ช็อค! นัททิว ออกจากบ้าน เอเอฟ


นัท AF5


          V 13 นัท ทิว .... หนุ่มสไตล์เกาหลีแห่งบ่านเอเอฟ ต้องก้าวออกจากการแข่งขันในสัปดาห์ที่ 6 ทำแฟนคลับเสียน้ำตากันถ้วนหน้า

          เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์ที่น้ำตาท่วมธันเดอร์โดมมากที่สุดเท่าที่มีการแข่งขันเอเอฟซีซั่นที่ 5 ก็ได้ เมื่อหนุ่สไตล์เกาหลี นาย ณัฐฏ์ ทิวไผ่งาม วี 13 ต้องก้าวออกจากการแข่งขัน เมื่อเป็นผู้ที่มีคะแนนน้อยที่สุด หลังจากออกมายืนปากเหว ร่วมกับ กรีน วี 16 และ มิคกี้ วี 6 ในสัปดาห์ที่ 6 กับโจทย์เพลง อัสนี-วสันต์ โชติกุล ที่ได้รับเสียงชมจากคอมเม้นว่าทำได้ดีมีการพัฒนาด้านเสียงมากขึ้น ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นคอนเสิร์ต หนุ่มนัทเปิดใจว่า

          "ถ้าเอาหวังสูดสุดเอาจริงๆ คืออยากเข้าให้ได้ 5 คนสุดท้ายครับ ได้มา 6 สัปดาห์ก็คือเสียดายที่จะไม่ได้เรียนน่ะครับ แต่ก็ไม่เสียใจที่ต้องออกวีกนี้ นัทก็ไม่ตกใจนะ ดูบ่อย เคยเห็นมาเยอะ เข้าใจครับ ไม่ตกใจ แต่คิดอะไรไม่ทัน พอบอกV13 เพื่อนก็โผเข้ามากอดแล้ว คือข้างบนเวทีนัทไม่ค่อยได้ยินเสียงมากเท่าไหร่ รับรู้ได้จากที่โบกๆ มีเสียงลอดเข้ามาบ้างก็โอเคครับถือว่าเป็นกำลังใจ

          ก็มันเลยเสียใจ มันเสียดายมากกว่า เดินออกมาเต็มที่มาก ผมเต็มที่ไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ตั้งแต่มือจับแซ็กโซโฟนแล้ว เต็มที่แล้วตั้งแต่จับแซ็กฯ หลายๆ สัปดาห์ผมก็เต็มที่ทุกสัปดาห์ ตัวผมเองผมชอบวีกที่ร้องค่อยๆ พูด มันเป็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้ พอทำได้แล้วคอมเม้นเตเตอร์ชม คือสัปดาห์แรกที่ได้รับคำชม วีกแรกกับวีกสองไม่ได้คำชมเลย แต่พอสัปดาห์ที่ 3 ไม่ใช่แนวเลย แต่ร้องได้ดีใจแหวกแนวได้แต่ได้รับคำชม

          เรื่องเขียนโน้ตมีเขียนโน้ตครับแต่บอกไม่ได้เพระาเรื่องที่เขียนมันไม่ใช่เรื่องของผม ผมดูแต่ ณ วินาทีนั้นผมก็แว๊บมาคิดว่าผิดมั้ย แต่เราคิดว่ามันนิดหน่อยไม่น่าจะเป็นอะไร เราก็เขียนกันสั้นๆ แต่ไม่นึกว่ามันจะยาว แต่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เรื่องที่เขียนมันจิ๊บจ๊อยมาก ไม่ใช่เรื่องกรีนครับ ถ้าจะออกเพราะเรื่องนี้แต๊บก็ต้องออก ที่พูดแบบนี้หมายความว่าเวทีนี้โปร่งใสมั่นใจมากจริงๆ เรื่องโหวตกลับเข้ามาคงไม่มีหรอกครับ ถ้าได้กลับมาก็จะดีใจมาก ใจก็อยากกลับแต่ผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป"

          โดยบรรยากาศในบ้านไม่มีใครเฟคต่อกันแน่นอน "มาในบ้านเอเอฟได้มากเลย เมื่อก่อนดูเอเอฟทุกซีซั่นจะตอบว่าได้มิตรภาพ จนกระทั่งได้เข้ามาเองถึงรู้ว่าเออไม่ได้เทคนิคการร้องเหรอ พอเข้ามาเองถึงรู้ พอเข้ามาแล้วเด็ดสุดที่ต้องพูดคือมิตรภาพ ตอนแรกจูนกันไม่ติด แต่พออยู่แล้วรักกัน บ้านหลังเบ้อเร่อมีแค่นั้น ก็ทำให้รักกัน

          ไม่มีเฟคหรอก ไม่มีการเฟคตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่ไม่คุยกัน เพราะเรายังไม่สนิทกัน พอรู้จัก กันมันก็ไม่มีใครเฟค 24 ชั่วโมงได้หรอก คือเราคุยกันให้อภัยกันตอนแรกผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนผมออกจะมีคนร้องไห้ให้ผมมั้ย หันไป แล้วคือไอ้รอนก็มาคลอๆ ที่ไม่คิดว่าจะร้องคือพี่ปั๊ม พี่กี๋ พอหันไปพี่ปั๋มน้ำตาไหลพรากๆ เลย"

          ส่วนกรณีโดนคอมเม้นเตเตอร์อย่าง "ปั๋ง ประกาศิต" คอมเม้นท์เรื่องตุ้งติ้งยอมรับเสียความมั่นใจนั้น "เสียเซลฟ์ครับ เสียมาก บอกตรงๆ พอกลับมาถึงบ้านผมก็คุยกับพี่โบว์ มีอะไรผมก็พูดตรงๆ ว่าทำไม ผมก็ทำเต็มที่อยากให้คนดูสนุก แต่ก็เสียนิดๆ แต่ครูเป็ดเคยบอกว่าผมใจเบาๆ ผมจะผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้ง่ายๆ ครับ ไม่คิดมาก คือผมก็เสียเซลฟ์แต่ไม่เป็นไร เขาจะมองอะไรก็มองไป ผมรู้ตัวผม เพื่อนผมรู้ ครอบครัวผมรู้ก็พอ ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าพูดอีก ผมเองก็ไม่ได้อยากได้ยินคำนี้ แต่ถ้าเกิดมันมีอะไรผมก็เข้มแข็งพอที่จะยอมรับ"

          กับคำถามที่ว่าหนุ่มนัทแอ๊ปแมน นั้น "ผมจะแอ๊ปทำไหมครับ ถ้าผมอะไรผมก็เป็นอย่างนั้น ถ้าผมแอ๊ปคงจะทำไมได้ตลอด ทุกคนก็ดูผมอยู่ ผมรู้ว่าผมเป็นอะไร ผมไม่จำเป็นต้องแอ๊ปอะไร"

          เมื่อโดนแซวมากๆ คิดจะทำตัวยังไงบ้าง "ก็คงเป็นเรื่องบุคลิกภาพ อย่างเรื่องการพูดก็คงพูดให้หนักแน่นขึ้น ถ้าครูรักษ์ หรือคนรอบๆ ตัว บอกว่าการที่นัทเป็นคนแบบนี้เป็นคนละเอียดอ่อนซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าผมเป็นคนละเอียดอ่อน และจิตใจอ่อนโยน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเป็นหรือเปล่า เค้าบอกเป็นสิ่งที่ดีและนัทจะทำอะไรก็ดีสำหรับทุกคนที่สัมผัสได้ ซึ่งผมก็จะเก็บสิ่งนี้ไว้และจะเป็นต่อไป แต่นอกเหนือจากอันนั้นผมก็จะพยายามปรับปรุงครับ

          ทั้งนี้พอจะทราบว่ากระแสข้างนอกมันแรงมาก ไม่งั้นพี่ปั๋งคงไม่พูด เพราะผมก็ดูมาเยอะ พี่ปั๋งพูดแบบนี้ก็หมายถึงอะไรแต่ก็พยายามไม่เอามาคิดไม่งั้นผมคงใช้ชีวิตในบ้านไม่มีความสุข เพราะอยู่ในบ้านผมมีคนเข้าใจผม ผมมีกำลังใจข้างนอกที่เค้าไม่มองจุดนี้ และขอขอบคุณสำหรับคนที่มั่นใจในตัวผม

          โดยหลังจากออกจากบ้านเอเอฟ อันดับแรกจะไปจัดฟันต่อ เพราะผมจัดค้างไว้ เพราะตอนนี้มันล้มขึ้นเรื่อยๆ ครับ ออกไปปุ๊บหาหมอฟันก่อนเลย ส่วนความฝัน อยากเป็นนักร้องครับ นักร้องนี่คือที่สุด"

          ก่อนทิ้งท้ายว่า "ขอบคุณครับ แฟนคลับทุกๆ คนโหวตมาถึง 6 สัปดาห์ มันไม่ใช่น้อยๆ มันมากสำหรับผมในบ้านเอเอฟ ขอบคุณที่ทำให้ฝันผมเป็นจริง คือทุกคนต่อยอดให้แล้ว แค่ไหนคือผมโอเค ขอบคุณแฟนคลับตั้งแต่วัยเด็กถึงวัยโตครับ"

          ด้านคุณ "บอย อรรถพล ณ บางช้าง" โปรดิวเซอร์รายการ เผยเซอร์ไพร์ส ตุ๊กตาภูมิคุ้มกัน ยอมรับ "นัทV13" ออก ผู้บริหารใหญ่ในทรูถึงขั้นส่งแมสเสจถาม "ทำไมนัทออก" ยันโปร่งใสแน่นอน

          "คือถ้าจะใช้ตุ๊กตาจะถามเลยว่าใช้หรือไม่ใช้ ถ้าใช้ก็บอกก่อนเลยจะได้มีภูมิคุ้มกัน เขาก็ต้องถือตุ๊กตามา พอเขายืนเรียง ปิดโหวตปั๊บน้องจะใช้ตุ๊กภูมิคุ้มกันมั้ย เขาจะบอกว่าใช้หรือไม่ใช้ถ้าเขาไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร วิธีการที่เอามาใช้มันก็ค่อนข้างที่จะยาก ไม่ใช่ว่าโหวตแล้วมาบอกนะ เขาไม่รู้ว้าเขาโดนโหวตออกมั้ย เช่นผมมีตุ๊กตาภูมิคุ้มกันผมก็ต้องมาประเมินก่อนว่าผมต้องออกมายืนปากเหวมั้ย ถ้าคิดว่าเราร้องดี ไว้ใช้วีกหน้า อะไรแบบนี้ สัปดาห์หน้าประกาศว่าใครได้ใช้ก็ต้องดูต่อไป"

          ที่ไม่ให้คนที่หนึ่งได้ใช้สิทธิ์ เพราะว่าคนก็จะถล่มโหวต พอคนที่ 2 เนี่ยจะโหวตยังไงใช่มั้ย ผมทำให้รู้สึกว่ามันแฟร์ขึ้น ไม่งั้นมันกำหนดได้ว่าชั้นจะโหวตให้คนนี้ จะโหวตให้ได้ที่ 2 ต้องโหวตให้ดี ก็ได้ภูมิคุ้มกันไป เดี๋ยวจะมีมาอีกเรื่อยๆ ถึงช่วงโชว์จะมีมาอีกเรื่อยๆ ลูกเล่นการปล่อยเพลงเยอะ ทีมงานก็อยากให้สนุก คนดูตามก็สนุกดี วันนี้ก็เสียดายน้องนัท น้องนัทน่าจะอยู่"

          ส่วนกรณีล็อกโหวตบอกเป็นไปไม่ได้เพราะมีบริษัทตรวจสอบแล้วในปีนี้ ยันแม้แต่คนทำก็ไม่รู้ผลล่วงหน้า "วันนี้สูสีมาก จะพูดเองก็ไม่กล้าพูดจะบอกว่า 3 คนนี้คะแนนบี้กันแบบว่าเป็นแบบนี้เลยหรือ บี้กันแบบว่าห่างกันนิดเดียว แล้ววันนี้คนร้องไห้เยอะเลย ส่วนผลโหวตก็นี่คือการเอาไพร์วอเตอร์เฮ้าส์ เขาตรวจสอบบัญชี ตรวจสอบความถูกต้องมาเลยนะ ไม่งั้นผมก็โดนด่า ไม่รู้จะล็อกไปทำไมนี่คุณศุภชัย เจียรวนนท์ (ผู้บริการทรู) แมสเสจมาถามว่านัทออกได้อย่างไรเนี่ย..(หัวเราะ) ไม่มีใครคาดหวังได้คนทำยังไม่รู้เลยว่าใครจะออก สูสีมากวีกนี้" ทั้งนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์ได้โชว์แมสเสจจากผู้บริหารใหญ่ในทรูถึงขั้นส่งแมสเสจถาม "ทำไมนัทออก" ทำให้ยืนยันได้ว่าโปร่งใสแน่นอน

          ส่วนกรณีแม่ "มิกกี้" ส่งสารถึงหนุ่ม "แต๊บ" เรื่องให้ออกห่างสาว "มิกกี้" นั้น ผู้บริหารทรูบอกตนไม่ทราบเรื่อง และแม่ของมิกกี้เองก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว อีกทั้งกรณีครู "เรื่องแม่มิกกี้ผมยังไม่ทราบ แต่ไม่อยากให้ถึงขั้นตบกัน แหม อกหักมันก็มีกันบ้าง เราก็มีหน้าที่ดูไป..(หัวเราะ) ส่วนเรื่องเอาข่าวมาบอกเด็กในบ้าน มีหนังสือฉบับหนึ่งมาเขียนว่าครูไปบอก แล้วมีเรื่องครูลำเอียงแล้วเอาไปเล่าให้เด็กฟัง คือถ้าพูดตามฟอร์แมทไม่ควรพูดทั้งนั้น แต่ใน 4 ปีที่ผ่านมาครูก็พูดทุกครั้งบางทีคุยไปก็หลุดไป

          ตามฟอร์แมทเขาก็ไม่ให้บอก ตอนปีหนึ่งเรื่องดัง เด็กไม่ควรรู้ว่าตัวเองดัง ปีหนึ่งครูก็คุยกัน ซึ่งตามฟอร์แมทเขาไม่ให้บอก ผมไม่ได้ว่านะว่าจะเป็นครูกานต์หรือใครว่าอย่าไปพูดเลย แต่การพูดก็ไม่ทำให้เกิดผลเสียหายในการแข่งขัน แต่นี่ผมไม่ได้ยินว่าเขาพูด แต่เมื่อได้ทราบก็คงต้องบอก แต่คิดว่าครูก็คงไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็อาจจะมีหลุด"


ข้อมูลและภาพประกอบจาก



เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ช็อค! นัททิว ออกจากบ้าน เอเอฟ อัปเดตล่าสุด 23 มิถุนายน 2551 เวลา 17:25:01 73,233 อ่าน
TOP
x close