เชื้อสายอยุธยาถูกเกณฑ์ไปเมียนมาหลังเสียกรุงรุ่นที่ 7 เหยียบแผ่นดินบรรพบุรุษอีกครั้งในรอบ 260 ปี น้ำตาคลอตื้นตันใจ ฝันที่เป็นจริง
![เชื้อสายอยุธยา เชื้อสายอยุธยา]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ปัณณพัทธิ์ คำนึง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ปัณณพัทธิ์ คำนึง
วันที่ 18 ตุลาคม 2568 โหนกระแส รายงานว่า ชาวบ้านสุขขะ ชุมชนคนอโยธยาที่ถูกกวาดต้อนเป็นเชลยกลับไปประเทศเมียนมา เมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 เดินทางมาเยือนแผ่นดินบรรพบุรุษในรอบ 260 ปี โดยคนที่เดินทางมาด้วย ได้แก่ นายมาไจนา (MARGAINA) เป็นเจ้าอาวาสวัดในหมู่บ้านสุขขะ, นายซอวิน (ZAW WIN) ผู้ใหญ่บ้านสุขขะ, คุณยาย ดอตินทวย ( TIN HTWE ) อายุ 83 ปี และ นางดอตินย๊วด (TIN NYUNT) ทั้งหมดคือทายาทรุ่นที่ 7 จากเมืองมัณฑะเลย์ เมืองหลวงเก่าของราชวงศ์คองบอง ราชวงศ์สุดท้ายของเมียนมา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ปัณณพัทธิ์ คำนึง
สำหรับที่แรกที่เดินทางไป คือ ศาลหลักเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อทุกคนก้าวเท้าสัมผัสผืนแผ่นดินบ้านเกิด ก็หลั่งน้ำตาแห่งความดีใจ ก่อนเข้าไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็เดินทางไปที่วัดพระราม แล้วก็เยี่ยมชมโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์ ทั้งหมดล้วนถอดรองเท้าเดินสัมผัสกับโบราณสถาน ตามธรรมเนียมของคนเมียนมา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ปัณณพัทธิ์ คำนึง
นายปัณณพัทธิ์ คำนึง นักวิชาการอิสระเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ เปิดเผยว่า กลุ่มชาวบ้านที่มาในวันนี้ เป็นเชื้อสายอยุธยาที่ถูกกวาดต้อนไปตอนเสียกรุงครั้งที่ 2 และคนเหล่านี้คือรุ่นที่ 7 เป็นกลุ่มคนที่ยังเคยได้ยินเรื่องบอกเล่าจากรุ่นที่ 1-3 อยู่ หรือเรียกได้ว่า เป็นรุ่นสุดท้ายที่จะได้รับฟังเรื่องเล่าจากบรรพบุรุษโดยตรง หลังจากรุ่นที่ 7 ความเป็นอยุธยาจะเจือจางลงและเป็นเมียนมาไปหมด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ayutthaya Tourism and Sports
คุณยาย ดอตินทวย กล่าวว่า ตอนที่ยังมีคุณตา คุณยาย บรรพบุรุษจะเล่าให้ฟังว่า เรามาจากอยุธยา ดังนั้นเราต้องก่อกองทรายปีละครั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากที่เมียนมาไม่มี วันนี้ดีใจมากจนพูดไม่ออก เหมือนได้กลับมาเจอญาติ ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส






