หนุ่มเล่าประสบการณ์ผิดหวัง อดีตเจ้าสาวเพิ่งแต่งงานกันไม่กี่วัน ก่อนหย่าไปเปิดตัวกับมือที่สามคนใกล้ตัว พ้อคนที่ไว้ใจร้ายที่สุด

ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ออกมาเปิดเผยเรื่องราวชวนน่าเห็นใจของผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งแต่งงานกับคนรักที่คบหากันมานาน แต่ไม่กี่วันก็ต้องหย่าร้างกัน เพราะแฟนนอกใจ โดยฝ่ายหญิงไปคบซ้อนกับญาติของเจ้าบ่าว ก่อนจะเปิดตัวคบกันหลังจากที่หย่ากับอดีตสามีได้ไม่กี่วัน
เพจเล่าเรื่องราวว่า ฝ่ายชายคบกับแฟนมา 4-5 ปี และเพิ่งแต่งงานกันวันที่ 5 มกราคม 2568 ก่อนจะหย่ากันในวันที่ 15 มกราคม โดยอดีตภรรยาออกจากบ้านฝ่ายชายไปวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ไปใช้ชีวิตกับญาติของฝ่ายชาย เนื่องจากฝ่ายหญิงนั้นนอกใจไปคบกับญาติของอดีตสามี
ที่ผ่านมา อดีตภรรยาและชู้สวมเขามาตลอด ฝ่ายชายยอมแต่งงานให้เพื่อรักษาหน้าของทางฝ่ายหญิงทั้งที่รู้อยู่เต็มอกเพราะคิดจะให้โอกาสและเลือกแล้ว
หลังผ่านไปหลายเดือน ฝ่ายหญิงมีการติดต่อและออกไปเที่ยวกับญาติฝ่ายชายบ่อยมากขึ้น มากถึงขั้นว่าทุกอาทิตย์ แต่ด้วยความไว้ใจเพราะเชื่อคำพูดของเขาว่าไม่มีอะไร ทั้งที่ในใจลึก ๆ ก็แอบคิด แต่ด้วยเป็นคนไม่ค่อยพูดอะไรเพราะไม่มีหลักฐานมัดตัวอะไรทั้งสองคน
ที่หนักสุดคือหลังงานแต่งแค่ 2 วัน ฝ่ายหญิงและชู้รีบออกไปหากัน ทั้งสองคนพยายามลงโซเชียลไปสถานที่เดียวกัน ลงเพลงบอกรักกัน พีคกว่านั้นคืออกจากบ้านของปุ๊บ ฝ่ายหญิงไปอยู่ที่บ้านของญาติฝ่ายชายทันที
ก่อนหน้านี้ได้แต่หลอกตัวเองว่าไม่มีอะไร ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก คนมาบอกเยอะมาก แต่ไม่มีหลักฐานมากพอ ที่ผ่านมามั่นใจมากว่าตัวเองได้ตั้งใจดูแลผู้หญิงคนนี้อย่างเต็มที่และดีที่สุด
บทสรุปของเรื่องนี้ ทั้งสองคนเปิดตัวกันแบบไม่มียางอาย ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข แฟนนอกใจว่าแย่แล้ว นอกใจไปคบกับญาติของตัวแย่กว่า คนที่ไว้ใจร้ายที่สุด หญิงก็ร้ายชายก็เลว
ฝากถึงเพื่อนด้วยนะ ถ้ารักเพื่อนเตือนบ้างไม่ใช่ เป็นไม้กันหมา เอาสมองคิดกันบ้างอย่าคิดหวังดีกับเพื่อนไปในทางที่ผิด เพราะสุดเพื่อนก็ช่วยปิดความเลวไม่ได้
เรื่องราวนี้ถูกแชร์ออกไปกว่า 4.1 พันครั้ง ซึ่งหลายคนต่างเห็นใจที่เรื่องนี้มือที่สามกลับเป็นคนใกล้ตัว โดยต่างเป็นห่วงฝ่ายชายที่ถูกนอกใจ มองว่าควรจะรักตัวเองให้มากกว่านี้ เพราะเชื่อว่าจากหลาย ๆ เหตุการณ์ที่เจอก่อนจะแต่งงาน เป็นสัญญาณว่าไม่ควรที่จะไปต่อจนถึงขั้นนั้น หากถูกคนรักสวมเขามาตลอดเช่นนี้ เป็นต้น