เจ้าของร้านเบเกอรี่ฟิลิปปินส์ สังหารหมู่เพื่อนร่วมงาน 7 ศพ อ้างชิงลงมือหลังได้ยินแผนร้าย ตำรวจบุกร้านเจอภาพนองเลือด
![ปาร์ตี้สยอง เจ้าของร้านขนมฆ่าหมู่ 7 ศพ ปาร์ตี้สยอง เจ้าของร้านขนมฆ่าหมู่ 7 ศพ]()
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 24 เมษายน 2568 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า เกิดเหตุเจ้าของร้านเบเกอรี่ในประเทศฟิลิปปินส์ สังหารหมู่เพื่อนร่วมงาน 7 คน ในปาร์ตี้วันเกิดของเขาเอง โดยเจ้าตัวอ้างว่าสาเหตุที่ต้องลงมือเกิดจากถูกคนเหล่านี้รวมหัวจะทำร้าย ซ้ำยังได้ยินทั้งหมดแอบวางแผนร้ายฆ่าเขาระหว่างหลับ จึงต้องชิงลงมือก่อน
เหตุฆาตกรรมโหดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดของเจ้าของร้านเบเกอรี่ ในวันนั้นเพื่อนร่วมงานทั้ง 7 คน ประกอบด้วยหุ้นส่วน 1 คน และพนักงาน 6 คน ร่วมกันจัดปาร์ตี้วันเกิดให้เจ้าของร้าน โดยไม่รู้ว่างานดังกล่าวจะกลายเป็นปาร์ตี้มรณะของตัวเอง
รายงานเผยว่า เจ้าของร้านได้สั่งเหล้ามาเลี้ยงตอบแทนเพื่อนร่วมงาน จนกระทั่งทุกคนเมาก็เริ่มลงมือจ้วงแทงเหยื่อจนเสียชีวิตทีละคน โดยระหว่างนั้นเพื่อนบ้านได้ยินเสียงเหยื่อคนหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือ จึงโทร. เรียกตำรวจให้มาตรวจสอบที่ร้าน
ตอนที่ตำรวจบุกมาที่ร้านพบว่าประตูร้านเบเกอรี่ปิดล็อกอยู่ เมื่อเปิดเข้าไปก็พบศพของเหยื่อนอนเรียงรายจมกองเลือดอยู่บนพื้น แต่ละคนเต็มไปด้วยบาดแผลถูกแทงจำนวนมาก ทั้งนี้ พบว่าเหยื่อคนหนึ่งยังมีลมหายใจตอนตำรวจไปถึง แต่เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
แถลงการณ์จากตำรวจในท้องถิ่นระบุว่า ตอนไปถึงที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่พบชาย 7 คนอยู่ในร้านเบเกอรี่
ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเหยื่อทั้งหมดเป็นพนักงานของร้าน J&B Malunggay
Bakery ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ร้าน
สภาพการณ์ดูเหมือนเหยื่อจะถูกทำร้ายระหว่างหลับ
2 ชั่วโมงต่อมา ผู้ก่อเหตุได้เข้ามามอบตัวด้วยตัวเอง ทางตำรวจจึงควบคุมตัวไว้เพื่อรอการดำเนินคดี โดยเขาเปิดเผยหลังจากนั้นว่า "ผมมามอบตัวเพราะไม่มีที่ไหนให้ไปอยู่แล้ว ถ้าผมออกจากเมืองพวกเขาก็คงจะตามจับได้อยู่ดี หลังออกจากร้านผมจึงตรงมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์"
สำหรับเหตุนองเลือดที่เกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุอ้างว่ามีสาเหตุจากความขัดแย้งกับหุ้นส่วนของเขา ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 7 คนที่ถูกสังหาร เขาอ้างว่าได้ยินทั้ง 7 คนวางแผนกันว่าจะใช้หมอนทำให้เขาหายใจไม่ออกตอนหลับ เมื่อภรรยามาถึงร้านในวันรุ่งขึ้นจะได้ดูเหมือนเขาตายไประหว่างหลับ
"เรา 2 คนเป็นหุ้นส่วนร้านเบเกอรี่ ส่วนคนงานอื่น ๆ ที่เหลือทั้งหมดเป็นญาติของหุ้นส่วน พวกเขาพยายามจะรวมหัวทำร้ายผม หากผมตาย ธุรกิจทั้งหมดก็จะตกเป็นของพวกนั้น ผมเลยตัดสินใจลงมือก่อน" ผู้ก่อเหตุอ้าง และชี้แจงว่าที่สามารถจัดการเหยื่อได้ทั้งหมด เพราะเหยื่ออยู่ในสภาพเมาและสู้กับเขาในความมืด
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจไม่เชื่อว่าเจ้าของร้านจะลงมือคนเดียว เป็นไปได้ว่าอาจมีผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนต่อไปและพิจารณาจากหลักฐานที่รวบรวมได้ โดยขณะนี้ร่างของเหยื่อทั้งหมดถูกนำไปชันสูตรแล้ว และทางตำรวจจะตรวจสอบภาพวงจรปิดในพื้นที่เพิ่มเติม

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เหตุฆาตกรรมโหดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดของเจ้าของร้านเบเกอรี่ ในวันนั้นเพื่อนร่วมงานทั้ง 7 คน ประกอบด้วยหุ้นส่วน 1 คน และพนักงาน 6 คน ร่วมกันจัดปาร์ตี้วันเกิดให้เจ้าของร้าน โดยไม่รู้ว่างานดังกล่าวจะกลายเป็นปาร์ตี้มรณะของตัวเอง
รายงานเผยว่า เจ้าของร้านได้สั่งเหล้ามาเลี้ยงตอบแทนเพื่อนร่วมงาน จนกระทั่งทุกคนเมาก็เริ่มลงมือจ้วงแทงเหยื่อจนเสียชีวิตทีละคน โดยระหว่างนั้นเพื่อนบ้านได้ยินเสียงเหยื่อคนหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือ จึงโทร. เรียกตำรวจให้มาตรวจสอบที่ร้าน
ตอนที่ตำรวจบุกมาที่ร้านพบว่าประตูร้านเบเกอรี่ปิดล็อกอยู่ เมื่อเปิดเข้าไปก็พบศพของเหยื่อนอนเรียงรายจมกองเลือดอยู่บนพื้น แต่ละคนเต็มไปด้วยบาดแผลถูกแทงจำนวนมาก ทั้งนี้ พบว่าเหยื่อคนหนึ่งยังมีลมหายใจตอนตำรวจไปถึง แต่เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
2 ชั่วโมงต่อมา ผู้ก่อเหตุได้เข้ามามอบตัวด้วยตัวเอง ทางตำรวจจึงควบคุมตัวไว้เพื่อรอการดำเนินคดี โดยเขาเปิดเผยหลังจากนั้นว่า "ผมมามอบตัวเพราะไม่มีที่ไหนให้ไปอยู่แล้ว ถ้าผมออกจากเมืองพวกเขาก็คงจะตามจับได้อยู่ดี หลังออกจากร้านผมจึงตรงมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์"
สำหรับเหตุนองเลือดที่เกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุอ้างว่ามีสาเหตุจากความขัดแย้งกับหุ้นส่วนของเขา ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 7 คนที่ถูกสังหาร เขาอ้างว่าได้ยินทั้ง 7 คนวางแผนกันว่าจะใช้หมอนทำให้เขาหายใจไม่ออกตอนหลับ เมื่อภรรยามาถึงร้านในวันรุ่งขึ้นจะได้ดูเหมือนเขาตายไประหว่างหลับ
"เรา 2 คนเป็นหุ้นส่วนร้านเบเกอรี่ ส่วนคนงานอื่น ๆ ที่เหลือทั้งหมดเป็นญาติของหุ้นส่วน พวกเขาพยายามจะรวมหัวทำร้ายผม หากผมตาย ธุรกิจทั้งหมดก็จะตกเป็นของพวกนั้น ผมเลยตัดสินใจลงมือก่อน" ผู้ก่อเหตุอ้าง และชี้แจงว่าที่สามารถจัดการเหยื่อได้ทั้งหมด เพราะเหยื่ออยู่ในสภาพเมาและสู้กับเขาในความมืด
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจไม่เชื่อว่าเจ้าของร้านจะลงมือคนเดียว เป็นไปได้ว่าอาจมีผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนต่อไปและพิจารณาจากหลักฐานที่รวบรวมได้ โดยขณะนี้ร่างของเหยื่อทั้งหมดถูกนำไปชันสูตรแล้ว และทางตำรวจจะตรวจสอบภาพวงจรปิดในพื้นที่เพิ่มเติม