บอย ท่าพระจันทร์ ลั่นเหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2508 เนื้อทองคำ ที่มีเป็นของแท้ ย้ำต้องดูที่รอยตัด ยันถ้าใครมีแบบที่โชว์ รับบูชา เหรียญละ 5 ล้าน

ภาพจาก โหนกระแส
วันที่ 7 ตุลาคม 2568 รายการโหนกระแส ทางช่อง 3 นำเสนอเรื่องราวดราม่าวงการพระเครื่อง กรณีพิพาทระหว่าง 2 เซียนพระชื่อดัง อย่าง บอย ท่าพระจันทร์ และ โอ๊ต บางแพ เกี่ยวกับเรื่องความแท้หรือไม่แท้ของ "เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2508 เนื้อทองคำ" ซึ่งเป็นหนึ่งในพระเครื่องที่มีมูลค่าสูงและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง
โดยจุดเริ่มต้นเกิดจากการที่ บอย ท่าพระจันทร์ ซึ่งเป็นเซียนพระเหรียญ เช่าซื้อเหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2508 เนื้อทองคำ ที่ระบุว่าเป็น "บล็อกไม่ผ่าปาก" มาในราคาสูง พร้อมนำเสนอผ่านโซเชียลมีเดียของตนเอง โดยยืนยันว่าเป็นพระแท้ ดูง่ายตามมาตรฐานสากลที่วงการยอมรับ
โดย เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2508 จัดสร้างขึ้นโดยวัดช้างให้ จ.ปัตตานี ในวาระที่ พระครูวิสัยโศภณ (ทิม ธมฺมธโร) เจ้าอาวาสวัดช้างให้ในขณะนั้น ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนา เหรียญรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักสะสม มีการจัดสร้างหลายเนื้อ เช่น เนื้อทองคำ, เนื้อเงิน, เนื้อทองแดงรมดำ และเนื้ออัลปาก้า โดยเฉพาะเนื้อทองคำที่สร้างขึ้นจำนวนน้อย จึงมีราคาสูงมาก
แต่ประเด็นที่ทำให้เกิดการถกเถียงกันในครั้งนี้ คือ "บล็อก" หรือแม่พิมพ์ที่ใช้ในการปั๊มเหรียญ ซึ่งมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน

ภาพจาก โหนกระแส

ภาพจาก โหนกระแส
สำหรับเหรียญซึ่งเป็นประเด็นนี้ บอย ท่าพระจันทร์ เล่าว่า มีคนกลางซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการพระเครื่อง นำเหรียญทองคำมาเสนอขายให้ตน โดยเปิดราคาที่ 10 ล้านบาท แต่ตนคิดว่ามันแพงเกินไป แม้จะอยากได้เหรียญมากก็ตาม
เมื่อ บอย ท่าพระจันทร์ โทร. ไปถามเจ้าของเดิม ทราบว่าเขาขายต่อให้คนอื่นไปแล้ว จึงติดตามไปจนเจอว่าเหรียญอยู่ที่ไหน จากนั้นจึงเจรจาต่อรอง กระทั่งตกลงจบการซื้อขายกันได้ที่ราคา 5 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็พึงพอใจ
โดยหลักการที่ บอย ท่าพระจันทร์ พิจารณาความแท้ของเหรียญนี้ เจ้าตัวอธิบายว่า ตนมีเหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2508 "บล็อกไม่ผ่าปาก" ที่เป็น เนื้ออัลปาก้า อยู่ในครอบครองก่อนแล้ว ซึ่งเหรียญเนื้ออัลปาก้านี้เป็นเหรียญที่วงการยอมรับว่าเป็นของแท้แบบไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เมื่อได้เหรียญเนื้อทองคำมา จึงใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการเปรียบเทียบ ซึ่งหัวใจในการพิจารณา คือการดู "ตัวตัด" หรือร่องรอยการตัดบริเวณขอบเหรียญ
บอย ท่าพระจันทร์ อธิบายว่าเพิ่มว่า กระบวนการผลิตเหรียญพระสมัยก่อน เมื่อปั๊มเหรียญเสร็จ จะต้องใช้ตัวตัดเพื่อตัดเหรียญออกจากแผ่นโลหะ ซึ่งจะทิ้งรอยที่เป็นเอกลักษณ์ไว้บนขอบเหรียญ เปรียบเสมือนลายนิ้วมือของแม่พิมพ์ตัวตัดนั้น ๆ ดังนั้น เหรียญที่ถูกผลิตจากบล็อกเดียวกันและใช้ตัวตัดเดียวกัน จะต้องมีร่องรอยที่ขอบเหรียญเหมือนกันทุกประการ
ตนจึงนำเหรียญทองคำที่บูชามา ส่องเปรียบเทียบกับเหรียญเนื้ออัลปาก้าของแท้ที่มี พบว่ารอยการตัดที่ขอบเหรียญทั้ง 2 ตรงกัน เป็นข้อที่ทำให้เขาพิสูจน์ได้ว่า เหรียญทั้ง 2 ถูกผลิตจากเครื่องมือชุดเดียวกัน ในวาระเดียวกันอย่างแน่นอน
ทำให้ บอย ท่าพระจันทร์ มั่นใจว่าเหรียญทองคำนี้ เป็นของแท้ 100% ส่วนที่คนบอกว่าพระแท้ต้องมีรอยผ่าปากเท่านั้น ตนขอชี้แจงว่าไม่จริง ส่วนเรื่องความบางนั้น ส่วนใหญ่ถ้าเป็นเนื้อทองคำ เนื้อนาค หรือเนื้อพิเศษต่าง ๆ ส่วนมากจะบางกว่า ที่สำคัญคือเราดูจากตัวรอยตัด ตำแหน่งทุกอย่างนั้นตรงกันหมด

ภาพจาก โหนกระแส
โอ๊ต บางแพ มั่นใจ แค่รุ่นถอดพิมพ์ ท้าพิสูจน์ถึงขั้นเลิกเล่นพระ
แต่จากนั้นกลับถูก โอ๊ต บางแพ เซียนพระอีกราย ออกมาไลฟ์คัดค้าน มองว่าเหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นดังกล่าวที่เป็นเนื้อทองคำนั้น จากข้อมูลเท่าที่เคยมีมาในวงการ จะมีเฉพาะ "บล็อกผ่าปาก" เท่านั้น ส่วน "บล็อกไม่ผ่าปาก" ที่เป็นเนื้อทองคำนั้นไม่มีอยู่ในสารบบการสร้างของวัดช้างให้ และไม่เคยมีการเล่นหากันเป็นมาตรฐานสากลมาก่อน
ด้วยเหตุนี้ โอ๊ต บางแพ ตั้งข้อสังเกตว่าเหรียญที่ บอย ท่าพระจันทร์ ได้มา อาจเป็น "พระถอดพิมพ์" หรือเหรียญที่ทำขึ้นมาใหม่ และขอฟันธงในรายการว่า เหรียญทองคำของ บอย ท่าพระจันทร์ เป็นคนละตัวตัดกับเหรียญรุ่นปี 08 ที่เป็นมาตรฐานอย่างแน่นอน แต่หากพิสูจน์ได้ว่าเหรียญทองคำของบอย มาจากตัวตัดเดียวกับเหรียญเนื้ออัลปาก้าจริง ตนจะขอกเลิกเล่นพระทันที
โอ๊ต บางแพ ชี้ว่า วิธีการดูพระเก๊ คือต้องคิดถึงกระบวนการผลิต ที่ต้องเอาพระแท้ไปแกะพิมพ์ โดยปั๊มลงกับแม่พิมพ์ซิลิโคน สิ่งที่จะไม่ม่มีทางทำให้เหมือนกันได้คือ ตรงห่วงเหรียญด้านบน ถ้าเป็นพระแท้ จะเป็นการตอกลงไปที่เหรียญให้เกิดรู หลังหูจะเรียบ ไม่มีร่องรอย
แต่เหรียญเก๊ที่ไปผ่านการแกะพิมพ์มา เวลาถอดพิมพ์จะติดหูเดิมของเหรียญแท้มา เวลาแกะออกจากพิมพ์ จะมีร่องรอยการถอดพิมพ์ที่หูแบบเลี่ยงไม่ได้ และตัวตัดของเหรียญเก๊ ก็จะไม่มีทางที่จะได้เส้นรอบวงเดิมเป๊ะ ๆ อีกทั้งยังมีเรื่องรอยปลิ้นข้าง ที่เกิดขึ้นตอนใช้ตัวตัดด้วย ดังนั้นการจะพิสูจน์เหรียญของบอย ว่าแท้หรือเก๊ก็ต้องดูรอยปลิ้นข้าง ว่าเกิดจากธรรมชาติตอนถูกกด หรือเป็นรอยที่ติดมาจากต้นแบบ
นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตเรื่องความบางของเหรียญทองคำนี้ ทั้งที่เหรียญอัลปาก้าทุกเหรียญจะมีเนื้อหนา ทำให้มั่นใจว่าเหรียญที่อยู่ในมือบอย ไม่ใช่เหรียญแท้
อย่างไรก็ตาม บอย ท่าพระจันทร์ สวนกลับว่า ตนไม่ต้องการเสียเวลามานั่งอธิบายเรื่องพระแท้ ให้คนเล่นพระเก๊ฟัง ตนได้อธิบายไปแล้วว่าจะดูรอยตัดยังไง
บอย ท่าพระจันทร์ ลั่นใครหาว่าเก๊ แต่ถ้ามีตามนี้ รับบูชาเหรียญละ 5 ล้าน

ภาพจาก โหนกระแส
สำหรับความมั่นใจของตนที่ว่าแท้ไหม คือตนวัดเป็นตัวเลขและเป็นเงินได้ ฉะนั้นใครมีเหรียญตรงตามแบบที่ตนโพสต์ หรือนำมาโชว์ให้ดู ตนรับเช่าเหรียญละ 5 ล้าน มีเอามาขายได้ ฉะนั้นถ้าใครบอกเก๊แต่คุณมี ก็นำมาขายได้ ตนรับซื้อ
พร้อมกันนั้นยังเปิดตัวอย่างพระเก๊ ที่มีการวงส่วนที่เป็นรอยถอดพิมพ์ ขอบซ้อนที่เกิดจากการถอดพิมพ์ ซึ่งจะแตกต่างจากเหรียญแท้โดยสิ้นเชิง
![บอย ท่าพระจันทร์ บอย ท่าพระจันทร์]()
![บอย ท่าพระจันทร์ บอย ท่าพระจันทร์]()

ภาพจาก โหนกระแส

ภาพจาก โหนกระแส
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส






