นักท่องเที่ยวสิงคโปร์ กลายเป็นผู้ประสบภัย เจอน้ำท่วมหาดใหญ่ เล่านาทีวิกฤตก่อนรอดมาได้ ยกย่องฮีโร่ชาวไทยช่วยชีวิต

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Weerapong Narongkul
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เว็บไซต์แชนเนลนิวส์เอเชีย
เผยรายงานเรื่องราวจากครอบครัวของรอนนี โตห์ ชายชาวสิงคโปร์วัย 74 ปี
ซึ่งเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย
ก่อนที่จะกลายเป็นผู้ประสบภัย หลังต้องเผชิญกับมหาอุทกภัยน้ำท่วมหาดใหญ่ โดยครอบครัวได้เล่าถึงนาทีชีวิตในห้วงเวลาวิกฤต
กระทั่งมีฮีโร่ชายชาวไทยคนหนึ่งมาช่วยเหลือเขาเอาไว้ได้จนปลอดภัยในที่สุด
วินเซนต์ โตห์ ลูกชายวัย 50 ปี ของรอนนี เผยว่า พ่อของเขาเดินทางไปเที่ยววันหยุดยาว ซึ่งบังเอิญตรงกับช่วงเวลาที่เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันในตัวเมืองหาดใหญ่ และที่พักของพ่อก็อยู่ในพื้นที่ประสบภัย ไฟฟ้าดับ สัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตถูกตัดขาด ครอบครัวไม่สามารถติดต่อพ่อได้ ตอนนั้นพ่อตัดสินใจเดินลุยน้ำลึกถึงเข่าไปยังศูนย์การค้าที่อยู่ห่างออกไปราว 7 นาที เพื่อหาสัญญาณ
แต่ปรากฏว่าสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายขึ้น เมื่อฝนยิ่งกระหน่ำลงมา ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างก็แตกตื่น น้ำเริ่มสูงขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนเลยระดับเอว รอนนีพยายามใช้โซเชียลมีเดียติดต่อครอบครัว เขาถามลูกชายว่าควรกลับโรงแรมดีไหม ซึ่งครอบครัวขอให้เขาพักอยู่ที่บริเวณนั้น เพราะกระแสน้ำเชี่ยวมาก กลัวว่าจะเป็นอันตราย
ทว่าตอนนั้นรอนนีกลัวว่าจะขาดแคลนอาหาร จึงตัดสินใจออกจากศูนย์การค้าเพื่อกลับไปยังโรงแรม แต่สถานการณ์ตอนนั้นเริ่มโกลาหล น้ำสูงขึ้นมาเกิน 1 ชั้น เขาจึงต้องปีนขึ้นไปบนที่พักชั่วคราวตรงร้านขายของที่ระลึก จนในช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 น. แบตฯ โทรศัพท์ของเขาได้หมดไป เขาจึงขาดการติดต่อกับครอบครัวไปโดยสิ้นเชิง
โทนี โตห์ ลูกชายอีกคนของรอนนี อธิบายถึงเหตุการณ์ในขณะนั้นว่า "มันบ้ามาก ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว และเราไม่มีการติดต่อใด ๆ จากใครเลย เราไม่รู้ว่าพ่ออยู่ที่ไหน" เขาพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจไทย แต่หลายชั่วโมงผ่านไปก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ จนกระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืน ครอบครัวได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ในประเทศไทย ปลายสายเป็นพ่อที่แจ้งว่าปลอดภัยแล้ว

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Weerapong Narongkul
"เขาคือฮีโร่ ฟ้าเริ่มมืดแล้ว พ่อผมหนาวมาก และถ้าไม่มีชายไทยคนนี้มาช่วย พ่อคงอยู่ในสภาพที่แย่มาก" ลูกชายรอนนี กล่าว
รอนนีได้จองตั๋วเครื่องบินกลับสิงคโปร์ไว้ในวันที่ 25 พฤศจิกายน แต่สุดท้ายเขาก็ตกเครื่อง เพราะไม่มีทางไปสนามบิน เขาจึงยังคงพักอยู่กับคุณวิริยะต่อไปในเย็นวันนั้น พร้อมทั้งพยายามหาทางกลับไปรวมกลุ่มของเขาที่โรงแรม ขณะที่รายงานเผยว่า มีนักท่องเที่ยวกว่า 1,000 ราย ติดค้างอยู่ที่โรงแรมในหาดใหญ่และที่สนามบิน ในขณะเดียวกันทางครอบครัวได้ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์ (MFA) เพื่อขอความช่วยเหลือในการพากลับประเทศ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Weerapong Narongkul
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Weerapong Narongkul






