นุ่น สาวสมถะ ขออยู่แบบพอเพียง


นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา


          ถึงแม้หน้าตาจะไม่โดดเด่น หุ่นจะไม่เอ๊กซ์...เซ็กซ์บอม แต่นางเอกสาว "นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา" ก็เป็นนางเอกสาวอีกคนที่คิวยุ่งซะเหลือเกิน นับตั้งแต่แจ้งเกิดจากหนัง เพื่อนสนิท จนมาถึงวันนี้เธอเข้าวงการมาได้ 3 ปีกว่าแล้ว แต่เธอก็ยังคงมีงานต่อเนื่องไม่หยุด วันก่อนเลยแอบแทรกคิวจับเธอมาแต่งตัวเก๋ๆ พร้อมมาพูดคุยเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องงานและความรักของเธอซะเลย

ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง

          นุ่น : ตอนนี้กำลังถ่ายละคร "สื่อรักชักใยอลวน" และ "นางสาวเย็นฤดี" แล้วก็โปรโมตหนัง "หนึ่งใจ... เดียวกัน" ซึ่งเป็นภาพยนตร์ใน ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ด้วย แต่นุ่นไม่เหนื่อยนะ กำลังสนุก เพราะนุ่นไม่ชอบอยู่นิ่ง ถ้าอยู่นิ่งจะรู้สึกจังหวะชีวิตมันช้า กับการที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับพระองค์ท่าน ตอนแรกเกร็งมาก แต่ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มีโอกาสถวายงานรับใช้ ถือเป็นเกียรติแก่ชีวิตและครอบครัว และโดยส่วนตัวแล้วนุ่นก็ภูมิใจกับตัวเองที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังที่พูดถึงเด็กขาดโอกาส เพราะนุ่นชอบอะไรที่เกี่ยวกับปัญหาสังคม หนังเรื่องนี้นอกจากจะดูสนุกแล้ว ยังต่อยอดไปกระตุ้นทำให้คนได้มองถึงเด็กด้อยโอกาสเหล่านั้น

เท่าที่ดูนุ่นจะค่อนข้างพิถีพิถันกับการเลือกงาน

          นุ่น : นุ่นค่อนข้างโชคดีที่ได้งานดีๆ อย่างงานหนังนุ่นจะพิถีพิถันในการเลือกนิดนึง เราสามารถทำอะไรที่หลากหลายได้ ส่วนงานละครแล้วแต่ผู้ใหญ่ทางช่อง ถ้าเขาเห็นว่าเราเหมาะกับบทไหนเราก็เล่นเต็มที่ เพราะนุ่นมั่นใจว่าผู้ใหญ่ต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเราอยู่แล้ว

ที่ผ่านมาคนมักจะพูดว่า นุ่นเป็นนางเอก "ลูกเป็ดขี้เหร่"

          นุ่น : เอาจริงๆ นะ นุ่นไม่รู้สึกอะไรเลย แรกๆ ยอมรับว่าเสียใจ แต่บังเอิญคนมาวิจารณ์ตอนที่เรานิ่งๆ แล้ว ก็อยากจะบอกทุกคนว่าไม่มีใครหรอกที่ไม่อยากเกิดมาสวย หุ่นดี แต่ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกจะทำให้มันดีได้ เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกนุ่นแก้ไขไม่ได้จริงๆ นุ่นอยากจะบอกกับทุกคนว่า เราอาจจะไม่หล่อไม่สวย แต่เราก็สามารถเป็นนางเอกและพระเอกในชีวิตจริงของเราได้

แต่นุ่นก็มีงานละครต่อเนื่อง

          นุ่น : งานละครผู้ใหญ่ให้โอกาสค่ะ ถามว่าเบื่อมั้ยที่มีงานต่อเนื่อง นุ่นไม่เบื่อเลย มันเป็นแค่ระยะเวลาหนึ่งที่เรามีโอกาส เราก็ต้องเต็มที่กับงานตรงนี้ เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะให้งานเราไปถึงเมื่อไหร่ พยายามคิดตลอดว่าละครที่เราเล่นตรงนี้เป็นเรื่องสุดท้ายเสมอ ก็จะทำให้เต็มที่สุดๆ ไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้ไม่อยากเล่นเลย เดี๋ยวรอเรื่องหน้าดีกว่า เราจะทำให้ดีทุกครั้ง ไม่งั้นพอละครออนแอร์ไปแล้ว เราจะเรียกอะไรกลับคืนมาไม่ได้ หรืออย่างบางทีถ้าเราทำไม่ดี คนก็อาจจะไม่อยากจ้างเราต่อก็ได้

ทั้งๆ ที่มีงานต่อเนื่อง แต่ข่าวกลับน้อยลง

          นุ่น : ดีค่ะ ชอบมาก นุ่นรู้สึกเป็น 3 สเต็ปนะ แรกๆ ที่มีข่าวก็ตื่นเต้น อย่างตอนที่หนัง "เพื่อนสนิท" เข้าฉาย ไปไหนมาไหนคนก็เรียก "ดากานดา" ตอนนั้นเลยตื่นเต้น แต่พอช่วงที่มีข่าวลบๆ เข้ามา ก็เป็นช่วงที่เราต้องปรับตัวเยอะเลย แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่นุ่นโอเคมาก อยู่นิ่งๆ ไม่ใช่ว่าสภาพแวดล้อมนิ่งนะ แต่เรานิ่ง ข้างนอกเป็นยังไงเราไม่เต้นตาม ไม่ใช่แบบมีข่าวต้องไปตามไปแก้ เราแค่พยายามทำตัวเราให้ดีที่สุด

ในขณะ ที่บางคนพยายามสร้างข่าว แต่นุ่นกลับเลี่ยงที่จะเป็นข่าว

          นุ่น : เอาจริง ๆ เลยนะ นุ่นอยากให้คนรู้จักเราในฐานะนักแสดง พูดแบบนี้คนอาจจะมองว่าเราสร้างภาพ คำว่า "ดารา" กับ "นักแสดง" ก็เหมือนอาชีพเดียวกันแหละ แต่นุ่นมองว่าการเป็นนักแสดงมันเป็นทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องรู้สึกกับบท นุ่นรักการเป็นนักแสดง เวลาไปไหนนุ่นอยากให้คนรู้จักผลงานของเรา จริงอยู่นุ่นอาจจะไม่ใช่นักแสดงมีฝีมือ งานทุกงานนุ่นก็มีข้อผิดพลาดบ้าง แต่เราก็จะนำข้อผิดพลาดเหล่านั้นไปแก้ไขในเรื่องต่อๆ ไป นุ่นไม่อยากให้คนรู้จักเราเพราะข่าว จริงอยู่มันอาจจะดัง คนรู้จักเราเต็มไปหมด แต่นุ่นคงเสียใจและรู้สึกว่าเสียดายเวลาที่เราทุ่มเททำงานลงไป ในทางกลับกัน ถ้ามีคนกลุ่มเล็กๆ รู้จักเราในแง่ผลงาน รู้ว่าเราทำอะไรบ้าง ถึงจะเป็นแค่กลุ่มเล็กๆ แต่นุ่นก็มีความสุข

แต่ถ้านุ่นเป็นข่าวบ่อยๆ งานโชว์ตัวก็จะเยอะนะ

          นุ่น : นุ่นมีไอดอลเป็นพี่นก-สินจัย เวลาคนพูดถึงเขาคนก็จะนึกถึงผลงาน ภาพการเป็นนักแสดงเขาจะสูงมาก เราอาจจะไม่เก่งเท่าเขา แต่เราก็อยากให้คนมองเราแบบนั้น

เหมือนนุ่นแฮปปี้กับชีวิตตอนนี้

          นุ่น : ก็ดีนะ ความสุขสำหรับนุ่นก็คือ เราสามารถอยู่กับตัวเองและครอบครัวได้มากที่สุด จริงอยู่เราอาจจะพูดไม่ได้เต็มปากว่า เราชอบงานทุกชิ้นที่เราทำ แต่เราแค่พยายามทำงานทุกงานให้เต็มที่เท่านั้น ที่ผ่านมานุ่นเคยผ่านการสูญเสียคนในครอบครัว มันเป็นเหมือนจุดหักเหในชีวิตของนุ่น นุ่นเลยรู้สึกว่าไม่อยากจะมานั่งเสียใจ เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยได้อยู่ใกล้ๆ กับคนที่เรารักและคนที่รักเรา เมื่อก่อนนุ่นทำแต่งาน ไม่ค่อยมีเวลาให้พ่อกับแม่ แต่เดี๋ยวนี้พอเลิกงานปุ๊บก็จะรีบกลับมาอยู่กับแม่และพ่อ เพราะตอนนี้ครอบครัวย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน   แล้ว อยากให้เวลากับท่านเยอะที่สุด ไม่อยากรู้สึกว่าเราย้อนเวลาไม่ทันแล้ว ช่วงเวลานี้เป็นอะไรที่มีค่ามากที่สุด

ได้ตอบแทนอะไรพ่อแม่บ้าง

          นุ่น : นุ่นยังตอบแทนท่านได้ไม่เยอะเลย แต่พยายามทำให้ได้เยอะที่สุด เงินออกมาเท่าไหร่ก็ให้แม่เก็บหมด นุ่นเหมือนทุกคนได้เงินเดือนเท่าวุฒิปริญญาตรี นุ่นบอกกับแม่ตั้งแต่แรกแล้วว่า เงินทุกบาทให้ถือว่ามันไม่มี นุ่นมีรายได้จากเงินที่แม่ให้แต่ละเดือน แต่ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มก็ทำเรื่องเบิกเอา เพราะเราไม่สามารถทำอาชีพนี้ได้ตลอดชีวิต เราไม่อยากติดนิสัยฟุ่มเฟือย เนื่องจากต่อไปในอนาคตเราอาจต้องไปเป็นอาจารย์ พยายามวางตัวเองให้ชินกับความเป็นอยู่แบบธรรมดามากกว่า ก็มีนะบางทีที่รู้สึกอยากได้รถสวยๆ แพงๆ แต่พอกลับมาคิดอีกที มันสิ้นเปลืองนะ รถอะไรก็ขับถึงจุดหมายปลายทางได้เหมือนกัน เดี๋ยวนี้นุ่นก็ยังใช้รถเมล์ รถไฟฟ้า เพราะคนทั่วไป 95% เขาก็ใช้ชีวิตแบบนี้

มองเอาไว้บ้างหรือยังว่าอนาคตจะทำอะไร

          นุ่น : มีค่ะ แผนที่ใกล้ที่สุดก็คือปีหน้าจะเรียนต่อปริญญาโทด้านวิศวกรรมศาสตร์ แต่นุ่นก็ยังรักการแสดงนะ ก็จะทำตราบเท่าที่คนให้โอกาส จะทำสุดความสามารถ แต่เราก็ต้องมองความเป็นจริงว่า เราคงไม่สามารถทำงานตรงนี้ได้ตลอด ถึงเวลานั้นก็จะดูอีกทีว่าอยากทำอะไร

หลังจากที่ได้โอกาสจากสังคมมาเยอะแล้ว ตอนนี้ถ้ามีโอกาสอยากตอบแทนอะไรสังคมบ้าง

          นุ่น : อยากทำนะ จริงๆ ก็ได้วางแผนแล้ว คืออยากไปสอนหนังสือเด็กด้อยโอกาส เพราะก่อนหน้านี้มีครูท่านหนึ่งที่จังหวัดกาญจนบุรี เขียนจดหมายมาหานุ่นที่เว็บไซต์ของนุ่น ชวนขอรับบริจาคหนังสือ เพราะเขาเพิ่งทำห้องสมุด ถ้าใครอยากจะช่วยเหลือก็สามารถส่งหนังสือที่ไม่อ่านแล้วมาที่ "จีทีเอช" ก็ได้ แต่โดยส่วนตัวนุ่นก็อยากจะไปช่วยสอนหนังสือ เพราะนุ่นมีแรงกายแรงใจที่จะทำ หรือถ้ามีคนจัดทีมมา แล้วขอแรงให้นุ่นไปช่วย ถ้านุ่นมีเวลานุ่นไปแน่นอน

วกมาที่เรื่องหัวใจนิดนึง

          นุ่น : ความรักกับ ท็อป-พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร นุ่นก็อยากให้ดูเป็นปกติมากที่สุด ไม่ได้โฟกัสว่ามันจะเป็นยังไง เพราะเราต่างกันเหลือเกิน ดูภายนอกเหมือนจะไปกันได้ แต่ทัศนคติบางอย่างต่างกันเยอะ เราโตมาในสังคมคนละแบบ เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด มันก็ต้องมีช่วงเวลาทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ ไม่อยากให้มองว่าเป็นคู่รักคนดัง เพราะความรักของดารา คนมักจะมองอีกแบบ เราสองคนเป็นคนธรรมดาค่ะ เราก็มีช่วงเวลาที่ดีๆ ถ้ามันจะใช่ก็คือใช่ ก็คงดำเนินต่อไป แต่ถ้าไม่ใช่ก็ถือว่าเราเคยมีเวลาดีๆ ร่วมกัน

พูดเหมือนมีปัญหากัน

          นุ่น : ไม่ค่ะ เพียงแต่นุ่นมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ เรื่องนี้มันไม่ได้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต นุ่นโฟกัสกับเรื่องงานและครอบครัวมากกว่า ตอนนี้ก็แฮปปี้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เพียงแต่บางครั้งอาจผ่านถนนดินลูกรังหรือถนนลาดยางบ้าง มันก็ต้องแล้วแต่หนทาง เราก็ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

ทำไมความรักครั้งนี้นุ่นถึงได้กล้าเปิดเผยขึ้น

          นุ่น : คงเป็นเพราะเราโตขึ้น และมันก็ขึ้นอยู่ที่ว่าคนข้างๆ เราเขาเป็นคนแบบไหนมากกว่า นุ่นก็โตพอที่จะมีความรัก เหมือนคนอื่นๆ ที่วัยเท่านุ่นเขาก็คงมีกันไปแล้ว อีกอย่างคือนุ่นก็  นิ่งๆ แล้ว เลยมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ที่ผ่านมานุ่นไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้มากนัก เพราะนุ่นอยากให้มันเป็นเรื่องของคนสองคนมากกว่า

นุ่นประทับใจในตัวท็อปตรงไหน

          นุ่น : นุ่นอยู่กับเขานุ่นสบายใจ จริงๆ นุ่นชอบคนโรแมนติกนะ แต่เขาไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร อย่างที่บอกนุ่นไม่อยากคิดอะไรมาก เลยไม่คาดหวังอะไรมากนัก ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า เพราะนุ่นเองก็ไม่รู้ว่าอนาคตชีวิตของนุ่นจะเป็นอย่างไร ก็คงต้องรอดูกันไปเรื่อยๆ ค่ะ

          ถึงวันนี้เรื่องความรักของสาวนุ่นจะยังไม่แน่นอน เพราะตอนนี้เธอขอลุยงานก่อน ดังนั้นถ้าแฟนๆ รักเธอก็ต้องคอยติดตามผลงานของเธอกันนะจ๊ะ

          "เวลาไปไหนนุ่นอยากให้คนรู้จักผลงานของเรา... นุ่นไม่อยากให้คนรู้จักเราเพราะข่าว จริงอยู่มันอาจจะดัง คนรู้จักเราเต็มไปหมด แต่นุ่นคงเสียใจและรู้สึกว่าเสียดายเวลาที่เราทุ่มเททำงานลงไป"

เรื่อง : คนกลาง / ภาพ : สุรเชษฏ์ วัชรวิศิษฏ์


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นุ่น สาวสมถะ ขออยู่แบบพอเพียง โพสต์เมื่อ 17 สิงหาคม 2551 เวลา 12:04:50 19,007 อ่าน
TOP
x close