x close

ความรักนำทางเราไป...หมิว-ลลิตา ศศิประภา

หมิว ลลิตา


          เธอเป็นนางเอกน้ำดีที่ทุกวันนี้ไม่มีใครนึกถึงเธอในทางเสียหาย เธอสวย น่ารัก มีความคิด ไม่มีจริตจก้านให้ขัดหูขัดตา และวางตัวดีนับตั้งแต่เข้าวงการเมื่ออายุ 16 ปี จนบัดนี้ผ่านไป 20 ปีเต็ม ชีวิตปัจจุบันของ "หมิว-ลลิตา ศศิประภา" มีวงจรง่ายๆ นั่นคือได้ทำงาน ซึ่งยังคงเป็นงานในแวดวงละคร ภาพยนตร์ และงานถ่ายแบบ ส่วนที่เหลือ เธอเทให้กับชีวิตครอบครัวทั้งหมด โดยเฉพาะการดูแลลูกชายที่น่ารักทั้งสอง คือ "แพลงก์ต้อน" กับ "อีตั้น" ซึ่งกำเนิดมาจากคู่ชีวิตของเธอกับ "ก้อง-นรบดี ศศิประภา" วันนี้เราจะพาไปรู้จักเรื่องราวรักๆ ของเธอกันค่ะ...

รักครั้งแรก

          หมิว : นานมากๆ จำรายละเอียดไม่ได้แล้ว เพราะมันเป็นความรักกระจุ๋มกระจิ๋มแบบเด็กหนุ่มเด็กสาว น่าจะเป็นตอนมหาวิทยาลัยนะคะ ซึ่งก็แค่กุ๊กๆ กิ๊กๆ กันไปเรื่อยเปื่อย มาจริงจังเมื่อเจอ นรบดี (ศศิประภา) เขานี่แหละค่ะ (หัวเราะ) ตอนนั้นอายุ 29 ปี ซึ่งก็โอเคนะ (ยิ้มเขิน) เขาเป็นคนที่หมิวรู้สึกว่าน่าจะใช่นะคะ ซึ่ง...(นิ่งคิด) ก็ใช่มาถึงตอนนี้แหละ (หัวเราะ) ไม่มีเหตุอะไรแล้ว ไอ้เหตุกับผลตอนนี้มันไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่แล้ว เวลาเปลี่ยน ตัวเราเองก็ส่วนหนึ่งด้วย มันคือการเรียนรู้กันอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่เหมือนหนุ่มๆ สาวๆ หรือช่วงที่คนจีบกันเล่นๆ เพราะนี่คือชีวิตคู่ มันจึงต้องจริงจังและต้องปรับตัวกันทั้งคู่ ซึ่งหมิวว่ามันก็ดีไปอีกแบบหนึ่ง

เป็นเรื่องปกติใช่ไหม การปรับตัวในชีวิตคู่

          หมิว : หมิวว่ามันก็น่าจะเป็นอย่างนี้กันทุกคู่นะคะ เพียงแต่ว่าเมื่อลงไปในรายละเอียดของแต่ละคู่ มันก็จะต่างกันตรงที่แต่ละคนคงเปลี่ยนแปลงในระดับที่ไม่เท่ากัน ทุกคนจะเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงกันได้แค่ไหนเท่านั้นเอง

ลูกคนแรก

          หมิว : ตอนนี้เขา 7 ขวบแล้วค่ะ ฟันเพิ่งหลอซี่แรก เขาจะเป็นเด็กลุยๆ หน่อย ห้าวๆ ชอบเล่นกีฬา ชอบไปโรงเรียน ดี๊ดีนะคะ (หัวเราะ) มีลูกแล้วเขาชอบไปโรงเรียนนี่ แม่ชอบมากเลย (ยิ้ม)

จำความรู้สึกแรกตอนมีลูกได้ไหม

          หมิว : ดีใจค่ะ แต่มันก็ไม่เหมือนตอนที่เขาคลอดออกมาแล้ว แล้วก็โตขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกมันก็ผูกพันกันมากขึ้น เวลาที่เรามีอะไรให้กัน หรือได้ทำอะไรให้เขา หรือเขาทำอะไรเพื่อเรา อย่างตอนนี้เขาโตแล้ว เขาก็ทำอะไรให้เราได้บ้าง ทั้งๆ ที่เราไม่ได้คาดหวัง แต่บางทีเวลาที่ลูกบอกรักเรา หรือให้สัมผัสอะไรบางอย่างกับเรา เราก็ได้รู้ว่า อ๋อ...นี่เองนะ ความรู้สึกผูกพัน ความอบอุ่น

แวบแรกที่เห็นลูกตอนแรก

          หมิว : โห! นี่ลูกฉันเหรอ ทำไมถึงเหมือนลิงอย่างนี้ล่ะ (หัวเราะ) เขาจะตัวดำๆ ม่วงๆ แล้วนี่คือลูกฉันเหรอ ทำไมหน้าไม่เหมือนฉันเลย ทำไมเหมือนลิงอย่างนี้ ขนเต็มไปหมดเลย ดูสิดันมีความรู้สึกอย่างนั้นไป (หัวเราะ) ทำไมลูกหน้าตาอย่างนี้นะ ประหลาดจริงๆ แต่เด็กที่คลอดออกมาใหม่ๆ หน้าตาไม่เหมือนกันนะคะ อย่างอีตั้นออกมาปุ๊บเขาน่ารักเลย เห็นแล้วรู้สึกว่าเขาน่ารักจัง แต่แพลงก์ต้อนนี่ขนเขาเต็มหน้าผากเลย แล้วก็ตัวม่วงๆ

ฝ่ายพ่อล่ะ เขาเป็นอย่างไรบ้าง ตอนเห็นลูกครั้งแรก

          หมิว : ไม่รู้ค่ะ (ยิ้ม) ต้องถามเขา แต่ดูๆ อาการแล้วหมิวว่าเขาก็คงตื่นเต้นตกใจเหมือนกันนะ เพราะว่าการมีลูกครั้งแรกมันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นตกใจสำหรับทุกคนแหละ หมิวว่านะทุกคนคง อ๋อ...นี่เหรอลูกที่อยู่ในท้องมา 9 เดือน

เมื่อมีลูกแล้วก็ถือว่าความเป็นครอบครัวครบถ้วนบริบูรณ์ ตอนนั้นคุยกับก้อง-นรบดีว่าอย่างไรบ้าง

          หมิว : ไม่ได้คุยเลยค่ะ หมิวว่าทุกคนคงอยู่กันตามธรรมชาตินะ คงตั้งกฏกติกามารยาทกันไม่ได้ ขนาดตัวเราเองยังเปลี่ยนแปลงเลย คือตอนแรกๆ เรายังมีความเกรงใจในตัวเขา คิดว่านะคะ เพราะว่าเพิ่งมาอยู่ด้วยกันใหม่ๆ แต่พออยู่กันไปนานๆ เราก็เริ่มจะเป็นตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นตั้งกฏกันไว้ไม่ได้มากมายหรอก ต้องปรับกันทั้งคู่ อะไรที่อีกคนจะไม่พอใจ หรือทำแล้วเขาไม่มีความสุขเอามากๆ ก็คงไม่ทำ แล้วก็หวังว่าเขาก็คงไม่ทำอย่างนั้นกับเราเหมือนกัน ถ้าเขารักเรานะ ตรงนั้นมันน่าจะเป็นการกระทำที่แสดงความรักมากกว่าการที่จะมาตั้งกฏเกณฑ์ ว่าต้องทำอะไรบ้าง บางทีไม่พูดก็น่าจะรู้ได้เองว่าอย่างนี้ไม่ชอบนะ ไม่ต้องมานั่งแจงกันหรอกว่าอันนี้อะไร แต่เราก็ต้องรับเขาได้ด้วยเหมือนกันนะ 

          หมิว : บางทีเรื่องหยุมหยิมจุกจิกมากมายก็ต้องปล่อยไป ซึ่งผู้ชายเขาไม่ค่อยคิดมากอะไรกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้อยู่แล้ว แต่ผู้หญิงชอบคิดมากกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ตอนนี้แต่งกันมา 7 ปีแล้ว ก็เรียนรู้ว่าอย่าไปหยุมหยิมมาก เพราะถ้าไปหยุมหยิมมากมันจะเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งน่าปวดหัว เสียเวลา แทนที่จะได้อยู่กับเขา กับลูก มีความสุข ได้หัวเราะคิกคัก ก็ต้องปล่อยๆ ไปบ้าง แต่มันก็มีกติกาแบบรู้ๆ กันเองนะคะ ต้องรู้กันบ้างว่าแบบนี้ไม่น่ารักแล้วนะ ไม่ใช่แบบลั้ลลั้ลลา สบายเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่แล้ว เพราะตอนนี้เรามีครอบครัว เรามีลูก เอาลูกเป็นหลัก ลูกต้องมาที่หนึ่ง แต่ก็รับผิดชอบหน้าที่การงานของตัวเองด้วย และก็ช่วยกันเลี้ยงลูกช่วยกันสร้างครอบครัว

ชีวิตแต่งงาน 7 ปี ดูคล้ายกับต้องผจญอาถรรพ์ชีวิตคู่ไหม

          หมิว : อาถรรพ์ 7 ปี ชีวิตคู่จริงๆ บางคู่ไม่ถึง 7 ปี มีปัญหากันแล้วก็มี บางคน 3 ปี บางคน 5 ปี ถ้ามันจะเกิดมันก็เกิดได้

อะไรที่ผู้ชายทำได้บ้าง

          หมิว : ความเสมอต้นเสมอปลายไงคะ ไอ้ตอนที่มาจีบกันหรืออยากจะเป็นแฟนกันก็ทำทุกอย่างเต็มที่เลย แต่ผ่านไปสักพักยังทำอย่างนั้นอยู่ไหมล่ะ ก็ควรจะคิดให้ออกว่าเมื่อตอนนั้นเราได้ทำกับเขามาอย่างไร ก็ควรจะเสมอต้นเสมอปลายนะ

แล้วผู้ชายปัจจุบันล่ะกับผู้ชายในอดีตล่ะ

          หมิว : อูย...ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ ก็อยู่กับก้องคนเดียว ถ้าพูดถึงก้องล่ะก็ได้ (ยิ้ม) ก้องเขาก็มีความเป็นตัวของตัวเองนะคะ ซึ่งหมิวก็ว่าดีนะคะ ใครจะอยากอยู่ในแบบที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง การที่เขาปรับให้เรา เราก็ปรับให้เขาเหมือนกัน ต้องหาจุดสมดุลกันให้เจอ ไม่รู้สิ มันจะมีหรือคะ ผู้ชายในฝัน ที่ไม่มีปัญหาใดๆ เลย ไม่สร้างปัญหาอะไรเลย หรือแม้แต่ผู้หญิงที่เป็นนางฟ้าผู้นั้น เธอผู้ซึ่งดีเลิศ เลิศเลอเหลือเกิน แบบในนิยายสมัยก่อน ปัจจุบันไม่รู้ว่าจะมีหรือเปล่า ก็น่าจะมีปัญหากันบ้างแหละนะ แต่ก็ปรับๆ กันไป ชีวิตจริงมันคงต้องเป็นแบบนั้น มันไม่ใช่นิยาย


หมิว ลลิตา


คำว่าครอบครัวสำหรับหมิว มันหมายถึงอะไรบ้าง

          หมิว : ครอบครัวของหมิวตอนนี้คงต้องรวมถึงลูกด้วยแน่ๆ นะคะ มันเป็นก้อนที่โตมาก เวลาจะคิดอะไรสักอย่างจึงต้องคิดเยอะๆ เพราะมันไม่ใช่แต่เราตัวคนเดียว หรือแค่เรากับสามีเราเท่านั้น มันต้องมีเด็กเข้ามาเกี่ยวข้อง มีเขารวมอยู่ด้วยในความคิดต่างๆ ซึ่งมันก็อบอุ่นดีนะ เวลาเราคิดถึงกัน แต่ก็อย่าไป อู๊ย! ซีเรียส เครียดกับมันหมด  หมิวว่าทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ชีวิตส่วนตัว ชีวิตคู่ หรือการเลี้ยงลูก ทำให้มันพอดีๆ น่ะ มันจะสบาย ถ้าเราไปตั้งกฏหรือตั้งความหวังกับมันมากเกินไป มันก็เหนื่อยตัวเราเอง หรือถ้าหย่อนยานเกินไป ไม่รับผิดชอบอะไรเลย ก็ควรจะถามตัวเองว่าแล้วมีครอบครัวไปทำไม ทำไมไม่อยู่คนเดียว ทั้งหมดมันจึงต้องพอดีๆ ค่ะ

เป็นคนบ้างานไหม

          หมิว : เมื่อก่อนอาจจะใช่ ทำเยอะ เพราะเราอยู่คนเดียว แล้วก็เป็นคนที่สนุกกับงาน แต่ตอนนี้ความรู้สึกส่วนใหญ่ชอบอยู่กับลูกนะ อยากดูเขา แต่งานก็ทำ เพราะมันหน้าที่การงานของเรา เราก็ต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุด ในกรณีที่เรารับแล้ว แต่เวลาที่เสร็จงานแล้ว วันว่างหรือวันหยุด เราก็อยากจะอยู่กับครอบครัว ไม่ได้อยากไปไหน อยากอยู่กับลูก อยากไปส่งตอนเช้า อยากไปรับเขากลับจากโรงเรียน เพราะมันอีกไม่นานที่เขาจะอยากอยู่กับเรา อย่างแพลงก์ต้อนตอนนี้เขาก็ขึ้น ป.2 แล้ว หมิวว่าอีกไม่นานเขาก็คงจะเริ่มอยากอยู่กับเพื่อนแล้วล่ะ ช่วงนี้หมิวจึงมีความสุขที่จะได้อยู่กับลูก ชอบแอบมองว่าเวลาเขาอยู่กับเพื่อนเขาทำอะไร เขาเป็นยังไง แต่เขาฟันหลอเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา เราก็ขำกันอยู่ 2 อาทิตย์เต็มๆ คนอื่นเขาอาจจะไม่รู้สึกหรอก แต่ว่าเราเป็นแม่ไงคะ เวลาที่เขาเป็นอะไรก็ตาม เราก็จะรู้สึก เออ...ตลกดีนะ เด็กคนหนึ่งพอเห็นเพื่อนตัวเองฟันหลอ ก็พยายามที่จะโยกฟันตัวเองทุกวัน เอาหัวโขกรถ ทำเป็นอุบัติเหตุ แล้วก็บอกแม่ว่า "แม่...เนี่ยฟันกำลังจะหลุดแล้ว กำลังจะหลุดแล้ว" (หัวเราะ) หมิวยังบอกเขาเลยนะว่า "ลูกทำไมหนูจะต้องไปตามเขาด้วยล่ะ" 

          หมิว : แล้ววันหนึ่งที่ฟันหลุดไปจริง เขาก็เสียเซลฟ์ว่า "แม่...ฟันหลออ้ะ" แล้วจะให้ทำไง ก็ฟันมันหลุดไปแล้วน่ะ มันก็เลยตลกว่าพวกนี้นี่มักน็แปลกนะ บทอยากจะฟันหลุดก็ทำทุกอย่าง พอหลุดแล้วไปเจอคุณยาย คุณยายก็บอกว่า เฮ้ย! ฟันหลอ ไอ้หลานก็เสียความมั่นใจในตัวเองไป ซึ่งมันตกดีนะ เนี่ยค่ะเรื่องที่มันดูเหมือนเล็กๆ น้อยๆ แต่มันก็เป็นความสุข มันน่ารักดี เป็นดอกเบี้ยความสุขรายวัน

แล้วในอะไรเกี่ยวกับลูกไว้บ้าง

          หมิว : ไม่ได้ฝันอะไรเลยค่ะ (ยิ้ม) รอให้เขาฝันของเขาว่าเขาอยากจะเป็นอะไร หมิวเองแค่คาดหวังว่าลูกจะโตมาเป็นคนดี รับผิดชอบตัวเองได้เมื่อวันที่ไม่มีเรา เขาก็อยู่กันสองคนพี่น้องได้ เพราะเราคงไม่สามารถจะอยู่ดูแลเขาไปได้ตลอด มันก็คงจะแค่ช่วงต้นๆ นี้ไปจนถึงเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ อนาคตมันเป็นสิ่งไม่แน่ไม่นอน หมิวจึงหวังแค่ว่าเขาจะ
ดูแลตัวเองได้ แล้วก็รักกัน เป็นพี่น้องที่รักกันเท่านั้นน่ะ

หมิวเป็นลูกคนเดียว เห็นลูกสองคนอยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง

          หมิว : หมิวดีใจนะ ที่เราตัดสินใจมีลูกสองคน เพราะเห็นเขาเป็นเพื่อนกัน เล่นกันตลอดเวลา หมิวเองเล่นกับเด็กไม่เก่งเลย ตอนมีแพลงก์ต้อนนี่ชัดเลยว่าเราเล่นกับเขาตลอดเวลาไม่ได้ แต่พอแพลงก์ต้อนมีน้องคืออีตั้น เขาจะเล่นกันได้ตลอดเวลาเลย สนุกมีแต่เสียงหัวเราะ บางทีก็มีบ้างนะคะ เสียงร้องไห้ เพราะเด็กก็มีช่วงเวลาตีกัน แกล้งกัน แต่มันก็ยังดีกว่าเป็นลูกคนเดียว อย่างน้อยเขาก็มีพี่อน้องไว้เป็นเพื่อนกัน พอใครสักคนไม่อยู่ก็คิดถึงกัน น่ารักดีเวลาที่เห็นเขามีอาการแบบนี้


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ความรักนำทางเราไป...หมิว-ลลิตา ศศิประภา อัปเดตล่าสุด 4 กันยายน 2551 เวลา 18:54:41 9,486 อ่าน
TOP