ทีมขี่ม้าโปโลไทยเปิดบ้านโชว์ฟอร์ม แสดงความพร้อมก่อนลุยศึกซีเกมส์ครั้งที่ 33 หรือ SEA Games 2025 ตั้งเป้าคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์
สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว “Exhibition Match: Road to SEA Games 2025” เมื่อเมื่อวันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน2568 เวลา 16.00 – 18.45 น. เพื่อประกาศความพร้อมของทีมขี่ม้าโปโลทีมชาติไทยก่อนเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 หรือ SEA Games 2025 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนธันวาคม โดยมี นายแพทย์ไพโรจน์ บุญคงชื่น นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย มร.ลูคัส ลูฮาน (Mr. Lucas Lujan) หัวหน้าผู้ฝึกสอน
ทีมชาติไทย และเหล่านักกีฬาทีมชาติ นำโดย อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และ อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา เข้าร่วมงาน ณ สนามวีเอส สปอร์ตคลับ แอนด์ สยามโปโลปาร์ค อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
รายชื่อนักกีฬาทีมชาติไทย
ภายในงานมีการเปิดตัวนักกีฬาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์อย่างเป็นทางการ ประกอบด้วย
1. นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา (ต๊อบ)
2. นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา (ต้อล)
3. นายณัฐพงศ์ ประทุมลี (นัท)
4. นายธนาศิลป์ เชื้อวังคำ (จื้อ)
5. นายสาธิต วงค์กระโซ่ (บึ้ง)
6. นายศุภชัย สุคำภา (นุ) และนายไพทูรย์ คำตา (ทูรย์)
ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขัน
สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลฯ จะส่งทีมเข้าแข่งขันใน 2 ระดับการแข่งขัน ได้แก่ Handicap 2–4 Goals และ Handicap 4–6 Goals ดังนี้
- Handicap 2–4 Goals จะมีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 5 ทีม ได้แก่ ทีมชาติไทย, ทีมชาติมาเลเซีย, ทีมชาติบรูไน, ทีมชาติอินโดนีเซีย, และทีมชาติฟิลิปปินส์
- Handicap 4–6 Goals จะมีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 4 ทีม ได้แก่ ทีมชาติไทย, ทีมชาติมาเลเซีย, ทีมชาติบรูไน และทีมชาติอินโดนีเซีย
จุดแข็งของทีมชาติไทยในการลงสนามครั้งนี้
- การมีผู้เล่นที่มีความสามารถสูงและเล่นเข้ากันได้อย่างลงตัว
- ม้าที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดี
- นักกีฬาส่วนใหญ่มีประสบการณ์การแข่งขันในเวทีระดับสากล
- ที่สำคัญคือความมั่นใจในการลงแข่งขันบนสนามบ้าน
ประวัติการร่วมแข่งขันซีเกมส์ของทีมชาติไทย
ทีมชาติไทยเคยสร้างผลงานโดดเด่นในเวที SEA Games มาแล้ว โดยคว้าเหรียญทองแดงในระดับ Handicap 2–4 Goals ในปี 2007 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และได้เหรียญเงินในระดับ Handicap 4–6 Goals ที่มาเลเซียในปี 2017
สำหรับเป้าหมายหลักของทีมชาติไทยในการแข่งขัน SEA Games 2025 ครั้งนี้คือการคว้าเหรียญทองทั้งสองระดับการแข่งขัน พร้อมทั้งสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ
ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับกีฬาขี่ม้าโปโล
กีฬาขี่ม้าโปโลเป็นกีฬาประเภททีมที่มีนักกีฬา 4 คนต่อทีม แต่ละคนมีหมายเลขและหน้าที่แตกต่างกัน หมายเลข 1 เป็นแนวรุกที่มีหน้าที่หลักในการทำประตู หมายเลข 2 คอยสนับสนุนเกมรุกและขัดขวางฝ่ายตรงข้าม หมายเลข 3 เป็นเพลย์เมคเกอร์ของทีมที่ต้องอ่านเกมและส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีม ส่วนหมายเลข 4 เป็นแนวรับที่คอยตัดเกมและป้องกันประตู
การแข่งขันแบ่งออกเป็น 4 ชักก้า ชักก้าละ 7 นาที โดยไม่รวมต่อเวลาอีก 30 วินาที ในแต่ละชักก้าจะมีการพักเปลี่ยนม้าที่นาทีที่ 3 การนับคะแนนเหมือนฟุตบอล คือยิงเข้าประตู 1 ลูกได้ 1 คะแนน โดยเมื่อทำประตูได้ทีมต้องเปลี่ยนทิศทางการโจมตีในการทำประตูครั้งถัดไป
ระดับความสามารถของนักกีฬาวัดด้วยค่า Handicap ตั้งแต่ -2 Goals ถึง 10 Goals โดย -2 Goals คือระดับเริ่มต้น และ 10 Goals คือเก่งที่สุด การแข่งขันแต่ละรายการจะกำหนดระดับโดยนำค่า Handicap ของนักกีฬาทั้ง 4 คนรวมกันให้อยู่ในช่วงที่กำหนด หากทั้งสองทีมมีผลรวม Handicap ต่างกัน ทีมที่มีผลรวมน้อยกว่าจะได้รับแต้มต่อเพื่อความเป็นธรรม
การจัดงานแถลงข่าวครั้งนี้สะท้อนถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นของสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลฯ ที่จะนำพาทีมชาติไทยไปสู่ความสำเร็จใน SEA Games 2025 ด้วยประสบการณ์ของนักกีฬา คุณภาพของม้า และการสนับสนุนจากโค้ชผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ทีมชาติไทยมีโอกาสสูงที่จะบรรลุเป้าหมายคว้าเหรียญทองทั้งสองระดับการแข่งขันและสร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนไทยทั้งประเทศ
1. ทีมขี่ม้าโปโล 1 ทีม มีนักกีฬา จำนวน 4 คน ดังนี้
หมายเลข 1 : เป็นผู้เล่นในแนวรุก ซึ่งผู้เล่นในตำแหน่งนี้จะมีหน้าที่หลักในการทำประตู
หมายเลข 2 : เป็นตำแหน่งที่จะคอยสนับสนุนเกมรุกช่วยผู้เล่นหมายเลข 1 และคอยขัดขวางผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามที่มาทำลายจังหวะยิงประตูหรือบางครั้งอาจจะขึ้นไปทำประตูเองได้
หมายเลข 3 : เป็นตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ของทีมที่ต้องอ่านเกมอยู่ตลอดเวลา คอยส่งลูกให้กับผู้เล่นในแดนหน้าสนับสนุน ผู้เล่นหมายเลข 1 และ 2 ทำประตู พาบอลเข้าไปทำประตูเอง รวมถึงลงมาเล่นเกมรับเพื่อซัพพอร์ตผู้เล่นหมายเลข 4 อีกด้วย
หมายเลข 4 : เป็นผู้เล่นตำแหน่งเกมรับที่จะต้องคอยตัดเกมคู่ต่อสู้ ผู้เล่นในตำแหน่งนี้มักจะเคลื่อนที่ไปทั้งสนามคอยตัดเกมบุกของคู่ต่อสู้ รวมถึงเคลื่อนที่ลงต่ำในแนวรับของตนเองเพื่อป้องกันไม่ให้คู่แข่งสามารถทำประตูได้
2. วิธีการเล่นกีฬาขี่ม้าโปโล
- การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลจะแบ่งการเล่น 4 ชักก้า ชักก้าละ 7 นาที (ไม่รวมต่อเวลาอีก 30 วินาที)
- ในแต่ละชักก้าจะมีการพักเปลี่ยนม้าในทุก ๆ ครึ่งของชักก้า (ประมาณนาทีที่ 3)
- เมื่อเกมเริ่ม ทีม A บุกจากซ้ายไปขวา เพื่อทำประตู หากทำประตูได้ ทีม A ต้องบุกจากขวาไปซ้าย เพื่อทำประตูต่อไปสลับไปแบบนี้จนจบเกม
- กีฬาขี่ม้าโปโลนับสกอร์เหมือนกีฬาฟุตบอล เมื่อยิงเข้าประตู 1 ลูก ได้ 1 คะแนน
3. ระดับความสามารถของนักกีฬาขี่ม้าโปโล
- เรียกว่า Handicap เริ่มต้นด้วย -2 Goals ถึง 10 Goals โดย -2 Goals คือระดับเริ่มต้น ไล่ไปจนถึงเก่งที่สุดคือ 10 Goals
- การขยับระดับความสามารถจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความสามารถของนักกีฬา
4. ทุกการแข่งขันมีการกำหนดระดับการแข่งขัน
- โดยคิดจากการนำระดับความสามารถของนักกีฬาทั้ง 4 คนรวมกันให้อยู่ใน ช่วงระดับการแข่งขันที่กำหนด เช่น
| ตัวอย่างที่ 1 ระดับการแข่งขัน 4-6 Goals | ตัวอย่างที่ 2 ระดับการแข่งขัน 4-6 Goals | ตัวอย่างที่ 3 ระดับการแข่งขัน 6-8 Goals |
| - นักกีฬาเบอร์ 1: 0 Goal | - นักกีฬาเบอร์ 1: -1 Goal | - นักกีฬาเบอร์ 1: 0 Goal |
| - นักกีฬาเบอร์ 2: 0 Goal | - นักกีฬาเบอร์ 2: 0 Goal | - นักกีฬาเบอร์ 2: -1 Goal |
| - นักกีฬาเบอร์ 3: 3 Goals | - นักกีฬาเบอร์ 3: 2 Goals | - นักกีฬาเบอร์ 3: 2 Goals |
| - นักกีฬาเบอร์ 4: 3 Goals | - นักกีฬาเบอร์ 4: 3 Goals | - นักกีฬาเบอร์ 4: 5 Goals |
| รวม 6 Goals | รวม 4 Goals | รวม 6 Goals |
หมายเหตุ : กรณีระดับการแข่งขันของทั้ง 2 ทีมต่างกัน ทีมที่มีผลรวม Handicap น้อยกว่าจะได้แต้มต่อ






