ส่อระอุ ชาวกัมพูชาโผล่ร้องเพลงที่ปราสาทตาเมือนธม บนดินแดนไทย เผยสถานการณ์ล่าสุด

          ชาวกัมพูชาโผล่ร้องเพลงหน้าปราสาทตาเมือนธม พื้นที่ของไทย ด้านทหารเขมรโต้เดือด จนท. พบปีที่แล้วก็เคยทำ ล่าสุดเจรจาสร้างความเข้าใจแล้ว

          จากกรณีคณะทหารจากกัมพูชา และประชาชนจำนวนหนึ่ง ขึ้นมาบนปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในเขตรอยต่อชายแดนประเทศไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ แล้วยืนทำคอนเทนต์ ร้องเพลง ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเพลงชาติกัมพูชา แต่ตรวจสอบแล้ว เป็นเพลงปลุกใจเกี่ยวกับความสามัคคี

          จากคลิปจะเห็นว่า มีทหารของกัมพูชาและชาวกัมพูชาส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง ซึ่งมีรายงานตามมาว่า ผู้หญิงในภาพ เป็นบรรดาภรรยาของนายทหาร กัมพูชา มายืนเรียงกันหน้าปราสาท แล้วถ่ายคลิปร้องเพลงปลุกใจ ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเข้ามาตักเตือนแล้ว เป่านกหวีดห้ามไม่ให้มีการร้องเพลง หรือแสดงออกทางสัญลักษณ์ จากนั้นมีการโต้เถียงกัน

          ต่อมาคนที่ใส่เสื้อแขนยาวสีขาว เป็นผู้บังคับบัญชาของทหารฝั่งประเทศเขมร ได้พูดทั้งภาษาไทยและภาษาเขมรประมาณว่า "ห้ามไม่ให้ทหารฝั่งไทยเข้ามาเหยียบพื้นที่บริเวณนี้สักขาเดียว ถ้าจะยิงก็ยิง" และฝั่งทหารไทยจึงพูดตอบไปด้วยเหตุผลว่า "ผมมายืนตรงนี้เพราะได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา"

แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำไม่อนุญาตให้กัมพูชาแสดงออกที่ปราสาท เจรจาคลี่คลายแล้ว

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ปราสาทตาเมือนธมอยู่ในดินแดนของไทย แต่พื้นที่คาบเกี่ยวกับพื้นที่ที่ยังปักปันไม่แล้วเสร็จ ฝ่ายไทย อนุโลมให้กัมพูชาขึ้นมาสักการบูชาได้ แต่ต้องไม่แสดงออกสัญลักษณ์ใด ๆ การที่ทหารกัมพูชาขึ้นมาร้องเพลงทำไม่ได้ ฝ่ายไทยจึงเข้าไปท้วงติง ไม่เช่นนั้นอนาคตจะเกิดปัญหา หากนำภาพถ่ายและคลิปไปกล่าวอ้าง

          นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาฝั่งกัมพูชาตามช่องทางคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา ซึ่งขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้วและกองกำลังสุรนารีได้ทำหนังสือประท้วงแล้ว

พบปี 2567 ไทยเคยส่งหนังสือประท้วง ปมกัมพูชาขึ้นมาร้องเพลงแล้ว 1 ครั้ง

          ล่าสุด (18 กุมภาพันธ์) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า กรณีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2567 ทางกองกำลังสุรนารี ค่ายวีรวัฒน์โยธิน เคยส่งหนังสือไปประท้วงไปแล้ว หลังตรวจพบว่ามีประชาชน พระสงห์ ทหาร และตำรวจกัมพูชา ทำการรวมกลุ่มยืนร้องเพลงบริเวณปราสาทตาเมือนทม เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้เข้าห้ามปรามไม่ให้กระทำการดังกล่าว อีกทั้งยังมีความพยายามเดินไปในเส้นทางที่ฝ่ายไทยไม่อนุญาต ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นตามข้อตกลงเดิมที่ทั้งสองฝ่ายได้กำหนดถึงการปฏิบัติของทั้งสองฝ่ายในการเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม


          กองกำลังสุรนารีจึงขอแสดงความไม่สบายใจต่อการกระทำของฝ่ายกัมพูชาในครั้งนี้ซึ่งอาจกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีในระดับพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงขึ้นในอนาคต จึงขอให้ท่านแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ชี้แจงถึงการปฏิบัติในการเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม ให้กับประชาชน หรือนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังปราสาทตาเมือนธม ไม่ให้กระทำการในลักษณะดังกล่าวอีก ทั้งนี้เพื่อแสดงถึงความจริงใจ และความพยายามในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทั้งเป็นการรักษาความสัมพันธ์อันดีของทั้ง 2 ประเทศต่อไป หน่วยหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าคงจะได้รับความร่วมมือด้วยดีจากท่านเช่นที่ผ่านมา จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไป ขอแสดงความนับถือ

รมว.กลาโหม รับไทยไม่สบายใจ หวั่นเป็นประเด็นขัดแย้ง ส่งหนังสือประท้วงแล้ว

          ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในไทย เพียงแต่เส้นเขตแดนยังแบ่งกันไม่ชัดซึ่งเป็นเรื่องต้องพูดคุยกัน พร้อมกล่าวย้ำว่า การแสดงสัญลักษณ์ในลักษณะดังกล่าวเพื่อแสดงให้เห็นว่า "ไทยไม่สบายใจ"

          ผู้ที่ไปร้องเพลงปลุกใจ นอกจากประชาชนกัมพูชาแล้ว แต่ยังมีภรรยาของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกัมพูชาด้วย ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ พร้อมย้ำว่า ไทยไม่อยากให้เป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง หากมีความสงบสุขไว้จะดีกว่า ทั้งนี้ไทยได้แสดงสัญลักษณ์ ผ่านการทำหนังสือประท้วงไปยังกัมพูชาแล้ว ว่าไม่ควรกระทำแบบนั้น

ผู้บัญชาการไทย-กัมพูชา เจรจาสร้างความเข้าใจ ย้ำจุดยืนรักษาความสัมพันธ์อันดี

          ขณะที่ พ.อ. ภาคภูมิ นภากาศ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 2 และ พ.อ. โปว เพง หัวหน้า หน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่โอร์เสม็ด ได้พบปะพัฒนาสัมพันธ์ เพื่อหารือสร้างความเข้าใจแก้ปัญหาพื้นที่ชายแดนร่วมกัน และเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด ที่หน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ 2 จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยผลการพูดคุยทั้ง 2 ฝ่ายมีความเข้าใจ ที่จะรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ป้องกันความขัดแย้ง โดยทั้ง 2 ฝ่ายทำความเข้าใจกันได้ด้วยดี


ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้