การกลับมาอีกครั้งของนักดนตรีตัวจริง โก้ Mr.Saxman

โก้



          การกลับมาอีกครั้งของนักดนตรีตัวจริง KOH Mr.Saxman พร้อมอัลบั้ม THE SOUND OF SAXMAN ในค่ายใหม่ MELLOW TONE

          ถ้าจะพูดถึงนัก Saxophone อันดับต้นๆ ของเมืองไทย คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก KOH Mr.Saxman (โก้- เศกพล อุ่นสำราญ) เจ้าของเสียง Sax ที่หวานซึ้งบาดใจ และเจ้าของบทเพลงที่ติดอยู่ในใจของใครหลายๆ คน ซึ่งช่วงหลังๆ เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็น KOH Mr.Saxman ตามสื่อต่างๆ สักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครที่ได้มีโอกาสติดตามงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับดนตรี JAZZ หรืองานที่เป็นการรวมตัวของนักดนตรีระดับประเทศแล้วละก็ คงจะได้เห็นฝีไม้ลายมือของ KOH Mr.Saxman กันบ้าง และตอนนี้ KOH Mr.Saxman ได้กลับมาอีกครั้งบนเส้นทางดนตรีสายเดิม กับบ้านหลังใหม่ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) พร้อมกับบทบาทที่เพิ่มขึ้น นั่นก็คือเจ้าของค่ายเพลง

 ห่างหายไปกี่ปี กับถนนสายดนตรีสายนี้

          โก้ : จะเรียกว่าห่างหายไปเลยก็คงไม่ถูกครับ เพราะผมเองก็ยังมีการไปเล่นโชว์ตามงานต่างๆ อยู่บ้าง ออกทัวร์ต่างประเทศบ้าง แต่แค่ผมไม่ได้ออกสื่อเท่านั้นเอง ก็เหมือนกับเราออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้กับตนเอง ไปเก็บเรื่องราวดีๆ ก็เตรียมเอาไว้สำหรับทำอัลบั้มชุดใหม่นี้ด้วย

 ทราบมาว่าการกลับมาครั้งนี้ของ KOH Mr.Saxman ไม่ได้กลับมาในฐานะของนักร้องนักดนตรีเท่านั้น ยังกลับมาในนามผู้ดูแลค่ายเพลงด้วย

          โก้ : ใช่ครับ ผมกลับมาในฐานะของผู้ดูแลค่ายเพลง เหมือนกับเป็นคนดูแลพื้นที่เมืองใหม่ ซึ่งเป็นเมืองของดนตรี JAZZ นะครับ คือผมเป็นคนที่ชอบดนตรี JAZZ เรียกได้ว่าเป็นชีวิตเลยก็ว่าได้ คือผมกับพี่หนึ่ง ณัฐวุฒิ (ณัฐวุฒิ พันธุ์สายเชื้อ) Producer คู่ใจของผม เคยคิดเคยฝันไว้นานแล้วว่าอยากจะเปิดค่ายเพลง JAZZ เต็มรูปแบบของประเทศไทย ซึ่งเป็นค่ายที่รวบรวมเรื่องราวของดนตรี Jazz ไว้ทั้งหมด แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ทำสักที จนมากระทั่งได้มาพูดคุยกับพี่พู (สุทธิพงษ์ วัฒนจัง) ซึ่งพี่พูเนี่ยเป็นนักดนตรีคนนึงที่ผมชอบมากๆ เลยนะ และผมก็ได้เล่าความคิด ความฝันให้แกฟัง พี่พูแกก็บอกว่าดี เอาเลย ลองเสนอเข้ามาเลย ก็เป็นพี่ชมพูนี่แหละครับที่ให้โอกาสผมได้เปิดค่ายเพลง JAZZ เต็มรูปแบบของประเทศไทย ที่มีชื่อว่า Mellow Tone

 Mellow Tone มาจากอะไร

          โก้ : คำว่า Mellow แปลว่า ฟังแล้วสบายใจ ส่วน Tone ก็มาจากเสียง หรือโทนสี ดังนั้น Mellow Tone ก็หมายถึงเสียงเพลง หรือโทนสีที่ดูแล้วสบายใจ ฟังแล้วมีความสุข เอาง่ายๆ ผมเปรียบ Mellow Tone เหมือนเป็นเมืองๆ หนึ่ง ที่พอเข้าไปแล้วจะเจอแต่สีสันที่ดูแล้วสบายตา และมีเพลง Jazz, Pop Jazz, Smooth Jazz, Easy Listening ที่ฟังสบายๆ เปิดทั่วทั้งเมือง รับรองว่าใครที่ได้เข้ามาที่เมืองนี้แล้ว จะต้องติดใจอย่างแน่นอนครับกับ Mellow tone - Mellow town

 แล้วค่าย Mellow Tone มีความพิเศษอย่างไรบ้าง

          โก้ : ก็อย่างที่บอกครับ ผมฝันมานานแล้วว่าผมอยากเปิดค่ายเพลง JAZZ เต็มรูปแบบของประเทศไทย ดังนั้น ค่าย Mellow Tone ก็ต้องเป็นดนตรีแนว JAZZ อย่างแน่นอน แต่ไม่ได้มีเฉพาะแนว JAZZ เพียงอย่างเดียวนะ จุดเด่นของ Mellow Tone คือเราจะผลิตผลงาน JAZZ ทุกรูปแบบ ทั้ง JAZZ , POP JAZZ , FUSION JAZZ , SMOOTH JAZZ , POP R&B อย่าง BIG BAND ก็ทำนะ คือเราจะทำทุกๆ รูปแบบ และที่สำคัญนอกจากมีเพลง JAZZ แล้ว เมืองๆ นี้ก็ยังพรั่งพรูไปด้วยศิลปิน JAZZ มากมาย ซึ่งแต่ละคนที่มาร่วมในเมืองของเรานั้นก็เป็นนักดนตรีแถวหน้าของเมืองไทยทั้งนั้น

 นักดนตรีแถวหน้าของเมืองไทยที่เข้ามาร่วมในค่าย Mellow Tone มีใครบ้าง

          โก้ : เยอะแยะครับ เริ่มจากคนแรกเลยผมเนี่ยแหละ (หัวเราะ)... ล้อเล่นครับ คนแรกเลย พี่ป้อม ออโต้บาห์น (โชติชู พึ่งอุดม) ถ้าพูดถึงพี่ป้อมเนี่ย อย่างแรกเลยทุกคนต้องคิดถึงเสียงร้องหวานๆ ของพี่ป้อม ไม่ว่าจะเป็นเพลง "แด่เธอ" เพลง "ความรัก" และก็เพลงอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะนำมาทำในรูปแบบของเพลง JAZZ และถ้าพูดถึงฝีมือทางด้านดนตรีแล้ว ลีลาการเล่นเปียโนของพี่ป้อมก็เรียกได้ว่าหาตัวจับได้ยากเลยทีเดียว

          คนต่อไป คือ พี่จิ (จิรพรรณ อังศวานนท์) หนึ่งในคนดนตรีชั้นครูของเมืองไทย เป็นผู้สร้างตำนาน Butterfly ที่ยิ่งใหญ่จนถึงปัจจุบัน เป็นตำนานนักกีต้าร์ของเมืองไทย เป็นแม่แบบให้กับวงดนตรีรุ่นหลังอีกมากมาย หรืออย่างวง POMELO TOWN เป็นวงอาจารย์ของผมเอง ซึ่งแต่ละท่านก็เป็นอาจารย์สอนดนตรีอยู่ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นกลุ่มนักดนตรีที่ได้เรียกว่าสำคัญวงหนึ่งของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์โจ้, อาจารย์หลง, อาจารย์คม และอาจารย์วิลเลี่ยม ซึ่งเป็นกลุ่มดนตรีที่ผลิตดนตรี JAZZ ในแบบ Original อย่างแท้จริง และยังมีศิลปินอื่นๆ อีกมากมาย ต้องติดตามดูครับ รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

 แล้วผลงานแรกของค่าย Mellow Tone เป็นของใคร และจะได้ฟังเมื่อไหร่

          โก้ : อัลบั้มเปิดค่ายก็จะเป็นอัลบั้มของผมเอง ชื่อว่า The Sound of Saxman และก็ของพี่ป้อม ออโต้บาห์น ชื่ออัลบั้มว่า Drive You Lazy ครับ โดยอัลบั้มของโก้จะเป็นงาน Smooth Jazz ที่เป็นงานใหม่ทั้งหมด ส่วนของพี่ป้อมนั้นจะเป็นการนำเพลงของออโต้บาห์นที่อยู่ในความทรงจำมาทำในแบบ Mellow Arrange ที่ฟังแล้ว Mellow Lazy จริงๆ

 ห่างหายจากการทำอัลบั้มไปนาน รู้สึกอย่างไรบ้างที่มีโอกาสได้กลับมาทำอัลบั้มของตนเองอีกครั้ง

          โก้ : ก็ว่างเว้นจากการทำอัลบั้มไปประมาณ 2 ปี จำได้เลยวันแรกที่ได้เข้าห้องอัดมันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เหมือนเพิ่งเข้าห้องอัดเป็นครั้งแรก และยิ่งตอนที่ถ่าย MV ด้วยนะ ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ มันรู้สึกดีใจ เหมือนว่าเราได้กลับมาเป็นตัวของเราเองอีกครั้ง พูดง่ายๆ คือ อัลบั้มนี้มันคือผม ณ วินาทีนี้เลย และก็ดีใจมากๆ ด้วยที่ได้มีโอกาสกลับมาทำงานที่เรารัก ให้กับคนที่รักเราได้ฟัง มีกลุ่มคนฟังที่เหนียวแน่นของผมโพสใน website ว่าอยากฟังผลงานใหม่มานานแล้ว คราวนี้แหละได้ฟังกันเต็มอิ่มไปเลย


โก้



 ร้างเวทีไปนานอย่างนี้ ต้องเคาะสนิมเยอะไหม

          โก้ : ถามว่าเคาะสนิมไหม ก็คงไม่เท่าไหร่หรอกครับ เพราะผมเองก็ยังมีงานแสดงตามที่ต่างๆ อยู่บ้าง เอาเป็นว่าถามว่ากดดันไหมกับอัลบั้มนี้ดีกว่า ผมอยากจะบอกว่ากดดันมากๆ เพราะคนก็คาดหวังว่าการที่ผมกลับมาคราวนี้เนี่ย เพลงจะเป็นอย่างไร จะถูกใจไหม แต่ผมก็ทำสุดฝีมือนะ ก็หวังว่าคนฟังจะชอบกัน

 แล้วทำไมถึงเป็น The Sound of Saxman

          โก้ : The Sound of Saxman มันก็เหมือนเป็นเสียงที่ออกมาจากตัวผมเอง ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้อง เป็นเสียงที่อยากจะทำให้คนฟัง ฟังแล้วรู้สึกสบายใจ อิ่มเอมใจ อยากให้เสียงแซ็กโซโฟนของผมได้อยู่กับคนฟังตลอดเวลาทุกช่วงของอารมณ์ ไม่ว่าจะตั้งแต่ตื่นนอน ทำงาน อยู่กับครอบครัว เดินทางพักผ่อน สนุกสนานยามค่ำคืน ดินเนอร์แบบสุดโรแมนติค เสียงแซ็กโซโฟนของผม จะทำให้คนฟังได้เพลินจนต้องกลับมาฟังใหม่ตลอด

 ความพิเศษของอัลบั้มนี้มีอะไรบ้าง

          โก้ : ความพิเศษเหรอ อัลบั้มนี้เรียกได้ว่าเป็นการทำงานแบบข้ามประเทศเลย คืออัลบั้มนี้นอกจากจะมีพี่หนึ่งมาเป็น Producer ยังได้ Darren Rahn ซึ่งเป็น Producer มืออันดับต้นๆ ของโลก มาช่วยทำอัลบั้มนี้ให้ด้วย ซึ่งดนตรีทั้งหมดนั้นทำการบันทึกที่สหรัฐอเมริกา และคนที่มาเล่นดนตรีให้นั้นก็เป็น Top Musician ของอเมริกาด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าการทำงานอัลบั้มชุดนี้นั้นเหมือนทำงาน 2 ประเทศ ส่ง mail ตีกลับไปมาหลายรอบ ใช้เวลาหลายเดือน ทำงานกับแบบทั้งวันทั้งคืน แทบจะไม่ได้พักกันเลยกว่าอัลบั้มนี้จะสำเร็จได้

 อัลบั้มนี้ใช้เวลาทำนานเท่าไหร่

          โก้ : ถ้าเอาตั้งแต่การเตรียมงาน และการทำข้ามน้ำ ข้ามทะเลกับ Darren Rahn ก็กินเวลากว่าปีครึ่งแหละครับ ถึงจะได้งานคุณภาพขนาดนี้

 พูดถึงความพิเศษของดนตรีกันไปแล้ว แขกรับเชิญล่ะ อัลบั้มนี้มีความพิเศษอย่างไรบ้าง

          โก้ : อย่าเรียกว่าแขกรับเชิญเลยครับ เรียกว่าได้พี่น้องร่วมวงการ พี่น้องที่รักกันมากๆ มาช่วยสร้างสีสันในอัลบั้มนี้กันดีกว่า ซึ่งต้องมีแน่นอนครับ คนแรกเลยพี่สาวคนเก่งของผม พี่สาวที่ผมรักที่สุด พี่เจนนิเฟอร์ คิ้มก็ให้เกียรติมาร้องเพลงๆ นึงให้ ชื่อเพลง Just a Game ความรักก็เหมือนเพลงๆ นึง ก็เป็นเพลงช้าซึ้งๆ เนื้อหาดีๆ และยิ่งได้เสียงของพี่คิ้มมาถ่ายทอดด้วยแล้ว คิดว่าหลายๆ คนจะต้องชอบแน่ๆ

          อีกคนนึงก็เป็นเพื่อนของผมเอง คือผมอยากร่วมงานกับเขามานานแล้ว นั่นก็คือคุณบี พีระพัฒน์ ซึ่งอัลบั้มนี้ก็ได้มาร่วมถ่ายทอดในเพลง If you only ซึ่งเพลงนี้ Darren Rahn กับคุณหนึ่งเป็นคนแต่งให้ ซึ่งเป็นเพลงที่ผมชอบมากๆ และยังได้ Top Musician ชาวไทยและอเมริกันอีกหลายๆ คนมาร่วมสร้างสีสันในอัลบั้มนี้ด้วยครับ

 ตอนนี้กระแสเพลง"อย่างน้อย (ก็เคยรักกัน)" เป็นอย่างไรบ้าง

          โก้ : เสียงตอบรับก็ดีนะ เวลาไปไหนคนเขาก็จะบอกว่าชอบเพลงนะ เนื้อหาดี MV ก็สวย ก็อยากจะขอขอบคุณทุกๆ คนที่คอยติดตามผลงานของผม และคอยให้กำลังใจผม

 ฝากผลงานอัลบั้ม The Sound of Saxman

          โก้ : ก็อยากจะบอกว่า The Sound of Saxman เป็น Saxman ในปี 2008 ก็อยากจะฝากผลงานที่ทุ่มเทที่สุด รักที่สุด ไว้กับพี่ๆ น้องๆ ที่ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว ตอนนี้ KOH Mr.Saxman กลับมาแล้วนะครับ พร้อมกับค่าย Mellow Tone เมืองแห่งดนตรี JAZZ เมืองที่พร้อมจะต้อนรับทุกๆ คน อย่าลืมแวะมาเยี่ยมชมเมืองของเรานะครับ


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
 



เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
การกลับมาอีกครั้งของนักดนตรีตัวจริง โก้ Mr.Saxman อัปเดตล่าสุด 9 ตุลาคม 2551 เวลา 10:52:14 4,354 อ่าน
TOP
x close