
สนธิเชื่อลอบฆ่าฝีมือทหารแต่ไม่ใช่กองทัพ (ไอเอ็นเอ็น)
สนธิ ลิ้มทองกุล แถลงเปิดใจ ถูกผู้มีอำนาจลงขันลอบยิง เชื่อ เป็นฝีมือทหาร ประมาณ 10 คน ใช้รถ 4 คัน ร่วมก่อการ มีทหารยศ จ.ส.อ. เอี่ยวแต่ยืนยัน ไม่ใช่กองทัพ
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดใจ กรณีถูกลอบสังหาร โดยระบุว่า การกระทำดังกล่าว มีนัยบางอย่าง เพื่อส่งสัญญาณ เพราะถ้า นายสนธิ ตายได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ตายได้เช่นกัน ซึ่งถือเป็นการคุกคามสื่อมวลชน เป็นกระทำที่โหดเหี้ยม อุกอาจ ไม่สำนึกว่าประเทศไทย และสังคมจะยืนอยู่ได้อย่างไร ชี้ให้เห็นว่า ภาคประชาชนที่ออกมาเรียกร้อง จะเป็นอันตรายต่อกลุ่มอำนาจเก่า และอำนาจใหม่ เป็นการข่มขู่ให้เกิดเกรงกลัว เท่ากับเป็นการยิงปืนนัดเดียว ได้นกหลายตัว และเป็นการสร้างความชอบธรรมให้ขบวนการป่าเถื่อน
ส่วนรูปแบบการยิงนั้น เป็นการยิงจากคนที่ถูกฝึกมา เป็นท่าการฝึกของทหาร ใช้ขบวนรถ 4 คัน และใช้คนกว่า 10 คน ประกอบกับ กล้องวงจรปิด เสียทั้งหมด ทำให้เชื่อได้ว่า เป็นการร่วมมือกันจากผู้มีอำนาจ เพราะรู้ความเคลื่อไหวตนโดยตลอด ซึ่งไม่ใช่ฝีมือของมือปืนอาชีพ แต่เป็นทีมล่าสังหาร เชื่อ เป็นฝีมือของทหารบางคน แต่ไม่ใช่ กองทัพ
สนธิ ลิ้มทองกุล แฉ กลุ่มคนที่ลอบยิงเป็นทหารประมาณ 10 คน ใช้รถ 4 คัน ร่วมก่อการ มีทหารยศ จ.ส.อ.เอี่ยว เผย กลุ่มคนยิง เอ็ม 79 ใส่พันธมิตร และศาลรัฐธรรมนูญ เป็นชุดเดียวกัน
นอกจากนี้ นายสนธิ ยังได้กล่าวประณามกลุ่มคนที่ลอบฆ่าตัวเอง ว่า เป็นสิ่งที่ไม่ให้อภัย สำหรับกลุ่มคนกลุ่มนี้ และเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นมา เป็นกลุ่มของทหารที่ก่อเหตุเพียงไม่กี่คน ไม่ใช่ฝีมือของกองทัพ โดยส่วนตัว เชื่อว่า กองทัพ ไม่ทำสิ่งอัปยศอย่างนี้อย่างแน่นอน โดยการก่อการในครั้งนี้มีทหารยศ จ.ส.อ. 1 คน และหากการลอบฆ่าครั้งนี้สำเร็จ จะสามารถข่มขู่พันธมิตรให้เกิดความกลัว ไร้จุดยืน จนไม่ออกมาเคลื่อนไหวอีกต่อไป และเป็นการข่มขู่สือมวลชนที่กล้าจะลุกขึ้นมาต่อสู้กับกลุ่มผู้มีอำนาจให้เกิดความเกรงกลัว นอกจากนี้ นายสนธิ ยังระบุว่า พันธมิตร ที่เป็นทหารบางคน ได้บอกกับตนว่า กลุ่มคนที่ยิงปืน เอ็ม 79 ใส่กลุ่มพันธมิตร จนมีผู้บาดเจ็บล้มตาย และยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ดอนเมือง พร้อมทั้งยิงปืนใส่ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นกลุ่มบุคคลเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นายสนธิ ยังแถลงถึงจุดยืนของตนเองว่า จะยังคงเดินหน้าต่อสู้เพื่อประเทศชาติต่อไปไม่ได้ถอดใจอย่างที่เป็นข่าว แต่เหตุที่จะต้องพักช่วงนี้ เนื่องจากว่า แพทย์ได้กำชับให้พักผ่อน เนื่องจากยังไม่หายเป็นปกติ โดยต่อจากนี้ไป ก็จะเดินทางตระเวนไหว้พระ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถืออยู่ ต่อจากนั้นก็จะเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อไปพักผ่อน เมื่อร่างกายพร้อม ก็จะกลับมาสู้เพื่อประเทศชาติต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก![]()
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ






