ซีเกมส์ 2025 แค่เริ่มแข่งก็เกิดปัญหา เพลงชาติไม่ดัง - หลอดไฟขาด - เก้าอี้ล่องหน สส.เชียงรายลั่น ยิ่งใกล้วันเปิดงาน ก็ยิ่งกังวล หลายอย่างยังไม่พร้อม

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
กลายเป็นประเด็นตั้งแต่เริ่ม สำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2025 ซึ่งล่าสุด
(4 ธันวาคม 2568) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 เปิดเผยว่า ซีเกมส์
2025 ได้เริ่มขึ้นอย่างไม่เป็นทางการแล้วในกีฬาฟุตบอล
ที่มีการแข่งนัดแรกเมื่อวานนี้ (3 ธันวาคม)
ก่อนจะมีพิธีเปิดการแข่งขันในสัปดาห์หน้า
แต่ใครจะเชื่อว่ากลับเกิดปัญหาขึ้นตั้งแต่แรก
โดยในการแข่งฟุตบอลชายนัดแรก ซึ่งจัดขึ้นที่ราชมังคลากีฬาสถาน พบว่าเพลงในสนามไม่ดัง ทำให้นักฟุตบอลทั้ง 2 ชาติจาก ลาว - เวียดนาม ต้องร้องเพลงชาติกันเอง จนเกิดเป็นดราม่า
นอกจากนี้ยังมีปัญหาหลอดไฟขาดไปหลายดวง ไม่มีสต็อกเปลี่ยน ต้องไปยืมหลอดไฟจากสนามอื่นมาใช้ก่อนชั่วคราว แต่ก็คาดว่าหลอดไฟที่ยืมจากโคราชมาไม่ทัน ทำให้เกิดปัญหาขึ้นอีกในการแข่งขันช่วงค่ำ

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบในสนามราชมังคลากีฬาสถานเพื่อแก้ปัญหาแล้ว ยืนยันว่าคู่ต่อไปหลังจากนี้มีเพลงชาติก่อนเกมการแข่งขันแน่นอน และจากนี้จะมีการทำหนังสือขอโทษไปยังทีมชาติ สปป.ลาว และเวียดนาม สำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นด้วย
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวปัญหาเกี่ยวกับการจองเก้าอี้ แฟนบอลทีมชาติไทยถึงกับงง หลังจองที่นั่งตามระบบของซีเกมส์ 2025 กลับเมื่อมาถึงจริงกลับไม่พบเก้าอี้ เป็นเพียงบันไดโล่ง ๆ ไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง ทีมงานแก้ปัญหาด้วยการให้ไปนั่งตรงจุดที่ว่าง แต่กลับเป็นเก้าอี้ที่มีคนจองไว้ จึงถูกไล่ออกมาอีก ต้องคอยเปลี่ยนที่ใหม่ สุดท้ายเจ้าหน้าที่แจ้งว่าหากมีที่ว่างก็ให้นั่งตรงที่ว่างได้เลย
สิ่งที่เกิดขึ้นนำมาสู่การตั้งคำถามว่า หากเป็นในพิธีเปิดซีเกมส์ 2025 ซึ่งมีคนจองที่นั่งไว้เต็ม หากมีคนมากดจองตรงตำแหน่งเดียวกันกับที่เกิดปัญหา ไม่มีเก้าอี้จริงนี้ จะทำอย่างไร

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
นายชิตวัน ระบุว่า เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพิ่งประกาศ "ราคากลาง" สำหรับการจ้างจัดพิธีเปิด - ปิดซีเกมส์ และอาเซียนพาราเกมส์ โดยใช้วิธีคัดเลือก ทั้งหมดวงเงิน 142,428,500 บาท ซึ่งครอบคลุมพิธีเปิดปิดของทั้งสองรายการ สิ่งที่น่าตกใจคือ นี่เป็นการประกาศก่อนพิธีเปิดจริงเพียง 12 วัน
แต่สิ่งที่ทำให้ตนสงสัยมากกว่า คือเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พื้นที่ภายในศูนย์กีฬาหัวหมาก ก็พบว่ามีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับพิธีเปิดไปแล้ว ทั้งที่ในตอนนั้นยังไม่ประกาศราคากลาง และยังไม่เริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ทั้งหมดนี้สะท้อนชัดมากว่า หากเราอยากเสนอตัวจัดงานใหญ่กว่านี้ในอนาคต คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วย เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก และประเทศจะกลายเป็นที่อับอายในสายตาคนทั้งภูมิภาค ตนไม่ได้ต้องการตำหนิ แต่สิ่งที่เห็นในครั้งนี้ทำให้ต้องพูดว่า ถ้าการบริหารจัดการยังเป็นแบบนี้ ไม่ว่าเราจะมีศักยภาพแค่ไหน เราก็จะไม่มีวันจัดงานใหญ่ให้สมศักดิ์ศรีประเทศไทยได้เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้






