เตือนปืนฉีดน้ำแรงดันสูง อันตรายทำตาบอดได้

ปืนฉีดน้ำ



เตือนปืนฉีดน้ำแรงดันสูง อันตรายทำตาบอดได้ (ข่าวสด)

          เมื่อวันที่ 3 เมษายน รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์  หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัย และป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า  อนุกรรมการฝ่ายป้องกันโรคและอุบัติเหตุ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ ได้ร่วมกับบริษัท อินเตอร์เทค ทำการศึกษาอันตรายจากปืนฉีดน้ำที่ไม่ใช้ท่อพีวีซี ต่อลูกตาของเด็ก  ซึ่งปืนฉีดน้ำสามารถทำอันตรายให้กับดวงตาได้หากเลือกใช้ชนิดที่มีแรงสูงและนำมาเล่นอย่างผิดวิธี เพราะตาเป็นอวัยวะที่บอบบางมาก โดยมีการทดลองฉีดน้ำใส่แผ่นฟอยล์ เพื่อดูความแรงของแรงดันน้ำ เพื่อเปรียบเทียบกับการทำให้เกิดอันตรายกับดวงตา

          "การทดลอง ปืนฉีดน้ำ 17 กระบอก พบว่า 14 กระบอก สามารถยิงทะลุแผ่นฟอยล์ได้ในระยะ  50 เซ็นติเมตร และจากจำนวน 14 กระบอก มี 8 กระบอก สามารถยิงผ่านฟอยล์ได้ในระยะ 100 เซ็นติเมตร และใน 8 กระบอกมี 1 กระบอกที่ยิงทะลุฟอยล์ได้ในระยะ 150 เซ็นติเมตร โดยปืนที่สามารถยิงทะลุฟอยล์ได้ทั้งหมด เป็นการยิงในแนวระนาบที่ความสูง 1 เมตร และยิงได้ไกลกว่า 6 เมตร และหากปืนที่ฉีดน้ำออกมาพุ่งเป็นเส้นตรงเส้นเดียว น้ำจะมีความแรงมากขึ้น" รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าว

          รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีโรงพยาบาลเลิศสิน ได้เก็บข้อมูลพบว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีคนไข้ที่เป็นเด็กมารักษาโรคทางตาจำนวนมาก และมีบางรายตาบอด ซึ่งสันนิษฐานว่าเกิดจากการถูกปืนฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดเข้าดวงตา  หากจะใช้ปืนฉีดน้ำที่มีแรงดันสูงฉีดน้ำใส่คน ควรจะต้องยืนฉีดน้ำให้ห่างอย่างน้อย 150 เซนติเมตร จึงจะปลอดภัย ควรเลือกซื้อปืนฉีดน้ำ ที่มีแรงดันน้อย และฉีดน้ำออกมาเป็นลักษณะฝอย กระจาย ไม่ใช่พุ่งตรงเป็นเส้นเดียว หากฉีดในแนวระนาบ จะต้องฉีดได้ไม่ไกลกว่า 6 เมตร หากฉีดในมุม 45 องศา ต้องไม่ไกลกว่า 10 เมตร จึงจะปลอดภัย และไม่ควรเล็ง หรือฉีดน้ำใส่บริเวณใบหน้าด้วย

          รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวว่า โดยจะนำผลการวิจัยเรื่องปืนฉีดน้ำ นำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวิชาการพัฒนามาตรฐานของเล่นเด็กที่ 423 ของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 7 เมษายนนี้ เพื่อพิจารณาเรื่องคุณภาพ มาตรฐานปืนฉีดน้ำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ในวันที่ 9-11 เมษายนนี้ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ จะจัดประชุมวิชาการ ซึ่งจะมีการเผยแพร่ผลการศึกษาของเล่นเด็กที่มีอันตราย จำนวน 400 กว่าชิ้นซึ่งมีจำหน่ายแพร่หลายในประเทศไทย โดยมีสารพิษปนเปื้อน เช่น สารตะกั่ว สารปรอท เป็นต้น รวมทั้งของเล่นบางชิ้น ทำจากโลหะ หรือของแข็ง ทำให้มีความแหลม คม ทำให้เกิดบาดแผลกับเด็กได้ ซึ่งแม้แต่ของเล่นพื้นบ้านไทยอย่าง ปลาตะเพียนสาน ก็มีอันตรายได้ เพราะมีการใช้ลวดเย็บกระดาษ ที่มีความแหลมคม


  ข้อมูลวันสงกรานต์ Glitter Dookdik วันสงกรานต์ เพียบ คลิกเลย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เตือนปืนฉีดน้ำแรงดันสูง อันตรายทำตาบอดได้ อัปเดตล่าสุด 5 เมษายน 2552 เวลา 13:12:14 6,387 อ่าน
TOP
x close