ประมวลศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เฉลิม - อภิสิทธิ์

อภิปรายไม่ไว้วางใจ

เฉลิม อยู่บำรุง

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ


ประมวลศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เฉลิม - อภิสิทธิ์ (ข่าวสด)

          เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประเดิมกล่าวในการประชุมสภาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเวลา 3 ชั่วโมง นับจากเวลา 09.30 น. โดยไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นรายแรก  กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อรมว.การต่างประเทศ ทั้งที่มีผลการการสอบสวนของ สภ.ราชาเทวะ ว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ตกเป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายสากล  จากกรณีเหตุการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ แต่นายกฯ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินคดี แถมยังให้เข้าร่วมรัฐมนตรีและร่วมประชุมกับผู้ต้องหาทุกวันอังคาร

          ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้ถามนายอภิสิทธิ์ว่า เหตุใดถึงไม่ใช้ยศนำหน้าชื่อตัวเอง ทั้งๆ ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ  พระราชทานยศทหารสัญญาบัตรจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  แล้วอย่างนี้จะถือว่าจงรักภักดีสถาบัน ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมักอ้างหาความชอบธรรมหรือไม่ 

          นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังยกคำกล่าวอ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระบุนายอภิสิทธิ์ และนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นเด็ก 2 คนจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างไร ใช้นโยบายการแจกจ่ายเงินประกันตน 2,000 บาท นำไปแจกคน 920,000 คน แต่กลับไปขึ้นภาษีสรรพสามิตร 63 ล้านคน

          จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อภิปรายไม่ไว้วางใจนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสมัยนั้นเป็นเลขาธิการพรรค ในกรณีบริษัททีพีไอบริจาคเงินเข้าพรรคโดยผ่านบริษัทเมซไซอะ ซึ่งเป็นโฆษณา โดยผ่านเช็ค 27 ฉบับ เข้าธนาคารจำนวน 75 ครั้ง ในจำนวนเวลา 84 วัน รวมเงิน 263 ล้านบาท โดยมีนายประดิษฐ์เป็นคนกำกับเบื้องหลัง ผ่านทางนายธงชัย คมศรีชัย ผู้มีศักดิ์เป็นน้องชายและเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ด้วย เงินดังกล่าวเป็นเงินในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นเงินของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เงินของบริษัททีพีไอที่มีการกล่าวหาว่าตนนำเรื่องเก่ามาพูดแต่ขอบอกว่าเรื่องนี้ความผิดถึงขั้น ยุบพรรคได้และหากมีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ไป นายอภิสิทธิ์ก็ต้องขาดจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ตนจึงขอกล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์ว่ามีพฤติกรรมฉ้อราษฎร์บังหลวง

          จากนั้นนายอภิสิทธิ์ลุกขึ้นชี้แจงว่า สมัยที่เป็นหัวหน้าพรรคได้เซ็นรับรองงบดุลตามขั้นตอนที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เหรัญญิกพรรคเสนอมา ในประเด็นที่อ้างว่าเป็นปัญหาในปี 48 ที่ต่อเนื่องกับปี 49 ยืนยันว่าทำถูกต้องและกกต.ได้ตรวจสอบพร้อมกับตั้งข้อสังเกตมาแล้วแต่ไม่มีประเด็นที่ผู้อภิปรายพาดพิง ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้มีการส่งคนไปแทรกแซงหรือบีบบังคับใคร ส่วนผู้ที่ถูกพาดพิงทั้งนายประดิษฐ์ และนายบัญญัติจะเป็นผู้ชี้แจงต่อไป

          นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงสาเหตุที่ไม่ใช้ยศทหารนำหน้าชื่อก็เนื่องจากว่า พล.อ.ครวญ รมว.กลาโหม ได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2517 ชี้แจงการใช้ชื่อยศทหาร เนื่องจากมีทหารบางนายใช้ไม่เหมาะกับกาลเทศะนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย จึงชี้แจงดังนี้ 4.ในการปฏิบัติการฝ่ายพลเรือน ผู้มียศทหารจะใช้ประกอบชื่อเท่าที่จำเป็น ตนขอบอกว่าในอาชีพทางการเมืองเข้ามาแล้วมีทั้งคนชอบและไม่ชอบจะต้องถูกโจมตีแน่นอน ดังนั้นไม่อยากให้ความเป็นทหารต้องมาถูกโจมตีด้วย ด้วยเหตุผลนี้ตนจึงยึดหลักนี้

          ส่วนเรื่องของเศรษฐกิจที่พูดว่าไปญี่ปุ่นกลับมาแล้วก็ดีอกดีใจว่า กู้เงินมาได้ ที่จริงไม่ใช่ ไม่เคยดีอกดีใจที่จะกู้เงิน แต่ที่ญี่ปุ่นแจ้งมาก็เป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง เห็นเป็นโครงการที่ดีต่อไป ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาการจัดงบประมาณขาดดุลก็เป็นโครงการต่อเนื่อง การกู้เงินก็เป็นเรื่องที่มีความต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ไม่ใช่ต้องดีอกดีใจหรือภูมิใจอะไร ต้องแก้ไปตามความจำเป็น เราต้องกู้เงินประคับประคองไม่ให้คนตกงาน ทางเลือกมีขึ้นภาษี กู้เงิน ขายสมบัติชาติ จึงตัดสินใจใช้วิธีกู้เงิน และขึ้นภาษีโดยพิจารณาขึ้นภาษีเหล้า เบียร์

          สำหรับการเข้าสู่ตำแหน่งของนายกษิต นายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่า เหตุการยึดสนามบินตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนต่อเนื่องธันวาคม ช่วงนั้นมีคนไปแจ้งความ แต่ไม่มีการเอ่ยชื่อ รมต.กษิตเลย ภายหลังที่ไปแจ้งความก็คือหลังจากที่นายกษิตได้รับโปรดเกล้าดำรงตำแหน่งแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า

          ต่อมานายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายกล่าวหานายกษิต ว่า บทบาทของนายกษิตสมัยที่ร่วมพันธมิตรกล่าวหานายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ต่างๆ นานา แต่หลังรับตำแหน่งไม่ทันไร ทำให้ไทยเสียดินแดนไปแล้ว 250 เมตร ด้วยการต้องรักษาหน้าอยากให้กัมพูชามาร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน จนยอมให้ไทยเสียดินแดนไป โดยไม่สนคำทัดทานที่กองกำลังสุรนารีส่งหนังสือมาแจ้งว่ากัมพูชาทำถนนทางขึ้นเขาพระวิหาร รวมทั้งยังประท้วงพฤติกรรของทหารกัมพูชาที่เมาแล้วยิงปืนขึ้นฟ้า อยากถามว่านายกฯ และนายกษิตนั่งอยู่ในตำแหน่งได้อย่างไร

          จากนั้นนายจตุพรได้ลุกขึ้นกล่าวหานายอภิสิทธิ์ประเด็นแต่งตั้งนายกษิตในฐานะ ผู้ก่อการร้ายเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ และเตรียมพิจารณากฎหมายลดโทษช่วยเหลือกลุ่มพันธมิตร ประเด็นนายอภิสิทธิ์หนีทหาร 

เกาะติด การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อภิสิทธิ์ 1 ที่นี่ค่ะ

          จตุพร จวก มาร์ค หนีเกณฑ์ทหาร ไม่จับใบดำ-แดง 

          DSI ยันไม่เคยให้ข้อมูล 250 ล้าน กับ เฉลิม

          นายกฯ แจงมาชอบธรรม ไม่รู้เงิน 258 ล้าน

          เหลิม โชว์หลักฐานกลางสภา เส้นทางไซฟ่อนถึงยุบ ปชป.

          ประชาให้เวลากษิตบ่าย2 ตัดสินใจลาออกก่อนยังทัน

          เฉลิม แฉรัฐบีบบังคับข้าราชการ ขอเอกสารเงินบริจาค 258 ล้าน

 

 



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประมวลศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เฉลิม - อภิสิทธิ์ อัปเดตล่าสุด 19 มีนาคม 2552 เวลา 16:14:38 39,567 อ่าน
TOP
x close