กะเทยคิดตัดไข่ ผลดีหรือร้ายไม่ควรมองข้าม!!








         "หลังตัดไข่ออกเหลือแต่จุ๊มุ รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้นเป็นกองค่ะ" กะเทยที่อ้างว่าเพิ่งตัดไข่ออก โพสต์บนเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งเล่าความรู้สึกหลังผ่าตัดเอาลูกอัณฑะออกเหลือเพียงองคชาต นี่อาจเป็นวิทยาการล่าสุดที่บรรดา  "ดอกไม้พลาสติก" นิยมทำกันปัจจุบันเนื่องจากราคาถูกและแผลรักษาง่าย ขณะเดียวกันก็มีความเชื่อว่าเมื่อทำแล้วผิวพรรณจะเปล่งปลั่งจาก "กะเทยควาย" รูปร่างหนาทึบก็กลับกลายมีหุ่นสะโอดสะองขึ้น แต่ความเชื่อเหล่านี้ยังไม่มีผลวิจัยทางการแพทย์ยืนยัน 

         ล่าสุดแพทยสภาเตรียมออกกฎเกณฑ์ให้ผู้ที่มีอายุ 20 ปี สามารถตัดไข่ได้ ส่วนอายุต่ำกว่านั้นต้องมีผู้ปกครองเซ็นยินยอม 

         "ตัดไข่ต่างจากแปลงเพศ อย่างไร?" นี่เป็นอีกคำถามที่สังคมอยากรู้ ซึ่ง บอย (นามสมมุติ) วัย 23 ปี ผู้เคยผ่านมีดหมอมาตั้งแต่อายุ 20 ปี ด้วยเงิน 5,000 บาท เล่าว่า การแปลงเพศต้องตัดเอาอวัยวะเพศชายออกทั้งหมด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ด้านแผลที่ผ่าตัดก็ใช้ระยะเวลานานกว่าจะหายเป็นปกติ ต่างจากการ "ตัดไข่" ที่หมอจะผ่าตัดเอาลูกอัณฑะออกเพียงอย่างเดียวโดยองคชาตยังอยู่เหมือนเดิม ซึ่งพอผ่าตัดออกแล้วรู้สึกว่าถุงอัณฑะแฟบลงทำให้มีความมั่นใจขึ้นที่จะแต่งตัวเป็นผู้หญิง

         "ก่อนหน้านี้ อายุ 18 ปี เคยไปปรึกษาหมอเพื่อขอตัดไข่แต่ได้รับการปฏิเสธทำให้ต้องรออายุครบ 20 ก่อนถึงตัดได้ เรามีความรู้สึกชอบแต่งตัว แต่งหน้าแบบผู้หญิงมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งแรงจูงใจที่ทำให้ตัดสินใจเข้าพบแพทย์เพราะเห็นพวกพี่ๆ ที่ไปตัดมามีผิวพรรณดีขึ้น รูปร่างดี เราเองก็ใฝ่ฝันอยากเป็นเช่นนั้น" บอย เสริม 

         บอย ยอมรับว่า ตอนแรกที่ไปทำรู้สึกกลัวเพราะที่ผ่านมายังไม่มีผลวิจัยแน่นอนว่า ผู้ที่ตัดไข่จะมีโรคแทรกซ้อนใดๆ หรือไม่ แต่ก็มีหลายคนเตือนว่า อาจทำให้ความจำไม่ดีหรือมีโรคต่างๆ เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของร่างกาย ขณะเดียวกันก็อาจจะเหนื่อยง่าย ซึ่งหลังจากตัดไข่แล้วจนวันนี้โรคเหล่านี้ยังไม่มีปรากฏ 

         แต่เดิม บอย มีรูปร่างสูงใหญ่หลังจากผ่าตัดแล้วมีความรู้สึกว่า ตัวเล็กลงเห็นได้จากแต่ก่อนมีกล้ามแขนเดี๋ยวนี้หายไปหมดแล้ว ส่วนผิวหน้าก็เรียบเนียนขึ้น ตอนนี้ต้องกินยาคุมกำเนิดเพื่อสร้างฮอร์โมนเพศหญิงขึ้นมาแทนเพศชาย เนื่องจากได้ตัดลูกอัณฑะที่เป็นตัวสร้างฮอร์โมนแล้ว ตอนนี้คลินิกด้านศัลยกรรมรับตัดไข่มีราคาตั้งแต่ 5,000- 10,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนทำงานแล้วบางคนยังเรียนอยู่ก็สามารถเก็บเงินเพื่อมาทำได้ 

         "ครอบครัว มีแม่รู้คนเดียวว่าเราตัดไข่เพิ่งมารู้ภายหลังจากตัดไปแล้ว ส่วนพ่อตอนนี้ก็ยังไม่รู้ เนื่องจากเราไม่อยากบอกให้เขาเสียใจ เพราะตัดไปแล้วก็หมายความว่าไม่สามารถมีลูกได้ ขณะเดียวกันก็เตือนน้องๆ หลายคนว่าต้องคิดให้ดีเสียก่อนที่จะทำเนื่องจากตัดไปแล้วไม่สามารถเอาคืนมาได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีใจรักจะเป็นกะเทยจริงๆ" บอยย้ำ  

         บอยเล่าถึงอนาคตว่า อยากแปลงเพศให้เหมือนผู้หญิง โดยคาดว่าอาจต้องใช้เงินมากกว่าปกติเพราะคนที่ตัดไข่เนื้อตรงอวัยวะเพศจะเสียรูปไปแล้ว สำหรับสังคมและผู้ปกครองที่ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนควรให้โอกาสเขาคิดตรึกตรอง ให้แน่ใจเสียก่อน ลองหาเหตุผลข้อดี และข้อเสียขึ้นมาเปรียบเทียบว่าอันไหนมีมากกว่ากันในความคิดของเด็ก 

         ด้าน กิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทยและทนายความ เห็นด้วยกับแนวทางของแพทยสภา เนื่องจากคนที่เป็นกะเทยที่อยากแต่งกายเป็นผู้หญิงและไม่มีความพึงพอใจกับอวัยวะเพศที่ตัวเองมี ถือได้ว่าเป็นโรคจิตใจไม่สัมพันธ์กับร่างกาย ซึ่งแพทย์ควรให้การรักษาหากบุคคลนั้นได้ผ่านการประเมินจากนักจิตวิทยาแล้ว 

         ที่ผ่านมาหลายคนกลัวว่าเด็กที่อายุยังไม่ถึงวุฒิภาวะจะมาตัดไข่ แต่หากมีการออกกฎให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี สามารถผ่าตัดได้หากมีพ่อแม่ยินยอมก็จะเป็นที่ยอมรับของสังคม ขณะเดียวกันแพทย์เองก็ควรมีความเข้มงวดโดยต้องวิเคราะห์ด้านสภาพจิต อย่างละเอียดใช้เวลาหลายเดือนเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กมีความต้องการจะตัดไข่จริงๆ 

         "การตัดไข่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนนั้นก้าวไปสู่การแปลงเพศจริงๆ เนื่องจากคนนั้นอาจจะยังไม่พร้อมในด้านเงิน หรืออาชีพการงาน ดังนั้นเมื่อเขาได้ลองใช้ชีวิตโดยไม่มีหนวดเคราหรือฮอร์โมนเพศชายก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี จึงอยากแนะนำพ่อ แม่ที่ลูกกำลังจะตัดไข่ให้เขาคิดทบทวนหลายๆ รอบว่าสิ่งนี้ต้องการหรือไม่หากทบทวนแล้ว อยากตัดออกจริงๆ ก็ควรให้แพทย์ด้านจิตวิทยาตรวจอย่างละเอียดอีกรอบเพื่อความแน่ใจ" สำหรับปัญหาที่หลายคนกลัวจะเกิดโรคแทรกซ้อนขึ้น กิตตินันท์ มองว่า การแปลงเพศก็ต้องตัดไข่ทำไมจะตัดไข่ออกก่อนไม่ได้ ขณะเดียวกันก็ต้องกินฮอร์โมนเพศหญิงแทนอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้แพทยสภาควรมีการวิจัยถึงโรคที่อาจเกิดขึ้นเพื่อหาทางแก้ไขร่วมกัน

         ส่วน รศ.นพ.ศิรชัย จินดารักษ์ หน่วยศัลยกรรมศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้าง ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ ให้ความเห็นว่า การแพทย์อนุญาตให้หมอตัดลูกอัณฑะของคนไข้ได้หากมีข้อบ่งชี้ว่าจำเป็นจริงๆ ส่วนการตัดเพื่อจะให้ผิวสวยหรือรูปร่างเป็นผู้หญิงโดยไม่มีข้อบ่งชี้อาจทำให้คนไข้ได้รับผลกระทบด้านร่างกายได้ในอนาคต 

         หากมองว่าการตัดไข่เป็นบันไดขั้นแรกนำไปสู่การแปลงเพศตนมองว่า จะไม่เป็นผลดีต่อการผ่าตัดแปลงเพศในอนาคต เนื่องจากตัดไปไม่ถึงอาทิตย์หนังบริเวณถุงอัณฑะก็จะหดตัวลง เมื่อแปลงเพศหมอจะมีความยากลำบากมากในการทำ ขณะเดียวกันเมื่อทำเสร็จก็อาจไม่มีความเป็นธรรมชาติ วิธีการแก้ไขคือ แพทย์ต้องนำหนังส่วนอื่นของร่างกายคนไข้มาตัดแต่งส่วนที่เป็นอวัยวะเพศ ซึ่งจะทำให้ผิวหนังส่วนที่นำมาปะเป็นแผลเป็น

         "การตัดไข่ออกจะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกายทำให้คนนั้นมีโครงสร้างร่างกายเล็กลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่วนมากเด็กมักได้รับการบอกต่อจากรุ่นพี่ที่เคยทำแล้วว่ามีรูปร่างเล็กลง แต่หากทำกับเด็กที่มีอายุน้อยอาจทำให้ร่างกายไม่เจริญเติบโต ซึ่งคนที่จะทำควรคิดให้ถี่ถ้วนเสียก่อน" รศ.นพ.ศิรชัย กล่าว  

         หลายคนมองว่าการกินฮอร์โมนทดแทนทำให้มีความเป็นผู้หญิงมากขึ้น แท้จริงแล้วทุกอย่างมีทั้งข้อดีและเสียเพราะเมื่อกินยาเหล่านี้ไปนานๆ อาจเป็นโทษต่อร่างกายได้ จึงอยากฝากถึงผู้ที่กำลังจะไปตัดว่าควรวิเคราะห์ข้อดีและเสียให้ดีเสียก่อน 

         แม้วันนี้ประเด็นการตัดไข่ของพวกเธอเหล่านี้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน แต่เชื่อว่าหากหน่วยงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาให้ความรู้ย่อมมีทางออกได้ในอนาคต




ขอขอบคณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กะเทยคิดตัดไข่ ผลดีหรือร้ายไม่ควรมองข้าม!! อัปเดตล่าสุด 27 มกราคม 2552 เวลา 14:48:10 52,693 อ่าน
TOP
x close