กงลี่ เปลี่ยนสัญชาติ จีนน้อยใจรุมจวก ทรยศ

กงลี่

กงลี่


          ได้ชื่อว่าเป็นนางเอกหญิงแกร่งของจีนแผ่นดินใหญ่ เปี่ยมด้วยความมั่นใจ กงลี่ นักแสดงสาวฝีมือฉกาจวัย 43 กะรัต ตกเป็น "หัวข้อสนทนา" ทางอินเตอร์เน็ตจีนอย่างกว้างขวางอีกครั้ง เมื่อเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้าเป็นพลเมืองสัญชาติสิงคโปร์ เมื่อ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

          เหล่าผู้เล่นอินเตอร์เน็ตชาวจีนรุมประณาม ว่าเป็น "คนทรยศ" ที่เปลี่ยนสัญชาติ หลังจากมีกระแสข่าวนี้มานานร่วมปี จากการตรวจสอบกระทู้ต่างๆ ในเว็บไซต์ชุมชนออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของจีน อาทิ sina.com และ sohu.com เสียงส่วนใหญ่รุมประณามกงลี่ว่าไม่รักชาติ เป็นคนทรยศต่อแผ่นดินแม่ ไม่รักบ้านเกิด ขอสาปแช่งให้ไปตายในประเทศอื่น

          แต่ผู้ตอบกระทู้บางส่วนมองว่าไม่ควรไปด่าว่ากงลี่ แต่คนจีนควรหันกลับมาทบทวนตัวเองดูว่าทำไมชาวจีนอยากอพยพไปอยู่ที่อื่น หรือทำไมไม่มีคนอเมริกันอยากเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนจีน ส่วนสื่อมวลชนใหญ่ๆ เช่น สำนักข่าวซินหัว และไชน่า เดลี่ ยูธ ตีพิมพ์ข่าวและบทความที่เตือนสติชาวจีนไม่ให้รุมด่าว่ากงลี่

          ซินหัวตีพิมพ์ผลสำรวจของ Tencent.com ใช้กลุ่มตัวอย่าง 6,580 ราย พบว่า ร้อยละ 42.4 ตอบว่า เคารพต่อการตัดสินใจส่วนบุคคล ร้อยละ 30.3 ตอบว่า ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ขณะที่ร้อยละ 27.3 เห็นว่ากงลี่ทำอย่างนี้แสดงถึงความไม่รักชาติบ้านเกิด

          ก่อนหน้านี้กงลี่เป็นผลผลิตแห่งความภาคภูมิใจของชาวจีน ตั้งแต่ยุคที่รัฐบาลคอมมิวนิสต์ต่อต้าน จางอี้โหมว ผู้กำกับภาพยนตร์คนดังที่สร้างผลงานสะท้านสะเทือนรัฐบาลในตอนนั้น โดยมีกงลี่เป็นนางเอกคู่บุญ ทั้งในด้านการงานและชีวิตส่วนตัว

          ผลงานเรื่อง Ju Dou ปี 2533 และ Raise the Red Lantern ปี 2534 ที่ถูกห้ามฉายในจีนตอนนั้น สร้างความฮือฮาให้กับวงการภาพ ยนตร์โลก เช่นเดียวกับเรื่อง Farewell My Concubine ของผู้กำกับฯ เฉิน ข่ายเก๋อ เพื่อนร่วมรุ่นของจางอี้โหมว ที่ประกาศศักดาคว้ารางวัลปาล์มทองคำในงานเทศกาลภาพ ยนตร์เมืองคานส์

          ชื่อเสียงของจางอี้โหมว เฉินข่ายเก๋อ และกงลี่ ทำให้ชาวจีนภาคภูมิใจอยู่ลึกๆ กระทั่งต่อมา เมื่อจีนเปิดประเทศ ก้าวเข้าสู่ตลาดเสรีทุน นิยม จางอี้โหมวและกงลี่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีน ทั้งสองต่างได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกที่ปรึกษาประชาชนของรัฐสภาจีน

          ต้นปี 2544 กงลี่เป็นนักแสดงหญิงเพียงคนเดียวที่ได้รับเลือกจากรัฐบาลจีนให้เป็นตัวแทนแสดงภาพลักษณ์ของโอลิมปิกเกมส์ โดยร่วมเดินทางไปกับคณะกรรมการโอลิมปิกจีน ผลักดันให้จีนเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ได้เป็นผลสำเร็จ

          ในด้านชีวิตส่วนตัวกงลี่แต่งงานกับ อุ้ย เฮ่อเซียง เศรษฐีธุรกิจยาสูบสิงคโปร์ เมื่อปี 2539 หลังจากคบหากันได้เพียงปีกว่าๆ หลังกงลี่ยุติความสัมพันธ์กับจางอี้โหมวที่คบกันนาน 8 ปี

          จากนั้นกงลี่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในต่างแดน โดยเฉพาะระยะหลังๆ ไปแจ้งเกิดในอุตสาหกรรมภาพ ยนตร์ฮอลลีวู้ด ร่วมแสดงในหนังตลาด เช่น Memoirs of a Geisha, Hannibal Rising และ Miami Vice

          ขณะเดียวกันมีผลงานภาพยนตร์จีนเป็นระยะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนังที่ขายตลาดเมืองนอกได้ด้วย เช่น 2046 ผลงานของ หว่อง กาไว รวมถึง Curse of the Golden Flower (ศึกชิงบัลลังก์วังทอง) ที่หวนกลับมาร่วมงานกับจางอี้โหมวอีกครั้ง

          นอกจากนี้ กงลี่ยังมีบทบาทในวงการภาพ ยนตร์โลก เคยเป็นคณะกรรมการตัดสินรางวัลภาพยนตร์งานใหญ่ๆ เช่น ที่เมืองคานส์ และที่เวนิซ

          ความสามารถดังกล่าวทำให้ชาวจีนชื่นชมและภูมิใจ กระทั่งเมื่อกงลี่เปลี่ยนสัญชาติเป็นชาวสิงคโปร์ตามสามี จึงถูกรุมประณามอย่างกว้างขวาง ประหนึ่งว่า "รักมากจึงแค้นมาก" นั่นเอง



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กงลี่ เปลี่ยนสัญชาติ จีนน้อยใจรุมจวก ทรยศ อัปเดตล่าสุด 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา 14:28:31 64,848 อ่าน
TOP
x close