เสื้อเกราะ สัญชาติไทย

 


             สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอเปิดตัวเสื้อเกราะกันกระสุนสัญชาติไทย ผลงานนักวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ใช้เส้นใยสังเคราะห์ที่มีความแข็งแรง  รับน้ำหนักกระสุนได้ดีมีประสิทธิภาพเทียบเท่าต่างประเทศ  แต่ต้นทุนถูกกว่าเท่าตัว  คาดใช้เวลาอีก  6 เดือนผลิตออกสู่ท้องตลาด ตั้งเป้าช่วยเหลือทหารและครูในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

             เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ  กระทรวงอุตสาหกรรม จัดสัมมนาโครงการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาสิ่งทอเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์สิ่งทอไทย พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมสิ่งทอฝีมือคนไทย 5 ผลงาน ประกอบด้วย

            1.เสื้อเกราะกันกระสุน (แบบเกราะอ่อน) รายแรกของโลกที่ใช้เส้นใยโพลีเอสเตอร์ 

            2.ผ้าปิดจมูกป้องกันเชื้อวัณโรคผสมสารสกัดจากมังคุด 

            3.ผลิตภัณฑ์เส้นใยกล้วย 

            4.ผลิตภัณฑ์เสื้อนาโนซิงค์จากเศษไหมและรังไหม

            5.โครงการพัฒนาผ้าไม่ทอเช่น ถุงผ้า ผ้าเย็น ผ้าอ้อมเด็ก เป็นต้น


             นายดิเรก  รัตนวิชช์  รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวเปิดสัมมนาว่า ปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์สิ่งทอ นอกจากจะเป็นเสื้อผ้าสวมใส่แล้วยังสามารถนำมาผลิตเป็นสินค้าสิ่งทอที่ใช้ในบ้าน และสิ่งทอเทคนิคที่ใช้ในอุตสาหกรรม  งานวิศวกรรม  การแพทย์ การก่อสร้างและอื่นๆ อีกมากที่เป็นสิ่งทอสำหรับอนาคตที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง เป็นสิ่งทอที่ยังไม่มีการแข่งขันกันมาก ซึ่งจะแตกต่างกับประเภทเสื้อผ้าที่มีผู้ผลิตมากและแข่งขันสูง

             "การวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอจะต้องมีการต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์  ในวันนี้จึงได้นำนวัตกรรมสิ่งทอ 5  ผลงาน ซึ่งเตรียมพร้อมที่จะออกสู่ท้องตลาดมานำเสนอต่อสาธารณชน" รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว

             สำหรับผลงานเสื้อเกราะกันกระสุนจากเส้นใยสังเคราะห์ (แบบเกราะอ่อน) เป็นฝีมือของคณะนักวิจัยภาควิชาวิศวกรรมสิ่งทอ  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดย ผศ.ดร.สมประสงค์ ภาษาประเทศ หัวหน้าโครงการวิจัย ระบุว่า เมื่อปี พ.ศ.2550 ได้รับทุนจากสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอเพื่อวิจัยและพัฒนาเสื้อเกราะที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมของต่างประเทศ  โดยคณะผู้วิจัยได้ใช้วัสดุภายในประเทศ  100%  คือโพลีเอสเตอร์  เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความแข็งแรงด้วยความหนา  80  ชั้น  น้ำหนักประมาณ  4-4.5  กิโลกรัม  สามารถสวมใส่ได้คล่องตัวมากกว่าเกราะแข็ง

             ผศ.ดร.สมประสงค์กล่าวว่า การผลิตเสื้อเกราะเส้นใยโพลีเอสเตอร์มีต้นทุนไม่เกินตัวละ  20,000  บาท ในขณะที่เสื้อเกราะกันกระสุนที่ผลิตจากเส้นใยเคฟล่าของต่างประเทศมีราคาสูงถึงตัวละ  40,000  บาท แต่มีมาตรฐานใกล้เคียงกันและผ่านการทดสอบจากแผนกขีปนวิธี โรงงานวัตถุระเบิดทหาร กรมการอุตสาหกรรมทหาร โดยได้มาตรฐานระดับ 3A และจดสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว

             ทั้งนี้ จะมีการผลิตเสื้อเกราะขึ้นอีก 10 ตัวเพื่อส่งไปทดสอบที่ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร  กองบัญชาการสูงสุด  จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อขอใบรับรองในการผลิตเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ

             "หัวใจสำคัญของเสื้อเกราะกันกระสุนชนิดนี้คือ ภายในมีเส้นใยสังเคราะห์ที่ผนึกกัน 80 ชั้น และมีโครงสร้างการทอที่เหมาะสมต่อการรับน้ำหนักกระสุน  ลดแรงกระแทก  เบี่ยงเบนทิศทางกระสุนและกระจายน้ำหนักไปรอบทิศทาง  เนื่องจากเสื้อเกราะที่สามารถกระจายน้ำหนักกระสุนออกไปได้จะป้องกันอันตรายได้มากกว่าเสื้อเกราะที่ปะทะกระสุนโดยตรง

             หัวหน้าโครงการวิจัยเสื้อเกราะกันกระสุนจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ บอกว่า การทำงานวิจัยครั้งนี้มุ่งช่วยเหลือทหารที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยใน  3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกระทรวงกลาโหมก็มีความสนใจ  รวมทั้งจะประสานกระทรวงศึกษาธิการเพื่อส่งไปให้ข้าราชการและครูอาจารย์  "ขณะนี้ทหารได้สวมเสื้อเกราะเพียงส่วนน้อย เพราะเสื้อเกราะจากต่างประเทศต้องใช้งบประมาณสูง อย่างไรก็ตาม เสื้อเกราะชุดนี้มีราคาถูกกว่ามาก และคาดว่าภายใน  6  เดือนจากนี้ไปจะสามารถผลิตออกมาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ" รศ.ดร.สมประสงค์กล่าวในที่สุด

             ด้านนายวิรัตน์  ตันเดชานุรัตน์  ผอ.สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ  กล่าวว่า มีความเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการสิ่งทอจะให้ความสนใจและเข้ามาร่วมลงทุนอย่างแน่นอน  เพราะเป็นผลงานที่เกิดขึ้นจากการวิจัยควบคู่กับการต่อยอดในเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้หลักการทำงานของนักวิจัยที่ได้รับทุนจะต้องเข้าใจโจทย์หรือความต้องการของตลาดเป็นตัวตั้ง  และสามารถสร้างนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับของตลาดในวงกว้าง



ข้อมูลและภาพประกอบจาก
 


 

 

 

 

 

 

 

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เสื้อเกราะ สัญชาติไทย อัปเดตล่าสุด 10 กรกฎาคม 2551 เวลา 16:34:10 14,839 อ่าน
TOP
x close