ดราม่าซีเกมส์ 2025 ออร์แกไนซ์จัดพิธีเปิดปิดแฉ โดนลอยแพงาน 1 เดือนสุดท้าย ทั้งที่ทุกอย่างใกล้เสร็จ ให้เจ้าใหม่ทำแทน เงินก็ไม่ได้

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rueangrith Suntisuk Ton
อย่างไรก็ตาม ก่อนการแข่งขันก็มีดราม่ามากมายในแง่ความพร้อมการจัดงาน การประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ และมีเรื่องหนึ่งที่คนในโซเชียลเน็ตเวิร์กแชร์ไปกว่า 6,000 ครั้งเข้าไปแล้ว

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rueangrith Suntisuk Ton
ผมทำงานเปิดและปิดซีเกมส์มา 7 เดือน ถูกยกเลิกงานทั้งหมด และพึ่งมีทีมใหม่เข้ามาทำเมื่อกลางเดือนตุลาคมครับ
For my foreign friends. This SEA Games opening ceremony is a project I had been working on for seven months, but it was cancelled just one month before the event. Please use Google Translate for more information, thanks
การแชร์สิ่งนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องใด ๆ เป็นความล้มเหลวในการต่อสู้ที่พร้อมเสี่ยงตั้งแต่เริ่มต้น แต่เพื่อให้ได้รับรู้ผลจากการการพยายามทำงานกับภาครัฐอย่างซื่อตรง และหวังว่าถ้าจะทำให้เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศนี้บ้าง ก็จะยินดีอย่างยิ่งครับ
กลางเดือนมีนาคม ผมได้รับโทรศัพท์ จากพี่ที่นับถือท่านนึง เชิญชวนให้ไปเป็นไดเรคเตอร์ ออกแบบพิธีเปิดและปิดเทศกาลกีฬาซีเกมส์ ผมใช้เวลาคิดนานมากเพราะไม่เคยทำงานกับภาครัฐ และไม่แน่ใจว่าจะต้องเจอกับอะไร แต่สุดท้าย ก็ไม่เจอเหตุผลที่จะปฏิเสธโอกาสที่ได้มานี้ ขออนุญาตขยายความคำว่าโอกาสของผมครับ ปกติงานระดับประเทศ จะมีเจ้าใหญ่ ๆ ที่เค้ารับทำเป็นประจำอยู่แล้ว ถือครองสิทธิการทำมาต่อเนื่อง ทำออกมาดีไม่ดีเราจะไม่พูดถึงนะครับ แต่ ณ ตอนนั้น ทีมที่เราคุยกันมีประมาณ 4 คน และทุกคนเห็นพ้องต้องกัน ว่าเราน่าจะสามารถทำสิ่งที่อยากให้ประเทศนี้มีเกิดขึ้นได้ บรรทัดฐานความดีงามในการทำงานนี้เลยแปรเปลี่ยนจากงานที่ดี เป็นงานที่เปิดโอกาสให้งานระดับประเทศมีทางเลือกใหม่ ๆ จากคนใหม่ ๆ ตกลงรับทำงานครับ
ทีมเราเริ่มกัน 4 คน
ด้วยรูปแบบการทำงานกับภาครัฐที่มีเวลาแค่ 9 เดือนและสเกลใหญ่ขนาดนี้
ถ้าเราจะทำ เราก็ต้องออกเงินจ้างทีมงานทั้งหมดเองก่อน
เพื่อนำแบบและไอเดียไปเสนอผู้ใหญ่ แต่ผมเลือกเส้นทางที่ต่างออกไป
เราเลือกจะทำกันเอง ค่อย ๆ ประชุม ออกแบบสร้างภาพจำลองเวที วางรูปแบบโชว์
และนำเสนอผู้ใหญ่ ทีละขั้น ทีละตอน จนผ่านไปได้ด้วยดี ผู้ใหญ่ชอบ
พาไปพบผู้ที่ใหญ่กว่า ไฟเขียวให้เริ่มงานได้
เราจึงเริ่มเรียกคนที่เห็นว่ามีความคิดตรงกันมาช่วยสร้างงาน

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rueangrith Suntisuk Ton
งบน้อยแถมต้องย้ายสถานที่ รื้อแผนใหม่หมด
แผนงานดำเนินไปเรื่อย ๆ 4 เดือนผ่านไปจน กลางเดือน ก.ค. เราต่อสู้กับงบประมาณที่จำกัด (น้อยกว่างานสงกราxxที่สนามหลวง และงานวิ่งช่วงเวลาเดียวกัน) จนถึงวันที่เรามีสงครามกับกัมพูชา ความปลอดภัยในการจัดงานในสนามหลวงที่เป็นพื้นที่เปิดลดลง มีข้อเสนอแนะ ให้ย้ายสถานที่จัดงานไปที่ราชมังคลา การตัดสินใจเกิดขึ้นอีกครั้ง รูปแบบงานอาจจะไม่ดีงามอย่างที่หวัง แต่วัตถุประสงค์ที่จะให้งานเกิดจากกลุ่มคนที่ไม่ได้ผูกขาดกับงานภาครัฐยังคงเดิม เราตัดสินใจทำต่อและเริ่มออกแบบใหม่ทั้งหมด
ย้ายสถานที่ วัตถุประสงค์เดิมยังคงอยู่ เราเริ่มเข้าวัดพื้นที่ พบเจอปัญหา ออกแบบใหม่ สู้กันอีกรอบในเวลาและข้อจำกัดที่ยากขึ้น แบบใหม่เกิดขึ้น เป็นที่น่าพึงพอใจของทุกฝ่าย นำเสนอผู้ใหญ่ผ่าน เสนอผู้ใหญ่กว่าผ่าน เราเรียกแต่ละทีมมาคุยปรับความเข้าใจ และร่วมสร้างงานกันต่อ กระเทยไม่ได้เข้าสนามหลวงแล้ว แต่ก็ยังมีหน้ามีตาในสังคมได้รับการยอมรับให้มีโชว์ในพิธีเปิด นักร้องแร็ปสาวที่โดนห้ามมาหลายรอบ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ศิลปมวยไทยที่แสนจะหวงแหนจะได้นำมาใช้ในรูปแบบใหม่ ๆ โชว์จากศิลปินที่สู้เพื่อวัตนธรรมมายาวนานจะได้เป็นโชว์ใหญ่ก่อนจุดคบเพลิง ทีมเริ่มใหญ่ขึ้น ทุกคนเริ่มถามเรื่องเวลาที่จะมีเงิน เพื่อเริ่มงาน เราก็อธิบายตามความจริง สาเหตุที่ล่าช้ากว่าที่ควรเป็น เพราะย้ายสถานที่
รัฐบาลใหม่มา เริ่มมีกลิ่นไม่ดี
ปลายกันยายนหลังจากรัฐบาลใหม่เข้ามาได้ไม่นาน เริ่มมีกลิ่นไม่ดี ระหว่างทางที่ผ่านมา จะคอยมีคนเตือนเรื่อย ๆ ทางพี่ที่ประสานกับผู้ใหญ่ก็พยายามเช็ก แต่ก็ไม่ได้ความอะไร ศิลปินบางคนที่เราโทรไปถามคิว ก็แจ้งว่ามีทีมซีเกมส์อีกทีมโทรมาเช็กคิวเช่นกัน เราทำอะไรไม่ได้นอกจากเร่งงานและสอบถามไปเรื่อย ๆ ต้นตุลา มีโทรศัพท์โทรมาแจ้งว่า มีทีมซีเกมส์จากทีมผู้ที่ใหญ่กว่าคนใหม่ เข้ามาดูสถานที่ราชมัง และประชุมกับผู้ใหญ่คนเดิมอยู่ ทางเราสอบถามไป แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ทางทีมรอต่อเนื่องมาอีก 2 อาทิตย์ จนไม่สามารถรอได้ จึงแจ้งทางผู้ใหญ่ไปว่า ถ้าไม่ได้คำตอบทางทีมจะขอหยุดการทำงาน และปล่อยคิวศิลปิน และทีมงานทุกท่าน เพื่อให้สามารถรับงานอื่น เนื่องจากเราไม่สามารถแบกรับความเสี่ยงในความไม่แน่นอน จากทางเค้าได้ กลางตุลาคม ทางทีมหยุดการทำงาน และจนถึงปัจจุบันก็ไม่ได้รับการยกเลิกหรือยืนยันใด ๆ จากทางผู้ใหญ่นั้น
การเปลี่ยนทีมงานใหม่ทั้งหมดโดยเหลือเวลาประมาณหนึ่งเดือนกว่า ๆ เป็นเรื่องที่เข้าใจไม่ได้ เราเสียดายกับความพยายามที่อยากให้งานออกมาในรูปแบบที่คิดกันไว้ เราเสียใจที่นำคนหลายคนมาเกี่ยวข้องและล่มสลายไปพร้อม ๆ กัน เราสับสนไม่แน่ใจว่าที่ทำลงไปถูกหรือผิด เราโกรธแค้นกับระบบที่เราต้องพยายามต่อสู้แม้จะรู้ว่าเสี่ยงในการพังทลาย แต่เราเริ่มใหม่ได้ เพราะเราไม่ได้เสียหายอะไรในเชิงธุรกิจ แต่ในแง่ความคิดสร้างสรรค์ และกำลังใจที่จะต่อสู้กับประเทศนี้ มันตีบตันและไม่เห็นลู่ทาง เราไม่เข้าใจการสร้างงานระดับประเทศใหม่ภายใน 1 เดือน ได้แต่หวังว่ามันจะออกมาไม่อายคนทั้งโลก ไม่เอิงเอย โบราณครํ่าครึ เพราะมันจะจารึกความก้าวหน้าทางกีฬา ศิลปะ และวัฒนธรรมของชาติ ว่าในวันนี้ประเทศเรายืนอยู่ ณ จุดใด จุดที่เราเป็นตัวของเราเอง ไม่ว่าการเมือง เศรษฐกิจ อำนาจรัฐ จะเลวร้ายเพียงใด แต่ผู้คน วัฒนธรรม รากเหง้า ความสนุกสนานของคนไทยยังคงมีอยู่เหมือนเดิม หรือจุดที่เราโกงกินกันด้วยอำนาจรัฐ โดยที่ไม่สนถึงหน้าตาของประเทศ ขอเพียงอำนาจนั้นสามารถ ให้เงินทอนที่สมเหตุสมผลแก่ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ วัตถุประสงค์แรกที่รับทำงานเพื่อทำลายวงจรนี้ และส่งต่อไปให้คนรุ่นถัด ๆ ไป ไม่สำเร็จ แต่ความคิดที่ต้องสู้กับระบบที่กัดกินความคิดสร้างสรรค์ และทำให้เราล้าหลังกว่าแทบจะทุกประเทศชัดเจนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
หากการนำเสนอครั้งนี้จะสามารถทำให้ความทุ่มเทที่ผ่านมา มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศ และส่งต่อให้คนรุ่นต่อ ๆ ไป ให้สามารถพัฒนาประเทศชาติให้ดีขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
ปล. ถึงแม้ผมจะไม่ได้ทำงานชิ้นนี้แล้ว แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังทำงานซีเกมส์ครั้งนี้อยู่ ระยะเวลาที่พวกคุณมีและความกดดันมากมายจากความไม่แน่นอนของภาครัฐ ขอให้งานลุล่วงปลอดภัย และประสบความสำเร็จเพื่อให้เป็นชื่อเสียงแก่ประเทศชาติครับ ขอบคุณครับ
เรืองฤทธิ์ สันติสุข
Edited** หลังจากอ่านข้อความหลาย ๆ ข้อความแล้ว รู้สึกว่าหลายคนโกรธและท้อแท้ต่อระบบที่เป็นอยู่ ขออนุญาตเพิ่มเติมครับ ว่าหลังจากผ่านมาเดือนนึง จริง ๆ ผมไม่ได้ท้อแท้อะไรกับมันแล้ว เสียดายแน่ ๆ ที่งานไม่ได้เกิดขึ้น แต่ในระหว่างขั้นตอนการทำงานตลอด 7 เดือน ผมเจอคนใหม่ ๆ เยอะแยะที่มีความสามารถมาก ๆ และมันพิสูจน์ว่าจริง ๆ ตัวพวกเราเองสามารถสร้างงานที่ดีได้ครับ ตัวตนของประเทศเราแม่งโคตรดี ไม่รวมผู้มีอำนาจบางส่วนนะครับ สู้ ๆ ครับ ผมดูสิ่งที่ทำมาก็ยังคงชอบอยู่ ถ้าผมอยู่ถึงคราวหน้าแล้วมีโอกาสให้ลองเจ็บอีก ผมก็จะทำครับ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rueangrith Suntisuk Ton

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rueangrith Suntisuk Ton

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rueangrith Suntisuk Ton

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rueangrith Suntisuk Ton






