
แกะรอยเสื้อทีมฟุตบอล ชิงทรัพย์...ปล้นสวาทจนมุม (คมชัดลึก)
"ผมคิดเสมอว่า สักวันผมต้องโดนจับ ผมสงสารแต่ลูก ตอนนี้คงไม่มีใครหาเงินเลี้ยงครอบครัวอีกแล้ว" นันทศักดิ์ ศรีคำม้วน หรือ กว้าง วัย 25 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ และบังคับพนักงานสาวอมนกเขา รับสารภาพ หลังหลบหนีคดีอยู่นานถึง 2 ปี แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ถูกตำรวจจับกุมจนได้
. . . 6 โมงเย็น วันที่ 1 มีนาคม 2550 หลังจากเลิกงานที่โรงงานสบู่ย่านพระประแดง จ.สมุทรปราการ กว้างในชุดเสื้อนักฟุตบอลกางเกงขาสั้น ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านในละแวกใกล้เคียง โดยมีปืนอัดลมติดตัวไปด้วย ระหว่างนั้นเพื่อนโทรศัพท์ชักชวนดื่มสุรา กระทั่ง 4 ทุ่มเศษ เขาเริ่มเมาจึงกลับออกมาขี่รถจักรยานยนต์ไปเรื่อยๆ ผ่านปั๊มน้ำมันเอสโซ่ เลขที่ 199/5 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ จึงเลี้ยวรถเข้าไปตั้งใจจะซื้อบุหรี่ในร้านสะดวกซื้อในปั๊ม
"กว้าง" ตรงเข้าไปในร้านไทเกอร์มาร์ทราวๆ ตีสองครึ่ง เห็นพนักงานสาววัย 22 ปี ยืนนับเงินอยู่หลังเคาน์เตอร์ จึงชักปืนอัดลมออกมาขู่ แล้วฉวยเอาเงินในลิ้นชักไป 800 บาท รวมทั้งเงินส่วนตัวของพนักงานสาวเคราะห์ร้ายอีก 60 บาท แทนที่เรื่องจะจบเพียงแค่นั้น ไม่รู้ว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่ เขาใช้ปืนลมจี้หญิงสาวตรงไปห้องน้ำหลังร้าน บังคับให้ถอดเสื้อชั้นในออกมามัดมือไพล่หลัง แล้วจึงบังคับให้อมนกเขา จนสำเร็จความใคร่แล้วหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุตำรวจ สน.พระโขนง และชุดสืบสวน กก.สส.น.5 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและดูภาพวงจรปิดของร้าน จนเห็นแผนประทุษกรรมของคนร้ายชัดเจน โดยหลักฐานสำคัญ คือ เสื้อฟุตบอลสีน้ำเงิน เบอร์ 21 ของทีมเทศบาลเมืองพระประแดง จ.สมุทรปราการ ชุดสืบสวนจึงไปตรวจสอบ และพบว่ามีอดีตนักฟุตบอลคนหนึ่งนำเสื้อตัวดังกล่าวไปให้น้องชายใส่
เมื่อได้ชื่อเจ้าของเสื้อและน้องชายแล้ว ชุดสืบสวนจึงตรวจสอบกับสำนักทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง กระทั่งทราบชื่อผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุคือ "นันทศักดิ์ ศรีคำม้วน" วัย 25 ปี การติดตามจับกุมตัวเริ่มต้นขึ้นที่บ้านพัก แต่ไม่เป็นผล ชุดสืบสวนไม่ได้ข่าวความเคลื่อนไหวใดๆ อยู่นานนับปี ยกเว้นเบาะแสเดียวคือกว้างมีเมียอยู่ 1 คน แต่ไม่รู้ชื่อและนามสกุลจริง จึงยากต่อการติดตาม
ขณะที่ ตำรวจกำลังควานหาตัวชายหนุ่มเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรอยู่นั้น กว้างได้หลบหนีไปอยู่กับญาติ ที่ จ.ระยอง แต่ก็อยู่ได้ระยะหนึ่งเท่านั้นก็ต้องระเห็จไปอยู่ที่ภูเก็ต ทำงานรับจ้างขายซีดีและคนเก็บเงินตามตลาดสด ชีวิตที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เต็มไปด้วยความหวาดระแวงแทบไม่มีความสุขเลย สุดท้ายกว้างก็ต้องออกเดินทางอีกครั้ง และการเดินทางครั้งนี้เป็นการกลับบ้านมาหาเมียและลูกที่เพิ่งคลอด ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นจุดจบของเรื่องราวทั้งหมดที่เขาได้ก่อขึ้น
ต้นปี 2552 หลังหลบหนีการจับกุมอยู่นาน 2 ปี กว้างได้ข่าวว่าเมียที่ตั้งท้องใกล้ครบกำหนดคลอดเต็มทน เขาจึงจากภูเก็ตมุ่งหน้าสู่ จ.ขอนแก่น กระทั่งวันที่ 14 มกราคม เด็กชายคนหนึ่งก็ถือกำเนิดมาในโลกใบนี้ โดยมีพ่อชื่อ "นันทศักดิ์ ศรีคำม้วน" ซึ่งปรากฏอยู่ในสูติบัตรชัดเจนจนไปปรากฏอยู่ในข้อมูลคอมพิวเตอร์ระบบ "polis" ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั่นเพียงพอให้ชุดสืบสวนของ พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.5 ไหวตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ โกษะโยธิน สว.สส. ร.ต.ท.บริบูรณ์ เติมประยูร รอง สว.สส. ด.ต.นพดล จำปีแขก ด.ต.สมภพ เขมะกนก ด.ต.เอก ภูริพันธ์ จ.ส.ต.พงษ์ชนก ทุ่งโพธิ์ และ จ.ส.ต.แดน เหมือนดี ซึ่งเป็นชุดสืบสวนที่ได้รับมอบหมายให้ทำคดีนี้มาตั้งแต่ต้น เดินทางไปที่ขอนแก่นทันที พวกเขาได้พบกับทารกน้อย พร้อมกับข้อมูลของนันทศักดิ์ผู้เป็นพ่อว่า มาทำงานรับจ้างอยู่ที่ขอนแก่นได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ล่าสุดได้ไปรับจ้างตัดอ้อยที่ จ.กำแพงเพชร มีรายได้ตกสัปดาห์ละกว่า 4,000 บาท ชุดสืบสวนจึงเดินทางไปจับกุมตัวได้ที่สวนอ้อย บ้านโนนใหญ่ ต.หนองทอง อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร
"ผมทำไปไม่รู้ตัว ผมเมา" นันทศักดิ์ สารภาพเสียงอ่อยอย่างคนสำนึกผิด
"ผมอยากบอกเมียว่า ระหว่างที่ผมติดคุกให้เขาดูแลลูกดีๆ เลี้ยงลูกดีๆ อย่าให้ลูกเป็นเหมือนผม ผมไม่ใช่คนดีมาก่อน ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะกลับตัวกลับใจแล้ว สิ่งที่ผมทำลงไปมันผิด แต่ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมเมาเหล้าจริงๆ ผมต้องขอโทษจริงๆ ครับ"
"ผมคงคิดถึงลูกมาก !?!"
นั่นคือคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายของ "นันทศักดิ์" ก่อนจะถูกดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธปืน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และอนาจารผู้อื่น






