หญิงฝากเงิน 59 ล้าน มั่นใจปลอดภัย ผ่านไป 4 ปีจะไปถอน ช็อกหลังรู้เงินหายเกลี้ยง ซ้ำ พนง. ไร้คำอธิบาย แจ้งตำรวจจนรู้ตัวคนร้าย แต่ทำไมยังไม่ได้เงินคืน

วันที่ 3 ธันวาคม 2568 เว็บไซต์ Soha รายงานกรณีของหญิงชาวจีนรายหนึ่ง ที่ต้องช็อกสุด ๆ หลังเคยฝากเงินไว้ในบัญชีธนาคาร 13.1 ล้านหยวน แต่เมื่อเวลาผ่านไป 4 ปี พอจะไปถอนเงินอีกทีกลับได้รับแจ้งว่าในบัญชีของเธอไม่มีเงินเหลือแล้ว นำมาสู่การตั้งคำถามว่า เงินก้อนนี้ของเธอหายไปไหนหมด และสุดท้ายใครต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2561 นางหลี่ จากมณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน ฝากเงินไว้กับธนาคารท้องถิ่นจำนวน 13.1 ล้านหยวน หรือกว่า 59 ล้านบาท โดยเธอมองว่าการฝากเงินไว้กับธนาคารนั้นปลอดภัยที่สุดและมีความเสี่ยงน้อยที่สุด อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็น่าดึงดูดใจ เธอมั่นใจว่าฝากเงินไว้แค่ 4 ปี ก็จะได้กำไรก้อนใหญ่ไม่น้อย
ต่อมาในปี 2565 นางหลี่กลับไปที่ธนาคารด้วยความตื่นเต้น ตั้งใจที่จะเบิกเงินทั้งก้อนออกจากบัญชี แต่หลังจากเช็กในระบบดูแล้ว อยู่ ๆ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลับบอกว่า "บัญชีของคุณไม่มีเงินอยู่" ทำให้เธอทั้งอึ้งและไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
ตอนแรกเธอนึกว่าพนักงานคงเช็กข้อมูลผิดพลาด แต่หลังจากเช็กดูอีกหลายครั้ง ผลลัพธ์ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นางหลี่ที่สับสนและหัวเสีย ร้องขอคำอธิบายที่ชัดเจนว่าเงินทั้งก้อนของเธอหายไปได้ยังไง แต่แทนที่จะให้คำตอบ ทางธนาคารกลับบอกเพียงว่า จำเป็นต้องมีการยืนยันข้อมูลเพิ่มเติม และขอให้เธออดทนรอต่อไป
เจอกับคำตอบที่ไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ นางหลี่ก็รับไม่ได้ เธอตัดสินใจแจ้งความกับทางตำรวจ ทำให้มีการสอบสวนเกิดขึ้นทันที และเพียงแค่ 15 วัน ชุดสืบสวนก็พบเบาะแสสำคัญ และสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยคนสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
โดยผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าว ก็คือผู้จัดการธนาคารสาขาดังกล่าว สุดท้ายเมื่อหลักฐานมัดตัว เขาก็ต้องยอมรับสารภาพข้อหายักยอกทรัพย์สินของลูกค้า
การสืบสวนพบว่า ผู้จัดการเกิดความโลภหลังเห็นนางหลี่ฝากเงินจำนวนมาก จึงยักยอกเงินของลูกค้าออกมา โดยใช้ประโยชน์จากตำแหน่งที่สามารถเข้าถึงระบบภายในธนาคารได้ แอบโอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีของตัวเองอย่างลับ ๆ โดยไม่ทิ้งร่องรอยที่ชัดเจน
หลังมีเงินมากกว่า 13.1 ล้านหยวนในมือ ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป ความร่ำรวยอย่างผิดปกติของผู้จัดการรายนี้ทำให้พนักงานหลายคนในธนาคารเริ่มเกิดความสงสัย แต่ทุกครั้งที่สอบถาม เขาก็อ้างว่าตัวเองได้เงินจากการลงทุน จนเมื่อตำรวจเปิดเผยความจริง ทุกคนจึงช็อกเมื่อได้รู้เบื้องหลังความร่ำรวยของผู้จัดการ
แม้ตำรวจจะคลี่คลายคดีและจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ แต่นางหลี่กลับไม่สามารถเอาเงินคืนได้ เนื่องจากผู้จัดการธนาคารผลาญเงินทั้งหมดไปแล้ว ไม่สามารถคืนหรือจ่ายเงินชดเชยได้อีกต่อไป นางหลี่จึงตัดสินใจยื่นฟ้องทางธนาคาร เพราะเชื่อว่าเป็นความผิดของธนาคารที่ล้มเหลวในการดูแลทรัพย์สินของลูกค้าให้ปลอดภัย
ในชั้นศาล เธอยังเรียกร้องให้ธนาคารชดเชยเงินฝากทั้งหมดแก่เธอ แต่ทางธนาคารยืนกรานว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของผู้จัดการเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวข้องกับทางธนาคาร สุดท้ายแล้วคดีดังกล่าวก็กลายมาเป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ แม้ทนายหลายคนจะลงความเห็นว่าทางธนาคารไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ก็ตาม
คดีของนางหลี่สร้างความตกตะลึงอย่างมากในสังคมจีน โดยหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ ทางการได้ออกมาประกาศ เตือนผู้คนให้มีความระมัดระวัง หมั่นตรวจสอบบัญชีของตนเป็นประจำ และเก็บเอกสารการทำธุรกรรมให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันตัวเองในกรณีที่มีความเสี่ยง
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha






