
ภัยอันตรายผีพนันบอลสิงเด็กไทย (1) ขาดเรียน-ถูกคุกคามทวงหนี้-ขายตัว
การพนันบอล มีความท้าทาย เร้าใจ สอดคล้องกับลักษณะนิสัยของวัยรุ่นในยุคปัจจุบันที่ต้องการอยากลอง ชอบทำตามเพื่อน กล้าได้กล้าเสีย แต่สิ่งหนึ่งที่น่าเป็นห่วง คือ "สื่อ" กลายเป็นตัวแปลที่มีอิทธิต่อพฤติกรรมอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นสื่อไซเบอร์ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีบทบาทฉุดให้เด็กเข้าสู่อบายมุกได้ง่าย...
"ผีพนันสิงเด็กไทย"...!!!
สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้มีการศึกษาพฤติกรรมเด็กไทยมาเป็นเวลา 3 ปี ในโครงการเฝ้าระวังเด็ก Child Watch พบว่า เด็กไทยแทงพนันฟุตบอล 2 ล้านกว่าคน เพราะเหตุผลฮิตเล่นตามเพื่อน ในช่วงยูโร2008 เด็กควักเงินพนันบอลไม่ต่ำกว่า 1.2 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีนักศึกษาหญิงหันมาเล่นการพนันเพิ่มมากขึ้น บางคนติดพนันบอลต้องเสียตัวแลกหนี้ ส่วนผู้ชายไม่โดนตีตายก็หมดอนาคต
การพนันบอลในช่วงศึกบอลยูโร2008 เป็นสิ่งที่หลายหน่วยงานวิตกกับปัญหาเยาวชน"ติดหนี้พนัน"ที่ตามมา ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผอ.สถาบันรามจิตติ ได้มีการศึกษาข้อมูลการเล่นพนันฟุตบอลของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศในปี 2549 เปรียบเทียบกับปี2550 พบเด็กทุกระดับเล่นพนันบอลเพิ่มขึ้นประถมศึกษาจาก5.46% เป็น6.03% มัธยมต้น10.39%เป็น13.30% มัธยมปลาย14.80% เป็น15.88% อาชีวศึกษา17.88% เป็น18.21% มีเพียงอุดมศึกษาที่ลดลงเล็กน้อยจาก17.10% เป็น 16.45% เฉลี่ยปี 2550 มีเด็กไทยเล่นพนันบอล13.84% โดยจำแนกเป็นชาย21.78% หญิงจากเดิม5.82% เพิ่มขึ้นเป็น 30%
ส่วนภาคที่มีเยาวชนเล่นพนันบอลมากที่สุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 16.74 2 ภาคเหนือตอนล่าง ร้อยละ 15.40 3. กทม.และปริมณฑล ร้อยละ 15.07 4. ภาคกลาง ร้อยละ 14.05 5. ภาคตะวันออก ร้อยละ 12.09 สาเหตุที่ทำให้เด็กเล่นพนันบอล คือ 1.ตามเพื่อนหรือคนรู้จัก 2.อยากได้เงิน 3.อยากลอง 4.สภาพแวดล้อม ยิ่งช่วงเทศกาลอย่างบอลโลก เด็กจะเข้าไปสู่วังวนการพนันได้มากขึ้น 2 เท่าตัว เชื่อว่าปีนี้จะมีเด็กที่เล่นพนันบอลจะมีเพิ่มขึ้น
ปัญหาที่ตามมาหลังจากเยาวชนติดเล่นการพนัน คือ ไม่มีเงินจ่ายหนี้การพนัน และต้องติดหนี้ ยิ่งติดหนี้ยิ่งทำให้เด็กพยายามที่จะทุ่มเทกับเล่นการพนันเพิ่มมากขึ้น จนเสียการเรียน เพื่อที่จะหาเงินใช้หนี้ สุดท้ายก็ต้องเสียเงินอีก และยิ่งเพิ่มจำนวนหนี้มากขึ้น เมื่อไม่มีเงินจ่ายต้องถูกโต๊ะรับพนันบอลข่มขู่ ทำลายร่างกาย เพื่อทวงหนี้ เมื่อเด็กไม่มีเงิน และไม่มีทางออกที่จะหาเงินใช้หนี้ก็จะต้องหันไปทำเรื่องผิดกฎหมาย ลักขโมย ค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อน หรือบางคนต้องถึงขั้นฆ่าตัวตาย เพื่อหนีการทวงหนี้จากโต๊ะพนันบอล เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องใหญ่ และน่าห่วงมาก
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ รองผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ข้อมูลเครือข่ายเยาวชนพบ เด็กอายุน้อยที่สุดที่เล่นพนันบอลกับโต๊ะบอลเพียง 7 ขวบเท่านั้น ใช้เงินแค่ 50 บาท ก็เริ่มเล่นได้ โดยเด็กไม่เกิน 18 ปี แทงน้อยที่สุด 50 บาท มากที่สุด 5 พันบาท เยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปี แทงมากที่สุดถึงหลักแสนก็มี ซึ่งเด็กและเยาวชนอายุ 7-24 ปี ที่มีราว 16 ล้านคน เล่นพนันบอลเกือบ 14% หรือ 2.2 ล้านคน หากเล่นพนันช่วงบอลยูโร2008แข่งกันถึง 31 คู่ เฉลี่ยพนันต่ำสุดตลอดฤดูแข่งขันที่คนละ 500 บาท จะมีเงินของเด็กที่ใช้พนันถึง 1,120 ล้านบาท ช่องทางที่เด็กใช้พนันบอลมากที่สุดคือ 1.ผ่านคนเดินโพย 2.โทรศัพท์ 3.โต๊ะบอล 4.สถานบริการอื่น เช่น โต๊ะสนุ๊ก ร้านอาหาร ผับ บาร์ หอพัก
"พ่อแม่ ผู้ปกครอง และสถานศึกษา จึงต้องเอาใจใส่เรื่องนี้อย่างใกล้ชิด อย่าให้ผีพนันมาสิงเด็ก เด็กดูฟุตบอลได้ แต่ต้องไม่มีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง และดูอย่างรับผิดชอบต่อหน้าที่ เพราะแต่ละคืนกว่าจะแข่งเสร็จก็เกือบตี 4 เด็กต้องไปเรียนหนังสือ ที่สำคัญขอให้สื่อมวลชน รายงานผลกีฬาอย่างคำนึงถึงผลกระทบที่ตามา เพราะไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ การสื่อสารบอกราคาต่อรอง การให้โหรมาทำนายว่าทีมใดจะชนะคือส่วนสำคัญที่กระตุ้นให้เด็กอยากเล่นพนัน และฝากไปถึงเด็กและเยาวชน อย่าให้เหล้ามาเกี่ยวข้องกับการดูบอล เพราะจะนำสู่ปัญหาอื่น ทั้งทะเลาะ วิวาท อุบัติเหตุ"ทพ.กฤษดา กล่าว
นายปอ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี อดีตนักเล่นพนันบอล เล่าว่า ผมเริ่มเล่นพนันฟุตบอลตั้งแต่ ม.ต้น เนื่องจากเพื่อนชักชวน โดยเริ่มเล่นพนันกันในวงเพื่อนมีการขยายวงกว้างขึ้น จนเริ่มก้าวเข้าสู่โต๊ะพนันบอล ช่วงนั้นมีความสุขกับการเชียร์บอลมาก เนื่องจากมีเพื่อนร่วมเชียร์เป็นจำนวนมาก และเป็นสิ่งที่ท้าทายกับการเล่นพนันบอล จนมองว่าการพนันบอลเป็นการสร้างอาชีพ เพราะคิดว่าการเล่นพนันบอลเป็นการเล่นที่ถูกกฎหมาย เนื่องจากไม่เคยพบ และไม่เคยถูกตำรวจจับกุม ประกอบกับตำรวจหลายคนยังเล่นพนันฟุตบอลด้วย
กระทั้งเริ่มเสียพนันต้องติดหนี้ 2 แสนบาท ถูกเจ้าของโต๊ะทวงหนี้ และหันไปประกอบอาชีพค้าของเถื่อนทุกอย่าง เพื่อให้ได้เงินมาใช้หนี้ และเล่นการพนันบอลต่อทุนที่เสียคืนมา เมื่อเล่นมากขึ้นก็เริ่มติดหนี้มากขึ้นเหมือนกัน สุดท้ายต้องหนีการทวงหนี้ไป นอกจากนี้เพื่อนผู้หญิงที่ชอบพนันบอลด้วยกันติดหนี้ จนต้องขายรถ มาใช้หนี้ แต่ก็ได้เงินมาไม่พอ เนื่องจากใช้หนี้ไปด้วยก็เล่นการพนันไปด้วย สุดท้ายต้องขายตัว เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ และเล่นพนันบอลต่อไปอีก
"ผมกลับคิดทบทวนเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น และคิดเลิกเล่นการพนันโดยเด็ดขาด หันกลับไปเรียน และทำงานไปด้วย ส่วนหนี้ 2 แสนบาท ก็เข้าไปเคลียร์กับโต๊ะจนหมด" นายปอ กล่าว
นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ประสานงานศูนย์กิจกรรมเยาวชนเพื่อชุมชนและสังคม อดีตนักเล่นพนันบอล บอกว่า จากการสอบถามเจ้ามือโต๊ะบอลรายใหญ่คาดว่ามีโต๊ะบอลทั่วประเทศ 6 พันกว่าโต๊ะ ส่วนโต๊ะขนาดกลาง และเล็ก 5 พันโต๊ะ มีการรับพนันตั้งแต่ 50 บาท -10 ล้านบาท การพนันบอลมีมากที่สุดในช่วงพรีเมียร์ลีก มีนักแทงบอลหน้าใหม่เกิดขึ้นทุกวัน โดยเฉลี่ยอายุ 13 ปี คนเดินโพยที่เข้าถึงเด็กมากที่สุด คือ เพื่อนนักเรียนด้วยกันเอง ซึ่งการพนันบอลล่อใจเด็กทุกอย่างใช้เงิน 50 บาทกลายเป็นเงิน 500 บาท ทั้งยังให้แทงก่อนจ่ายทีหลังได้ ช่องทางที่นิยมมาก คือ ร้านอาหาร โต๊ะสนุ๊กเกอร์ ผับ บาร์ ที่ให้ชมบอลในร้าน และมีคนเดินโพยมาชักชวนให้เล่น โดยบอกกันปากต่อปาก
เด็กที่เล่นเสียแล้วไม่มีเงินจ่าย ถ้าเป็นเงินน้อยๆ โชคดีอาจแค่ถูกทำร้ายร่างกาย แต่ถ้าเงินเป็นหลักหมื่นบาทขึ้นไป บางคนต้องเสียอนาคต เพื่อนผมเคยเรียนอยู่แถวมหาวิทยาลัยดังย่านรามคำแหง แต่เมื่อเป็นหนี้พนันบอลหลักแสนบาท ก็ต้องออกจากมหาวิทยาลัย ไม่กล้าไปเรียน กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวก็ไม่ได้ บางรายถูกเล่นงานถึงตาย นักศึกษาสาวบางคนติดหนี้พนันบอล จนต้องขายรถ ขายคอนโด และยอมเสียตัวให้เจ้ามือ เพราะไม่มีเงินจ่าย นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น การพนันบอลเป็นวงจรอุบาทว์ไม่แพ้ยาเสพติด ที่จะทำลายเราทั้งชีวิต มีเรื่องที่น่าเศร้าใจคือน้องของเพื่อน ที่บวชเป็นพระตอนนี้ ก็ยังโทรศัพท์มาฝากแทงบอล
การเล่นพนันฟุตบอลของเยาวชน นักเรียน นักศึกษา มีความรุนแรงเป็นวงกว้าง ส่งผลต่อการเรียน การทะเลาะเบาะแว้งของคนในครอบครัว และระหว่างเพื่อน และการเป็นหนี้ก่อให้เกิดความรุนแรงการทวงหนี้ของโต๊ะบอล จนเป็นต้นเหตุการกระทำผิดกฎหมาย ความเครียด หากทุกฝ่ายร่วมมือ และประสานการทำหน้าที่อย่างจริงจัง ปัญหาเล่นพนันจะบรรเทาเบาบางลงได้ในที่สุด
เตือน 10 สัญญาณอันตรายลูกติดพนันบอล
1. อดหลับ อดนอน ไม่พลาดแม้แต่คู่เดียว แม้จะดึกแค่ไหน
2. เชียร์ทุกคู่แม้ไม่รู้จัก
3. มีอาการลับๆ ล่อๆ เวลาคุยโทรศัพท์ ใช้ภาษาแปลกๆ เช่น ลูกครึ่ง ครึ่งควบลูก
4. พกหนังสือพิมพ์กีฬา โพยแทงบอลติดตัว
5. ไม่ใช้เงินตามปกติ ไม่กิน เก็บเงินแทงบอล
6. เงินเริ่มขาดมือ ขอยืมทุกคน ทั้งเพื่อนสนิท ไม่สนิท ญาติ พี่ น้อง
7. ของที่เคยมี มือถือ นาฬิกา กล้องถ่ายรูป หายไป และอาจนำของในบ้านไปขายหรือจำนำ
8. ซึม เศร้า เครียด เวลาทีมที่เชียร์แพ้แม้จะไม่ใช่ทีมที่ชอบ
9. รวยผิดปกติ ใช้เงินมากกว่าที่เคยมี เช่น เปลี่ยนมือถือใหม่ เลี้ยงเพื่อนฝูง กินเที่ยวไม่ยั้ง
10. ถูกข่มขู่ โดนตามทวงหนี้ มีคนแปลกหน้ามาตามหา
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
![]()






