World จัดงานแถลงชี้แจงประเด็น “สแกนม่านตา” เคลียร์ 5 เรื่องสำคัญที่คนเข้าใจผิด พร้อมประกาศเป็นศัตรูกับมิจฉาชีพ
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568 ผู้พัฒนาเทคโนโลยีสแกนม่านตา World นำโดยนายภัคพล ตั้งตงฉิน ผู้จัดการ Tools for Humanity ประจำประเทศไทย นายฟาเบียน โบดันสไตเนอร์ Managing Director จาก World Foundation พร้อมด้วยพันธมิตรประเทศไทย ได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงหลังจากที่มีกระแสข่าวลือและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโครงการสแกนม่านตา World อย่างแพร่หลาย โดยได้มีการยืนยันถึง 5 ประเด็นหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
1. World ก่อตั้งโดย Sam Altman (ผู้สร้าง ChatGPT) และ Alex Blania
World เป็นเทคโนโลยีระดับโลกจากบริษัท Tools for Humanity (TFH) ก่อตั้งโดย Alex Blania และ Sam Altman นักวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการต่อสู้กับมิจฉาชีพที่นำ AI ไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 33 ล้านคน รวมถึงในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และอีกหลายประเทศ
2. ระบบใช้เพื่อยืนยันความเป็นมนุษย์เท่านั้น ไม่ใช่ยืนยันตัวตน
เทคโนโลยีสแกนม่านตาของ World ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อยืนยันว่าเป็น “มนุษย์จริง” ไม่ใช่บอตหรือ AI โดยจะไม่ถูกนำไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น และเนื่องจากระบบนี้ไม่ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้งานจึงไม่จำเป็นต้องเปิดเผยชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ และระบบก็ไม่สามารถติดตามผู้ใช้งานได้
3. ยืนยันปลอดภัย ไม่ซื้อ-เก็บ-ขายข้อมูลชีวมิติ ข้อมูลรั่วไหลไม่เป็นความจริง
ระบบ World ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวสูงสุด ภาพม่านตาที่สแกนจะถูกแปลงเป็น Iris Code ซึ่งไม่สามารถย้อนกลับมาเป็นภาพได้ และภาพต้นฉบับจะถูกลบทันทีโดยไม่ถูกนำไปซื้อขายหรือจัดเก็บ เพราะฉะนั้นข่าวลือเรื่อง “ข้อมูลรั่วไหล” หรือ “นำข้อมูลไปขาย” จึงไม่เป็นความจริง นอกจากนี้ ระบบของ World จะไม่มีการเข้าถึงหรือผูกข้อมูลกับแอปพลิเคชันทางการเงินใด ๆ และไม่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมทางการเงินตามที่เป็นข่าว
4. World ดำเนินงานภายใต้กฏหมายไทยอย่างโปร่งใส
World ดำเนินงานภายใต้กรอบกฎหมายของประเทศไทยอย่างเคร่งครัด และมีการหารืออย่างต่อเนื่องกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การปฏิบัติงานโปร่งใสและถูกต้องตามข้อบังคับ นอกจากนี้ยังได้จัดทำ Auditor Report โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค เช่น Theori และ Trail of Bits ตรวจสอบระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งทั้งหมดถูกเปิดเผยแบบโอเพนซอร์สบน GitHub ให้ทุกคนทั่วโลกสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ เพื่อยืนยันว่าระบบปลอดภัยและไม่มีช่องโหว่แอบแฝง
5. แยกมนุษย์ออกจาก Bot เพื่อป้องกันการฉ้อโกงในโลกดิจิทัล
ภารกิจหลักของ World คือการปกป้องประชาชนจากภัยออนไลน์ ด้วยการสร้าง “เกราะ” พิสูจน์ ความเป็นมนุษย์ ท่ามกลางยุคที่มิจฉาชีพใช้บอตและ AI หลอกลวงมากขึ้น เทคโนโลยีสแกนม่านตาของ World ทำให้สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลที่อยู่เบื้องหลังบัญชีหรือธุรกรรมออนไลน์เป็นมนุษย์จริง ๆ ไม่ใช่บัญชีปลอม จึงช่วยลดปัญหาการหลอกลวงทางดิจิทัลที่อาศัยบอตหรือการสวมรอยได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยในประเทศไทย World ได้ร่วมมือกับพันธมิตร เช่น Pantip, Whoscall, Eventpop และเกม Ragnarok Landverse เพื่อเสริมเกราะคุ้มกันให้กับผู้ใช้งานจริง
นอกจากนี้ ทาง World ยังได้ประกาศจัด “Orb Hackathon” โครงการสุดท้าทายที่เชิญผู้เชี่ยวชาญและนักพัฒนาเข้ามาทดสอบความแข็งแกร่งของระบบ Orb พร้อมจัดสรรเงินรางวัลสำหรับผู้ที่ค้นพบช่องโหว่ ซึ่งการเปิดเวทีครั้งนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจและความโปร่งใสของ World ที่กล้าเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญภายนอกตรวจสอบอย่างเปิดเผยและพร้อมพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
และต่อเนื่องจากโครงการ “Build With World” ทาง World ได้ประกาศลงทุนกว่า 25 ล้านบาท ในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาไทยในการสร้าง Mini Apps และฐานข้อมูลที่ใช้ World ID เป็นกลไกยืนยันความเป็นมนุษย์ ซึ่งเงินลงทุนครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งการเติบโตของระบบนิเวศเทคโนโลยีในประเทศ และผลักดันให้ผู้พัฒนาไทยก้าวสู่เวทีโลกด้วยนวัตกรรมระดับสากล
ท้ายสุดนี้ ทาง World ได้เตือนให้ประชาชนโปรดระมัดระวังมิจฉาชีพหรือผู้ไม่หวังดีที่แอบอ้าง โดยเฉพาะการอ้างว่าแจกเงินสดหรือสิ่งตอบแทนเป็นการส่วนตัว เพื่อเข้าถึงบัญชี World ของผู้ใช้ ทั้งนี้การยืนยันความเป็นมนุษย์ผ่าน Orb ต้องดำเนินการทุกขั้นตอนผ่านระบบและแอปพลิเคชัน World เท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : World






