
หนึ่งในแรงผลักดันที่สำคัญของพระราชกำหนดนี้คือ ความพยายามในการสกัดกั้นภัยจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่แฝงตัวมากับระบบการเงินรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการฟอกเงิน การฉ้อโกง หรือการระดมทุนที่ผิดกฎหมายผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ โดยการที่กฎหมายระบุให้ผู้ประกอบการต่างชาติที่มีการใช้ภาษาไทยบนแพลตฟอร์ม หรือมีโดเมนที่สื่อถึงประเทศไทย แม้กระทั่งรองรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินบาทไทย ต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของ ก.ล.ต. นั้น เป็นเครื่องยืนยันว่ารัฐไทยกำลังจริงจังกับการควบคุมเส้นทางเงินดิจิทัลอย่างเข้มงวดและทั่วถึงมากขึ้น โดยไม่ปล่อยให้ข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์เป็นช่องว่างให้ผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาส
การขยายกรอบการควบคุมในพระราชกำหนดฉบับใหม่นี้รวมไปถึง “บริการจากต่างประเทศ” และยังแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการปรับตัวของกฎหมายระหว่างโลกจริงกับโลกดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ผู้ให้บริการรายใหญ่เท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบ แต่ผู้ใช้งานทั่วไปก็จำเป็นต้องตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน เพราะการเลือกใช้แพลตฟอร์มต่างประเทศโดยไม่รู้เงื่อนไขอาจทำให้เกิดความเสี่ยงทั้งทางกฎหมายและการเงินโดยไม่รู้ตัว ยิ่งในยุคที่คนจำนวนมากเริ่มหันมาใช้กระเป๋าบิทคอยน์ในการถือครองและแลกเปลี่ยนคริปโตแทนการพึ่งพาเงินสดแบบดั้งเดิม การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายนี้ก็ยิ่งควรถูกจับตามองมากขึ้น
ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลควรเร่งปรับตัวเพื่อลดความเสี่ยงในการละเมิดกฎหมาย ทั้งในด้านการออกแบบเว็บไซต์ การเลือกชื่อโดเมน ไปจนถึงช่องทางรับชำระเงินและการให้บริการลูกค้า เพราะไม่ว่าจะตั้งสำนักงานที่ใดในโลก หากมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายให้บริการแก่คนไทยก็จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทยเช่นเดียวกัน นี่คือสัญญาณชัดเจนที่สะท้อนว่าไทยไม่ได้ต้องการปิดกั้นเทคโนโลยีใหม่ แต่ต้องการจัดระเบียบเพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมและผู้ใช้งานแต่ละรายในระยะยาว
แม้พระราชกำหนดฉบับนี้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการจัดระเบียบในระดับสากล แต่ก็ถือว่าเป็นการส่งสารที่หนักแน่นไปยังอุตสาหกรรมคริปโตทั่วโลกว่า ประเทศไทยเอาจริงกับการปราบปรามความเสี่ยงจากโลกดิจิทัล ด้วยวิธีที่ชัดเจน มีเกณฑ์วัดผล และเน้นความปลอดภัยเป็นหลักมากกว่าการควบคุมแบบไร้ทิศทาง แน่นอนว่าในระยะสั้นอาจเกิดผลกระทบในแง่ของการปรับตัวและความไม่สะดวกของผู้ให้บริการบางราย แต่ในระยะยาวแล้วกลไกนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตได้อย่างมั่นคงและปลอดภัยยิ่งขึ้นในประเทศไทยนั่นเอง