
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด
เครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม ยกคณะเข้าพบหารือกับนายกฯ มอบเสื้อขาวสัญลักษณ์ของสันติและการยุติความรุนแรง เผยนายกฯ ตอบรับดี พร้อมร่วมเจรจากับทุกฝ่าย ด้านสมชายย้ำทางออกคือตั้ง สสร.3 แก้รัฐธรรมนูญ มั่นใจทักษิณโฟนอินไม่มีปัญหา
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ดอนเมืองว่า น.พ.วันชัย วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า และคณะ อาทิ นายเธียรชัย ณ นคร รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเมือง ในฐานะคณะทำงานเครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม นายธีระพงษ์ วัฒนวงษ์ภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วม สภาพัฒนาการเมือง นายศุภณัฐ เพิ่มพูนวิวัฒน์ กรรมการสถาบันสันติศึกษา เข้าพบนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลา โหม เพื่อหารือแนวทางการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งของบ้านเมือง และได้มอบเสื้อยืดสีขาวร่วมรณรงค์ยุติความรุนแรงให้นายกฯ ด้วย และก่อนแถลงข่าว นายกฯ ได้นำเสื้อยืดที่ได้รับมอบมาโชว์ให้กับผู้สื่อข่าว ช่างภาพได้เห็นและถ่ายภาพ ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ซึ่งผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบบางส่วน ก็ได้พากันสวมใส่เสื้อยืดสีขาว ที่มีข้อความว่า "ยุติความรุนแรง" เพื่อรณรงค์ให้ทุกฝ่ายช่วยกันยุติความรุนแรงด้วย
จากนั้น นายสมชาย แถลงว่า เครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม ได้เข้าพบและหารือ ซึ่งตนเคยบอกว่าให้การสนับสนุนแนวทางของเครือข่ายนี้ เพราะเป็นวิธีการหาทางออก ลดความขัดแย้งในบ้านเมือง มีอะไรหันหน้ามาพูดคุยกัน หาเหตุผลตกลงกันว่าควรเดินทางใดเพื่อส่วนรวม เพื่อประชาชนได้รับความสงบสุข ทำมาหากินโดยมีสมาธิ และสนับสนุนแนวทางของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ที่เห็นว่าการที่จะหารือกันเพื่อหันหน้าเข้าหากันเพื่อสันติสุขนั้น เป็นแนวทางที่ดี
นายสมชายกล่าวต่อว่า ตนกับเครือข่ายได้พูดคุยถึงทางออกของบ้านเมืองควรเป็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความเห็นกันหลายอย่าง ซึ่งแนวทางที่จะหารือกันคือเพื่อความปรองดองด้วยเหตุผลนั้นเป็นวิธีที่ดี ปัจจุบันประเทศไทยยึดระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเมื่อมีรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกคน รัฐบาลก็ยอมรับ แต่เมื่อวันหนึ่งมีกลุ่มคนหลายกลุ่มหลายคณะรู้สึกว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ เพราะควรพัฒนาการเมืองใหม่นั้น ตนได้กล่าวกับเครือข่ายฯว่า แนวทางของตนที่ทำอยู่ และคิดว่าเป็นทางออก คือเราต้องให้ประชาชนทั้งประเทศมีส่วนร่วมกันวินิจฉัยและตัดสินใจ ตนจึงสนับสนุนแนวทางการตั้งส.ส.ร. 3 ขึ้นมาพิจารณาปรับปรุง หากใครปรารถนาว่าจะดำเนินการไปอย่างไรก็แสดงความเห็นเข้ามา หรือไปรับเลือกเป็นตัวแทนของประชาชนเข้ามาดำเนินการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนนำไปทำประชาพิจารณ์ เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นว่าเอาหรือไม่ แต่ถ้าจะไม่ทำและเห็นว่ายุติตรงนี้ ต้องดูที่ร่างการแก้ไขและหากเป็นเช่นนั้น ถ้าประชาชนทั้งประเทศยอมรับได้รัฐบาลควรจะคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ
"ผมคิดว่าทุกคนวันนี้เราต้องยุติความรุนแรง อย่างที่เสื้อที่ได้รับแจกมานี้ เดี๋ยวกลับไปบ้านแล้วจะเปลี่ยนใส่ เพื่อไปเดินที่อื่น นี่เป็นวิถีทางที่ผมเห็นด้วยว่าเราควรอยู่กันด้วยความสงบและเคารพกฎหมาย หากส่วนใดคิดว่าไม่สงบและไม่เคารพกฎหมายนั้น ขอให้ปรับปรุง เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย" นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะที่เห็นด้วยกับแนวทางสานเสวนา แต่ยังมีเงื่อนไขอื่น เช่น การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ามานั้นจะนำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนได้เชิญผบ.ตร.และผบช.น.มากำชับแล้วว่าให้ดูแลสถานการณ์อย่าให้มีปัญหา เมื่อถามว่า นายกฯ มั่นใจใช่หรือไม่ว่าในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น นายสมชาย กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไร
ด้านน.พ.วันชัย วัฒนศัพท์ แกนนำกลุ่มสานเสวนาเพื่อสันติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับนายกฯว่า ไม่ได้มาเร่งรัด หรือให้คำแนะนำรัฐบาล แต่มาฟังว่ารัฐบาลมองปัญหาความขัดแย้งอย่างไร นายกฯ ตอบว่ารัฐบาลเตรียมพร้อมป้องกันความรุนแรงไว้แล้ว ปัญหาความขัดแย้งที่ถูกมองว่าถึงทางตันนั้น หากสามารถพูดคุยกับหลายฝ่ายได้จะเป็นเรื่องดี แต่อยากให้ใจเย็นๆ กระบวนการประสานให้ทุกฝ่ายหันมาพูดคุยต้องค่อยเป็นค่อยไป เดินไปช้าๆ แต่ได้ผล หากเร่งรีบเกินไปอาจไม่สำเร็จ ไม่ได้หวังให้เกิดผลแพ้ชนะของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่เพื่อหาทางออกให้ประเทศชาติ
เมื่อถามมีฝ่ายใดบ้างที่ตอบรับจะเข้าร่วมการเจรจาในครั้งนี้ น.พ.วันชัยกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสาน คงจะเกิดผลในทางบวก แต่ยังบอกไม่ได้ว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร จนกว่าจะมีการพูดคุย นายกฯ พร้อมเข้าร่วมเจรจากับทุกฝ่าย โดยระบุว่าถ้าไม่ติดภารกิจอื่นจะเข้าร่วมการเจรจาด้วยตัวเอง
เมื่อถามถึงกลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันว่าจะไม่เจรจาเพราะผ่านจุดพูดคุยกันแล้ว น.พ.วันชัยกล่าวว่า พยายามประสานกับพันธมิตรฯ อยู่ บอกว่าเป็นการขอฟังความเห็น หากพร้อมตอบก็ตอบ ไม่ได้บอกว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ เวทีนี้เปิดกว้าง พูดคุยภายใต้กรอบกติกาที่ร่วมกันหาทางออก ไม่ใช่ชี้หน้าด่าใคร







