โอมาร์ ฮาร์ฟูช กรรมการมิสยูนิเวิร์ส 2025 ประกาศลาออก แฉแรงมีการล็อกตัว Top 30 ตั้งแต่ก่อนเดินรอบพรีลิมฯ ซ้ำผู้เข้าประกวดบางคน มีสัมพันธ์ส่วนตัวกับคนคัดเลือก !

ภาพจาก Instagram omarharfouch
โดย โอมาร์ แจ้งการตัดสินใจลาออกจากกรรมการ มิสยูนิเวิร์ส 2025 ผ่านทางไอจีสตอรี่ พร้อมกล่าวอ้างว่า องค์กรมิสยูนิเวิร์ส (Miss Universe Organization) ได้จัดตั้งคณะกรรมการตัดสินเฉพาะกิจขึ้น เพื่อเลือกผู้เข้ารอบ 30 คนสุดท้าย ตั้งแต่ก่อนที่ผู้เข้าประกวดจาก 136 ประเทศ จะได้ขึ้นเวทีในรอบพรีลิมมินารีด้วยซ้ำ
โอมาร์ ชี้ว่า คณะกรรมการตัดสินอย่างไม่เป็นทางการนี้ ประกอบไปด้วยบุคคลซึ่งมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้เข้าประกวดบางคน รวมถึงบุคคลที่รับผิดชอบการนับคะแนนและจัดการผลการประกวด ซึ่งถือเป็นความขัดแย้งทางผลประโยชน์ยิ่งไปอีก
ในขณะที่องค์กรมิสยูนิเวิร์สได้ออกแถลงการณ์ผ่านอินสตาแกรมปฏิเสธข้อกล่าวหาของโอมาร์ โดยระบุว่า องค์กรมิสยูนิเวิร์สขอชี้แจงอย่างชัดเจนว่าไม่มีการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจใด ๆ รวมถึงไม่มีกลุ่มภายนอกที่ได้รับอนุญาตให้ประเมินผู้เข้าประกวด หรือคัดเลือกผู้ที่จะเข้ารอบสุดท้าย การประเมินทั้งหมดยังคงเป็นไปตามขั้นตอนที่องค์กรมิสยูนิเวิร์สกำหนดไว้อย่างโปร่งใสและมีการควบคุม

ภาพจาก Instagram omarharfouch
ทั้งนี้ PEOPLE ได้พูดคุยกับโอมาร์ หลังจากกองประกวดเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าว โอมาร์อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของเขากับเจ้าหน้าที่มิสยูนิเวิร์ส โดยหลังจากได้ยินข่าวลือว่า Top 30 ถูกเลือกตัวไว้แล้ว เขาจึงไปเผชิญหน้ากับสมาชิกขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส รวมถึง ราอูล โรชา (Raul Rocha) เจ้าของมิสยูนิเวิร์ส
"ตอนที่ผมพูดคุยกับคณะกรรมการและโรชาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเมินผม และบอกว่า... ไม่มีอะไรหรอกโอมาร์ ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี คุณจะได้ตัดสิน แล้วคุณก็จะเห็นเอง" โอมาร์ ระบุ

ภาพจาก Instagram omarharfouch
ระหว่างการพูดคุยกับ PEOPLE โอมาร์ยังคงตั้งคำถามถึงลักษณะของกรรมการเหล่านั้น โดยชี้ว่า คนพวกนั้นไม่ใช่กรรมการ แต่ถูกเรียกว่าเป็นคณะกรรมการคัดเลือก แต่มาคัดเลือกอะไรล่ะ...ไม่มีใครรู้เลย
นอกจากนี้เขายังขยายความถึงข้อกล่าวอ้างว่าคณะกรรมการตัดสินไม่เป็นทางการ มีบุคคลที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญ โดยอ้างว่าหนึ่งในผู้เข้าประกวดและหนึ่งในกรรมการคัดเลือก Beyond the Crown นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องในความสัมพันธ์
โอมาร์ ยังอ้างว่า เขากับเพื่อนกรรมการจะต้องเลือกระหว่าง Top 30 ที่ถูกเลือกไว้ก่อนแล้ว โดยกลุ่มกรรมการที่เขากล่าวหา
"เราคือกรรมการ 8 คนที่ควรจะมา และเลือกผู้เข้าแข่งขันระหว่าง 30 คน ไม่ใช่ 136 คน ตอนที่ผมเซ็นสัญญา ผมเซ็นสัญญามาในฐานะกรรมการ เพื่อมาตัดสินทุกคน บางทีมันอาจเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่อยากออกทีวี หรือแค่ได้เป็นกรรมการก็แฮปปี้แล้ว แต่ไม่ใช่กับผม เพราะผมไม่อาจล้อเล่นกับโชคชะตาของเด็กสาวได้"

ภาพจาก Instagram omarharfouch
"สาว ๆ ที่จะปรากฏตัวผ่านหน้าจอ ต่างเชื่อว่าพวกเราจะเป็นคนตัดสินพวกเธอ แต่ในความเป็นจริงแล้วเราแค่สร้างสถานการณ์ปลอม ๆ พวกเธอล้วนเชื่อในสิ่งที่กำลังจะทำ พวกเธอมีครอบครัวมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ทั้งแม่ พ่อ และแม้แต่ญาติ ๆ ทั้งหมดอยู่ในโรงแรม พวกเขาจ่ายเงินค่าโรงแรม ค่าเดินทาง และทุก ๆ อย่าง" โอมาร์ ระบุ
ทั้งนี้ เขาชี้ว่าตัวเองใช้เวลา 3 เดือน ในการแต่งเพลงสำหรับการประกวดนี้ แต่เขาจะไม่ทำการแสดงใด ๆ ทั้งนั้นระหว่างงานที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน
ขณะที่หนึ่งในผู้เข้าประกวดซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ บอกกับ PEOPLE ว่าข่าวลือเรื่องการเลือกตัวคนที่จะเข้า Top 30 ไว้แบบลับ ๆ นั้น เป็นเรื่องน่าเศร้าใจที่ได้ทราบ พวกเธอเพิ่งรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเสร็จสิ้นการซ้อมรอบสุดท้ายสำหรับการแข่งรอบพรีลิมมินารีนี่เอง
"มีพวกเราหลายคนที่รู้ผ่านโซเชียล ไม่ใช่จากทางองค์กรมิสยูนิเวิร์ส ว่าการคัดเลือกรอบพรีลิมมินารี สำหรับ Top 30 นั้นไม่เพียงแค่จะจัดขึ้นโดยไม่มีกรรมการอย่างเป็นทางการเท่านั้น แต่ยังเลือกไว้แล้วก่อนที่เราจะได้ขึ้นเวทีด้วยซ้ำ ผู้เข้าประกวดหลายคนในรายชื่อ Top 30 ที่ถูกเลือกไว้ก่อนหน้า ถือว่าละเมิดผลประโยชน์ทับซ้อน ผ่านความสัมพันธ์ส่วนตัวกับคนในองค์กรมิสยูนิเวิร์ส"

ภาพจาก Instagram omarharfouch

ภาพจาก Instagram omarharfouch

ภาพจาก Instagram omarharfouch

ภาพจาก Instagram omarharfouch
ขอบคุณข้อมูลจาก PEOPLE
ขอบคุณภาพจาก Instagram omarharfouch






