพท์ไปยังฝ่ายบริการลูกค้าของ Li Auto เพื่อขอให้ยกเลิกการอัปเดต แต่ทางพนักงานแจ้งว่าไม่สามารถหยุดได้ สถานการณ์ตอนนั้นบีบคั้นมาก รถพยาบาลก็ไม่สามารถเข้ามาได้ เพราะทางเข้าบ้านของพวกเขาถูกรถคันอื่นปิดกั้น
ท้ายที่สุด สามีภรรยาคู่นี้จึงเหลือทางเลือกเดียว คือการพาภรรยาของเขาที่เจ็บท้องเดินออกจากชุมชนไปท่ามกลางอากาศหนาวเย็นเพื่อไปขึ้นรถแท็กซี่ ด้วยการเดินเร็วและความทุกข์ทางจิตใจทำให้อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์เพิ่มขึ้น เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ภรรยาของเขาก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดคลอดแบบฉุกเฉิน
สามีเผยว่า ภรรยาของเขากล่าวถึงความเจ็บปวดในขณะนั้นว่า "ฉันมีรถ แต่ฉันต้องฝืนเดินด้วยความเจ็บปวดจากปากมดลูกที่ขยายออกเรื่อย ๆ เพื่อที่จะไปเรียกแท็กซี่ ทุกย่างก้าวล้วนทรมาน"
จากนั้นในวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา สามีได้อัปเดตเรื่องราวว่า พวกเขาผ่านเหตุการณ์วิกฤตในวันนั้นมาได้ ขณะนี้ภรรยาและลูกสาวของเขาปลอดภัยแล้ว
เรื่องราวนี้ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ มีผู้เข้าไปติดตามดูมากกว่า 35 ล้านครั้ง พร้อมทั้งคอมเมนต์วิจารณ์ถกเถียง โดยส่วนหนึ่งมองว่าเป็นความผิดของสามี กล่าวทำนองว่า "เขาตกใจและกดปุ่มยืนยันการอัปเดตผิด ! แต่เขากลับโทษบริษัทผลิตรถยนต์" ในขณะที่อีกฝ่ายแย้งว่า "ระบบอัปเดตของรถยนต์ที่หยุดไม่ได้นั้นแย่มาก เพราะไม่ได้คำนึงถึงเหตุฉุกเฉินที่เจ้าของรถอาจเผชิญ"
ด้านตัวแทนของบริษัท Li Auto ได้แจ้งว่า เหตุการณ์กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยอธิบายในเบื้องต้นว่า "เจ้าของรถจะได้รับแจ้งก่อนการอัปเดต และสามารถเลือกได้ว่าจะอัปเดตทันทีหรือเลื่อนออกไปก่อน เมื่อการอัปเดตเริ่มต้นขึ้นแล้ว จะไม่สามารถหยุดได้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย"
เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ฟู่เจี้ยน ทนายความจากสำนักงานกฎหมาย ในมณฑลเหอหนาน เผยกับสื่อว่า ในกรณีนี้ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับรถยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์อาจจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหาย แต่คู่สามีภรรยาสามารถเรียกร้องค่าชดเชยสำหรับการสูญเสียทางการเงิน ซึ่งมีผลมาจากข้อบกพร่องด้านการออกแบบได้ เช่น ค่าแท็กซี่ หรืออื่น ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก South China Morning Post