เสธ.แดง ปูดฝีมือ พลเอก นอกราชการ บงการยิง สนธิ

สนธิ ลิ้มทองกุล

สนธิ ลิ้มทองกุล



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

          ความคืบหน้าการติดตามตัวคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ และสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีนั้น เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เมษายน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงคดีลอบยิงนายสนธิ ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายขับรถกระบะออกมาจากบริเวณสี่แยกเทเวศร์แล้วเลี้ยวซ้าย และดักซุ่มอยู่ก่อนจุดเกิดเหตุถึงแยกเทเวศร์ เมื่อรถนายสนธิมาถึงแยกรถคนร้ายก็ออกไปก่อน แสดงว่าคนร้ายต้องทราบว่ารถนายสนธิออกมาเมื่อเวลาใด โดยมีอาวุธปืนทั้งหมด 6 กระบอก แต่ปืนเอ็ม 79 ยังไม่ทราบว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับปืนเอ็ม 16 หรือเป็นคนละกระบอก 

          "ส่วนคนร้ายคาดว่ามีประมาณ 6 หรือ 7 คน ส่วนรถที่คนร้ายใช้คาดว่ามีประมาณ 2 คัน ทั้งหมดเป็นรถปิกอัพ ขณะนี้ได้ประสานไปยังผู้ที่เชี่ยวชาญหรือแฟนพันธุ์แท้รถปิกอัพ เพื่อให้มาดูภาพว่า รถที่คนร้ายใช้เป็นรถกระบะยี่ห้อและรุ่นอะไร สำหรับคุณสนธิและผู้ติดตามที่นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด" พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าว

          ทางด้าน นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตร เปิดเผยบนเวทีคอนเสิร์ตการเมืองที่ จังหวัดภูเก็ต โดยระบุว่า มีการวางแผนจะให้แกนนำพันธมิตรที่มีชื่ออักษร ส. 2 คน เสียชีวิต คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร โดยหวังให้พันธมิตรทั่วประเทศลุกฮือจนเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา

          ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่า มีการวางแผนกันก่อนที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะจัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมาแล้ว โดยกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการดังกล่าว ต้องการปลุกปั่นสถานการณ์วุ่นวายทางการเมือง ควบคู่ไปกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อปลุกให้กลุ่มพันธมิตรออกมาเคลื่อนไหวเผชิญหน้ากับกลุ่ม นปช. แต่ปฏิบัติการดังกล่าวคลาดเคลื่อน เนื่องจากช่วงชุมนุมของ นปช. แกนนำพันธมิตร 2 ทั้งคน มีการระมัดระวังตัวสูงจนยากที่จะลงมือในช่วงเวลาดังกล่าว แต่คนร้ายยังต้องเดินหน้าปฏิบัติการลอบสังหาร แม้การชุมนุมจะยุติ เพราะปฏิบัติการดังกล่าวมีคนจ้างมีคนรับงานกันเรียบร้อยแล้ว 

          "การปฏิบัติการลอบสังหารนายสนธิจึงต้องเกิดขึ้น แต่ผิดคาด เพราะนายสนธิรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ ทำให้ค่าหัวของทั้ง 2 คน เพิ่มจาก 5 แสน เป็น 3 ล้านบาท ทั้งนี้ สาเหตุที่มีการมุ่งไปยังแกนนำ 2 ส.ของพันธมิตร เพราะนายสนธิและนายสุริยะใสถือเป็นกลไกสำคัญของพันธมิตร โดยเฉพาะนายสนธิเป็นแกนนำคนสำคัญประกอบกับเป็นเจ้าของเอเอสทีวี ซึ่งเป็นกระบอกเสียงและหัวใจสำคัญในการเคลื่อนไหวของพันธมิตร ส่วนนายสุริยะใสนั้น เป็นผู้ประสานงานที่มีบทบาทสำคัญ ในการประสานเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตร และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการให้ข่าวตอบโต้เปิดโปงแผนของฝ่ายตรงกันข้ามมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด" แหล่งข่าว ระบุ

          ขณะที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เปิดเผยว่า ตนได้พูดคุยกับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน  ซึ่งทราบว่า หลังจากเกิดคดีลอบยิง นายสนธิ ก็ปรากฎมีคนเฝ้าติดตาม พล.อ.พัลลภ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนคดียิงนายสนธิ ทั้งนี้  พล.อ.พัลลภ บอกกับตนว่า ไม่เกี่ยวข้องคดียิงนายสนธิ และตนก็ยืนยันเช่นนั้น ส่วนการที่ พล.อ.พัลลภ ต้องเก็บตัวเงียบ เพราะไม่อยากติดคุกตอนแก่

          พร้อมกันนี้
พล.ต.ขัตติยะ ยังปฏิเสธว่า ตนถูกเฝ้าจับตานั้นไม่เป็นความจริง เพราะคงไม่มีตำรวจคนไหนกล้ามายุ่ง เพราะรู้ว่าเสธ.แดงเป็นคนอย่างไร หากมาจับตารับรองว่าโดนยิงกลับหมดแน่

          อย่างไรก็ตาม พล.ต.ขัตติยะ กล่าวอีกว่า คดีของนายสนธิ ตนพอทราบว่า เป็นฝีมือของคนมีสีอย่างแน่นอน ส่วนที่ระบุว่า เป็นนายทหารนอกราชการยศพลเอกนั้นก็เป็นความจริง เพราะทหารชั้นประทวนทำไม่ได้

          ทางด้าน รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ออกแถลงการณ์แจ้งผลการรักษา นายสนธิ นายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถ และ นายวายุพักตร์ มัดสิน คนติดตาม โดย รศ.นพ.อดิศร ระบุว่า อาการโดยทั่วไปของ นายสนธิ ดีขึ้นบาดแผลไม่ติดเชื้อไม่มีอาการแทรกซ้อนสามารถรับประทานอาหารได้ โดยทีมแพทย์ขอดูอาการอีกสักระยะหนึ่ง หากอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่องก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ภายในวันศุกร์ที่ 24 เมษายนนี้ 

          ขณะที่อาการของ นายอดุลย์ แดงประดับ ที่มีอาการสมองบวมนั้น ขณะนี้อาการสมองบวมดีขึ้นในระดับหนึ่ง ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี แต่ยังได้รับการใส่ท่อช่วยหายใจอยู่สัญญาณชีพจรปกติ และยังต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียูต่อไป ส่วน นายวายุพักตร์ คนติดตามนั้นบาดแผลทั่วไปดีขึ้นไม่มีไข้อาการทั่วไปสบายดี





ขอขอบคุณข้อมูลจาก
  

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เสธ.แดง ปูดฝีมือ พลเอก นอกราชการ บงการยิง สนธิ อัปเดตล่าสุด 20 เมษายน 2552 เวลา 15:01:37 139,673 อ่าน
TOP
x close