
เมื่อเวลา 17.45 น. วานนี้ (1 ตุลาคม) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ โดยใช้เวลาหารือประมาณ 50 นาที จนกระทั่งเวลา 18.35 น. นายกฯจึงกลับออกมา โดย พล.อ.เปรมได้เดินมาส่งขึ้นรถด้วยตัวเอง
จากนั้นนายกฯได้แวะไปรับประทานอาหารค่ำที่โรงแรมสยามซิตี้ โดยนายสมชายได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรมว่า "พล.อ.เปรมเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นแบบอย่างที่ดีในบ้านเมืองเรา ผมมีความเคารพ แต่รายละเอียดการเข้าพบคงพูดอะไรไม่ได้ เป็นเรื่องที่ท่านเมตตากับผม ให้คำแนะนำในสิ่งที่ดีต่อบ้านเมือง ซึ่งผมเห็นว่าในโอกาสที่เป็นนายกฯ ก็อยากจะดูแบบอย่างนายกรัฐมนตรีท่านก่อนๆ โดยเฉพาะส่วนที่ดีมีประโยชน์ต่อบ้านเมือง"
ถามว่า การเข้าพบ พล.อ.เปรมในครั้งนี้ จะทำให้วิกฤติของประเทศดีขึ้นหรือไม่?
นายสมชาย : เป็นเรื่องของประชาชนจะมองว่าดีขึ้นอย่างไร และเป็นหน้าที่ของผู้ปฏิบัติที่จะทำให้ดีขึ้น อย่างที่ได้เคยบอกไปว่า ก่อนขึ้นมาเป็นนายกฯ ได้เคยเป็นข้าราชการมาก่อน จึงยึดมั่นกระบวนการหลักกฎหมาย มาเป็นนายกฯตรงนี้เพื่อดูแลประชาชนที่ลำบากยากไร้ เราอยู่ตรงนี้มีความสบายมากกว่าพี่น้องประชาชน 63 ล้านคน ซึ่งรอให้เรายื่นมือลงไปช่วยเหลือให้พ้นจากความยากจน ลืมตาอ้าปากได้ อันนี้เป็นสิ่งที่ตั้งใจ
"ผมไม่ได้ตั้งใจมาเพื่อการเมือง หรือตั้งใจมาเล่นการเมือง หรือจะต้องดูแลแต่พรรคการเมือง เกมการเมือง ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นเท่าไหร่"
ปัญหาที่ พล.อ.เปรมแสดงความเป็นห่วงคือเรื่องอะไร?
นายสมชาย : ขออนุญาตไม่พูดในรายละเอียด
บรรยากาศการเข้าพบเป็นไปด้วยดีใช่หรือไม่?
นายสมชาย : ท่านก็ให้ความเมตตา
มีการสนทนากันด้วยภาษาคนใต้หรือไม่?
นายสมชาย : นายสมชายตอบเลี่ยงว่า ขอปิดเป็นความลับ
ได้คุยเรื่องการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่?
นายสมชาย : เข้าไปกราบคารวะท่าน ไม่ได้คุยเรื่องหนักๆอะไร
ได้คุยเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯด้วยหรือไม่?
นายสมชาย : นายกฯรีบเดินเลี่ยงเข้าไปทานอาหาร โดยไม่ยอมตอบคำถามแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหารือระหว่าง พล.อ.เปรมกับนายสมชายครั้งนี้ ได้พูดคุยใน 3 ประเด็นคือ 1. ปัญหาความแตกแยกของประชาชนในสังคม ที่แบ่งแยกเป็นสองฝ่าย 2. ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 3. การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งบรรยากาศในการหารือเป็นไปด้วยความชื่นมื่นและเป็นกันเอง โดย พล.อ.เปรมมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และอารมณ์ดีตลอดเวลาการพูดคุย






