ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาวิพากษ์การเมือง ชี้พรรคประชาชนทำพลาดซ้ำซาก ตั้งแต่เซ็น MOU ดันพิธาเป็นนายกฯ ไปจนถึงการจับมือทำ MOA ใหม่ ก่อนถูกภูมิใจไทยหักหลัง ยุบสภาหนีอภิปรายกลางภาวะสงคราม
![ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ วิจารณ์การเมือง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ วิจารณ์การเมือง]()
ภาพจากเฟซบุ๊กชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
_1.jpg)
ภาพจากเฟซบุ๊กชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊ก วิจารณ์สถานการณ์การเมืองหลังนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา โดยระบุว่า พรรคประชาชนเป็นฝ่ายที่พลาดแล้วพลาดอีก ตั้งแต่เริ่มลงนาม MOU เพื่อสนับสนุนพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เขาเตือนก่อนแล้วว่า การเมืองไม่มีใครเดินหมากแบบนี้ พรรคประชาชนหวังใช้การแก้รัฐธรรมนูญเป็นหลัก จึงยอมทำ MOA ร่วม พร้อมโหวตให้พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล ขณะที่ตัวเองถอยไปเป็นฝ่ายค้าน คาดหวังว่า 4 เดือนจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วกลับไปสู่การเลือกตั้งอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ชี้ว่า เมื่อสถานการณ์บานปลายถึงขั้นไทย-เขมรตึงเครียด พรรคภูมิใจไทยกลับเลือกฉีก MOA และยุบสภา เพื่อหลบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งที่อยู่ในช่วงสงคราม ซึ่งเขามองว่าเป็นพฤติกรรมที่ "ใจเหี้ยม" และสะท้อนว่า พรรคต้องมาก่อนชาติอย่างชัดเจน
ภาพจากเฟซบุ๊กชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
สำหรับข้อความที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์มีดังนี้
นายกฯ ประกาศ "ยุบสภา" เกมการเมืองที่ "พรรคประชาชนพลาดแล้วพลาดอีก" ผมเคยเตือนก่อนแล้วว่าไม่มีการเมืองที่ไหนทำแบบนี้ หวังแก้รัฐธรรมนูญ ทำ MOA แล้วโหวตให้ภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล
ส่วนพรรคประชาชนนั่งเป็นฝ่ายค้าน ได้แต่วิพากษ์วิจารณ์ นั่งฝันว่า 4 เดือนจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วไปเลือกตั้ง จนมาถึงบัดนี้ ท่ามกลางภาวะสงคราม ไทย-เขมร ภูมิใจไทยเลือกหักหลัง ฉีก MOA แล้วยุบสภาหนีอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงภาวะสงคราม ถือว่าใจเหี้ยมมาก แม้ว่าจะยังรักษาการ แบบนี้ไม่ใช่ชาติต้องมาก่อน แต่พรรคต้องมาก่อน
พรรคส้มไม่ได้ตามที่หวัง ซ้ำยังไปเปิดโอกาสให้ช่วงที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยต้อนบ้านใหญ่เข้าพรรค โยกย้ายข้าราชการ ใช้งบประมาณ เตรียมพร้อมเลือกตั้งใหม่
พรรคประชาชนคงคิดว่า หากพรรคภูมิใจไทยตระบัดสัตย์แล้วคะแนนจะตก แต่งานนี้พรรคภูมิใจไทยได้ "กินฟรี" ส่วนพรรคประชาชนถูกหลอก เสียค่าโง่ซ้ำอีกครั้ง ตั้งแต่ MOU จัดตั้งรัฐบาลของ พิธา พรรคก้าวไกล ถูกหลอก ต่อมา MOA เลือกนายกฯ ใหม่ของ เท้ง พรรคประชาชน ก็ถูกหลอกอีก เรียกว่าถูกหลอกตั้งแต่ต้นยันปลาย
ภาพจากเฟซบุ๊กชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
แม้ว่าพรรคประชาชนมีความปรารถนาดี แต่ความที่ไม่มีประสบการณ์เพียงพอ อ่านเกมการเมืองไม่ทัน พรรคส้มจึงพลาดแล้วพลาดอีก กลายเป็นพรรคที่หาเสียงเก่ง แต่เมื่อเข้าการเมืองไปแล้วกลับเอาคะแนนที่ประชาชนเลือกมา 14 ล้านเสียง โยนทิ้งน้ำ
เป็นบทเรียนราคาแพง ซ้ำร้ายปรากฏการณ์ "ตีเช็คเปล่า" ให้พรรคน้ำเงินกรอกตัวเลขเอง จะทำให้คะแนนของพรรคประชาชนตกต่ำลงไปอีก
ผมเตือนแล้วเตือนอีกว่า การเลือกพรรคภูมิใจไทยเพื่อหวังร่างกติกาใหม่ เหมือนเอาเนื้อไปฝากไว้กับเสือหิว ไม่มีใครคาดหวังว่าพรรคภูมิใจไทยจะรักษาคำพูด เพราะรู้อยู่แก่ใจว่านักการเมืองรุ่นเก่าไว้ใจไม่ได้
ประชาชนเขาดูออก มีแต่นักการเมืองรุ่นใหม่อย่างพรรคประชาชนเท่านั้นที่ดูไม่ออก ถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นอกจากนี้ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยังโพสต์เสริมในคอมเมนต์ว่า ทุกคนรู้ดีว่าใครเป็นผู้มีอิทธิพลควบคุม ส.ว. จนถูกเรียกว่า "ส.ว. สีน้ำเงิน" และย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เคยตั้งใจผลักดันรัฐธรรมนูญชุดใหม่เลย ทำให้พรรคประชาชนตกอยู่ในสถานะถูกหลอกตั้งแต่ต้น เขาย้ำว่าเตือนแล้วแต่ไม่ยอมฟัง และสุดท้ายกลายเป็นการ "เตะหมูเข้าปากหมา" เต็ม ๆ






