x close

นฤทธิ์ คำธิศรี เกษตรกรผู้พิชิตความจน

นฤทธิ์ คำธิศรี

นฤทธิ์ คำธิศรี



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก 
- หนังสือพิมพ์แนวหน้า
- mcot.net
- panoramaworldwide.com


          ใครจะคิดว่า "ดินลูกรัง" ดินที่ถูกระบุว่าไม่มีค่าอินทรีย์วัตถุและไม่สามารถปลูกพืชได้ กลายมาเป็นพื้นที่ทำกินได้อย่างมหาศาล ด้วยความคิดของ "นฤทธิ์ คำธิศรี" เกษตรกรสายเลือดใหม่วัย 44 ปี ที่พลิกฟื้นดินลูกรังให้มีประโยชน์ 

          แต่กว่าที่เขาจะมาถึงวันนี้ต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคนานัปการ และเพราะอะไรจากที่เคยเป็นถึงผู้จัดการฟาร์มกุ้ง ได้รับเงินเดือนๆ ละเป็นแสน กลับหันหลังให้ความสะดวกสบายพร้อมมุ่งหน้าคืนสู่บ้านเกิด เพื่อเดินตามความฝันของตัวเอง คือการเป็น "เกษตรกร" อยากรู้คำตอบและรู้จักแนวความคิดของเขา ตามเข้ามาเลยค่ะ...

          นฤทธิ์ คำธิศรี ชาวอำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2506 พ่อแม่มีอาชีพทำนา และเขาก็มีความใฝ่ฝันว่าจะเจริญรอยตามอาชีพของพ่อแม่ แต่เพราะความเหนื่อยยากลำบากที่พ่อแม่ประสบพบเจอ พ่อแม่จึงขายนาส่งเสียให้เขาได้รับการศึกษาสูงๆ และคัดค้านความคิดที่จะมาเป็นเกษตรกรของเขา เขาจึงคว้าปริญญาตรีจากคณะประมง มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มาให้พ่อแม่ได้ภูมิใจ พร้อมกับทำงานเป็นนักวิจัยในระบบราชการ แต่ทำได้เพียง 6 เดือนก็ต้องลาออก เพราะไม่ชินกับระบบราชการ เลยหันไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฟาร์มกุ้ง ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง อีก 6 เดือนต่อมาก็ได้เป็นที่ผู้จัดการฟาร์มกุ้ง ที่ได้รับเงินเดือนบวกเบี้ยเลี้ยงราวๆ แสนกว่าบาท 

          ทุกครั้งที่มีโอกาสเขาจะกลับมาเยี่ยมบ้านปีละไม่กี่ครั้ง แต่ทุกครั้งที่กลับมาเขาจะทดลองปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ ไว้ในดินลูกรังที่หลายๆ คนมองข้ามทิ้งไว้เสมอ และจะกลับมาดูผลว่ามันตายหรือไม่ ซึ่งผลปรากฏว่าพืชพันธุ์ไม่ตาย แถมยังเจริญเติบโตงอกงามดี เขาจึงตัดสินใจทิ้งเงินเดือนนับแสนที่ได้รับ และหอบเอาเงินออมที่สะสมไว้สำหรับอาชีพที่ใฝ่ฝัน เดินทางกลับมาสร้างความฝันให้เป็นจริงที่แผ่นดินเกิด ท่ามกลางความสงสัยปนประหลาดใจของผู้คนที่รู้จักโดยเฉพาะพ่อ อีกทั้งยังมีคำสบประมาทอีกมากมาย เช่น บ้าหรือเปล่า คิดอะไรอยู่ มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกที่จะปลูกอะไรขึ้นในดินลูกรังเพราะต้นไม้ไม่โต ฯลฯ 

          แต่เขาก็ไม่ย่อท้อต่อคำพูดเหล่านั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าแผ่นดินเกิดเป็นดินลูกรังยากแก่การเพาะปลูก แต่เขาก็พยายามศึกษาข้อมูล ลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ จนมั่นใจและค้นพบกับวิธีที่จะปลูกต้นไม้ในดินลูกรังสำเร็จไม่เหมือนใคร ซึ่งเขาเรียกวิธีการที่ว่าว่า "ปลูกแบบเอ๊าะเจาะแอ๊ะแจ๊ะแต่ได้ผล" (ภาษาอีสาน) หรือแปลเป็นภาษากลางว่า "ปลูกแบบขี้เกียจๆ แต่ได้เงิน"



นฤทธิ์ คำธิศรี



          พื้นดินลูกรัง 35 ไร่ เป็นห้องทำงานที่เขาเข้าๆ ออกๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และทดลองปลูกต้นไม่นานาชนิดเพียงคนเดียว โดยปลูกแบบขุดหลุมปลูก และปลูกแบบธรรมดาให้เขาช่วยตัวเอง เริ่มจากการปลูกพืชระยะสั้นมาก ระยะสั้น ระยะยาว และระยะยาวมาก ไม่ว่าจะเป็น กล้วย ยางพารา ไม้สัก ไม้เต็ง เป็นต้น ส่วนวิธีการปลูกพืชคือปลูกพืชให้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เช่น ปลูกต้นกล้วย ปลูกต้นยางพารา ปลูกพริก ปลูกฟัก ในหลุมเดียวกัน ให้ต้นกล้วยจะช่วยบังแดดให้กับพืชด้านล่างที่ยังเล็กอยู่ เมื่อพืชอายุสั้นให้ผลผลิตตายไปก่อน แล้วยางพาราก็โตขึ้นมาแทน โดยในสวนนี้ไม่มีการกำจัดวัชพืช เพราะปล่อยให้หญ้ามันช่วยรักษาความชื้นให้กับไม้ใหญ่ จะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำ และไม่ต้องเปลืองแรงรดน้ำ

          "พืชที่นี่คนช่วยเหลือมันเพียง 20% อีก 80% ที่เหลือปล่อยให้มันหากินเอง ถ้าอยู่ไม่ได้ตายไปก็ปลูกใหม่ ที่นี่ไม่มีการจ้างคนงาน ใช้แต่แรงตัวเอง ปุ๋ยที่ใช้ก็ให้แต่ปุ๋ยคอก และให้แบบสดๆ เลย ไม่มีการเอาไปตากให้แห้งก่อน ประมาณว่ารับไม่ได้ก็ช่าง ตายซะ ปลูกใหม่ก็ได้" นฤทธิ์ เล่าถึงวิธีการปลูกพืช 

          นอกจากนี้ นฤทธิ์ ยังมีแนวคิด คือ ทำเกษตรจะไม่จน หากรู้จักวางแผน และการเกิดเป็นคนจะต้องมีความขยัน อดกลั้น อดทน เพื่อที่จะรอผลผลิต มีความซื่อสัตย์ และจงตระหนักไว้เลยว่างานหนักไม่เคยฆ่าคน และเกิดเป็นคนต้องรู้จักคิด รู้วางแผน เพราะการคิดการวางแผนจะนำไปสู่ความสำเร็จในอนาคตข้างหน้า

          และด้วยความคิดนอกกรอบ บวกกับเป็นคนขยัน จึงทำให้ นฤทธิ์ สามารถทำให้พื้นที่โล่งเตียนเป็นสวน เป็นป่าทึบที่ให้ผลผลิต และอากาศที่แสนบริสุทธิ์ เลี้ยงสัตว์หลายชนิด ได้แก่ วัวขุน วัวฝูง เป็ด ไก่ แพะ แกะ มีบ่อเลี้ยงปลา จำนวน 3 บ่อ และถ้ามีเวลาว่างเขาจะไปเป็นวิทยากรให้ความรู้กับชาวบ้านและนักเรียน นักศึกษา พร้อมทั้งประกาศว่า "เขาคือเกษตรกรผู้ไม่จน...และมีความสุขที่สุดคนหนึ่ง"

          เรียกได้ว่า "นฤทธิ์ คำธิศรี" ประสบความสำเร็จในชีวิตแบบที่เขาต้องการ คือไม่ต้องรวยเงินทอง เพราะการมีเงินมากๆ ไม่ได้หมายว่าจะทำให้เรามีความสุข ความสุขแท้จริงของชีวิตก็ คือ ความมีอิสระในด้านความคิดและการกระทำ และทำงานอย่างมีความสุข โดยมีคติประจำใจว่า เพิ่มผลผลิตแบบคนไต้หวัน ขยันแบบคนเกาหลี สู้ไม่หนีแบบคนอิสราเอล หนักแน่นในใจแบบญี่ปุ่น ทดแทนแผ่นดินเหมือนคนไทย



นฤทธิ์ คำธิศรี




  ประวัติของ นฤทธิ์ คำธิศรี 

          ชื่อ : นฤทธิ์ คำธิศรี
          
          วัน/เดือน/ปีเกิด : 1 มกราคม 2506

          ที่อยู่ : 85 ม.9 ต.โพธิไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร

          คู่สมรส : นางตุ้มคำ พยาบาลวิชาชีพ 7 หัวหน้าสถานีอนามัยโพธิไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ มีบุตร 2 คน

          การศึกษา : ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงจากวิทยาลัยเกษตรสุรินทร์ และปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สาขาประมง


  รางวัลที่ได้รับ

          - เกษตรกรผู้ประกอบอาชีพดีเด่น สาขาไร่นาสวนผสมในปี 2548 จากสำนักงานเกษตรจังหวัดสกลนคร

          - คนดีศรีเมืองสกลประจำปี 2547 จากจังหวัดสกลนคร

          - คนดีเมืองสกล เชิงประจักษ์ ประจำปี 2548 จากชมรมส่งเสริมคนดีเมืองสกล




 คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ 




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- yclsakhon.com
- modernine.mcot.net
- panoramaworldwide.com
- vegetweb.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นฤทธิ์ คำธิศรี เกษตรกรผู้พิชิตความจน อัปเดตล่าสุด 18 กันยายน 2551 เวลา 15:45:26 71,371 อ่าน
TOP