
เรื่องราวเพลงลามกว่อนทางอินเทอร์เน็ตรับวันภาษาไทยแห่งชาติ 29 กรกฎาคม จนบรรดาผู้ปกครองต้องร้องเรียนผ่านกระทรวงวัฒนธรรมครั้งนี้ ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม โดย น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมได้รับร้องเรียนจากเครือข่ายผู้ปกครอง ที่เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับการเผยแพร่เพลงใต้ดินที่มีเนื้อหาลามกอนาจาร ใช้ภาษาที่มีความรุนแรงและหยาบคายมากจนฟังไม่ได้
น.ส.ลัดดา กล่าวว่า ผู้ปกครองร้องเรียนเข้ามาว่า บุตรชายอายุ 11 ขวบ นำเพลงลามกมาร้องให้ฟัง เนื่องจากพี่ชายวัยรุ่นได้ดาวน์โหลดเพลงดังกล่าวมาจากเว็บไซต์ ซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นแต่งเพลงลามกอนาจาร เนื้อหาหยาบคายที่สุด โดยพูดถึงการมีเพศสัมพันธ์อย่างโจ่งแจ้ง และพาดพิงถึงชื่อสถาบันการศึกษาหลายแห่งให้เกิดความเสียหาย ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมจะรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ เพื่อส่งไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ที่ครอบคลุมการเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร พร้อมทั้งฝากเตือนเด็กและเยาวชนว่า อย่าไปดาวน์โหลดหรือเปิดรับเพลงลามกเหล่านี้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะจะมีความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์
"ที่สำคัญพ่อแม่ผู้ปกครองและครูอาจารย์ ควรสอดส่องดูแลลูกหลานในการเปิดท่องเว็บไซต์ อินเทอร์เน็ต เพราะเครือข่ายพ่อแม่บอกว่า ลูกชายที่อยู่ชั้น ป.6 ก็ร้องเพลงลามกแบบนี้ได้แล้ว เนื่องจากเด็กที่ดาวน์โหลดเพลงลามกจากอินเทอร์เน็ตกำลังทำความผิด และผู้ปกครองก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 อย่างไรก็ตาม ดิฉันไม่อยากให้เด็กๆ หมกมุ่นฟังเพลงที่ชักจูงไปในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ ที่สำคัญเพลงใต้ดินเหล่านี้ใช้ภาษาที่หยาบคายมาก ทำให้เกิดความเสื่อมทรามทางวัฒนธรรมของชาติ" ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมกล่าว
นอกจากนี้ หากเด็กนำมาร้องจนติดปากจะทำให้เกิดความเคยชินกับการพูดภาษาไทยที่หยาบคาย และซึมซับค่านิยมทางเพศอันไม่เหมาะสม ที่แสดงออกอย่างหยาบคายจนไม่สามารถยอมรับได้ ขณะเดียวกันสถาบันการศึกษาต่างๆ ควรร่วมกันประฌามการแต่งเพลงโดยใช้ชื่อมหาวิทยาลัยไปในเจตนาที่หยาบคาย และนิสิต นักศึกษาควรร่วมประฌาม อย่านำมาร้องอย่างคะนองปาก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเพลง "หมอ...รุงรัง" ซึ่งเป็นเพลงลามกที่เครือข่ายพ่อแม่ได้ร้องเรียนมายังศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม พบว่า เพลงดังกล่าวเป็นเพลงที่วัยรุ่นแต่งขึ้น และนำมาร้องในโอกาสต่างๆ รวมทั้งในกิจกรรมรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยด้วย จนมีการนำมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ต่างๆ ที่สามารถดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือเพื่อนำมาฟังอย่างแพร่หลายในกลุ่มวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม เนื้อเพลงมีความหยาบคายทางภาษามาก ซึ่งใช้คำลามกอนาจารที่สื่อเรื่องค่านิยมการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งนำชื่อสถาบันการศึกษามาใช้ในเพลงอย่างหยาบคาย
จากการสอบถามบรรดานักศึกษา พบว่า เป็นเพลงยอดนิยมในหมู่วัยรุ่น ใครไม่มีอยู่ในริงโทน โทรศัพท์มือถือ ถือว่าตกยุค โดย น.ส.แพท อายุ 19 ปี นักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านบางเขน กล่าวว่า เพิ่งเดินทางมาศึกษาต่อในกรุงเทพฯ เมื่อช่วงเปิดเทอมต้องเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องที่รุ่นพี่ที่คณะจัดขึ้น ปกติก็จะมีการร้องรำทำเพลง รุ่นพี่ก็เอาเพลงแปลงมาร้องให้ฟัง และหนึ่งในนั้นเป็นเพลง "หมอ...รุงรัง" แต่เท่าที่ได้ฟังก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ก็แปลกและตลกดี
"พอพี่ๆ เขาร้องให้ฟังเป็นต้นแบบ แล้วในเพื่อนๆ ที่ไปร่วมรับน้องร้องกัน ทุกคนก็รู้สึกสนุกสนานไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ ทุกวันนี้รุ่นน้องๆ ปี 1 ทุกคณะรู้จักเพลงนี้กันหมด ไปหาโหลดริงโทนจากมือถือเสียด้วยซ้ำ ส่งกันไปส่งกันมา ใครไม่มีถือว่าเชยในสายตาของเพื่อนๆ บางคนที่เพิ่งเคยได้ยินก็จะขอโหลดทุกครั้ง" นักศึกษาสาวกล่าว
นายเอก อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยปี 3 ย่านรังสิต กล่าวว่า เพลงดังกล่าวมีมานานแล้ว เพราะได้ยินตั้งแต่อยู่ชั้นปี 1 ช่วงปีที่ผ่านมาเพลงดังกล่าวเป็นที่นิยมและมีคนพูดถึงกันมาก เท่าที่เห็นก็คือในห้องแคมฟรอกมีการเปิดเพลงนี้กันแทบทุกคืน ส่วนตัวไม่ได้มองว่าเพลงดังกล่าวเสียหายอะไร เพราะฟังเพื่อการบันเทิงเท่านั้น
"ผมว่าผู้ใหญ่ฟังคงรู้สึกว่ามันหยาบคาย แต่สำหรับใครที่เคยเล่นแคมฟร็อกเราจะได้ยินกันเป็นประจำ และมีเพลงแปลง เพลงแต่งจากศิลปินใต้ดินอีกจำนวนไม่น้อย ที่แต่งเพลงลักษณะแบบนี้ เท่าที่ทราบก็มีอีกหลายเพลงนอกจาก หมอ...รุงรัง ก็คือ "ฮีจ๋าฮี" ใครแต่งจำไม่ได้, "ระยองฮิ" ของโหน่ง อำนาจ, "ฤาษีคว...แดง" ของศิลปี้ ดิเอเลี่ยน, "คว...คู่... ี" ซึ่งหากลองตรวจสอบจะพบว่าเพลงเหล่านี้ใช้คำที่หมิ่นเหม่มากกว่า แต่ก็เป็นที่นิยมของกลุ่มนักศึกษา" นายเอกกล่าว
ศึกษาและเรียนรู้การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างถูกวิธีได้ที่
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบจาก The Savvy Boomer






