ลีเดีย ประจันหน้า กฤษฏ์ ไม่สบตาไม่คุย

ลิเดีย


ลีเดีย ประจันหน้า กฤษฏ์  ไม่สบตาไม่คุย (สยามดารา)

          เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องพิจารณาคดี 813 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ทางศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ อ.4878/2551 กรณีที่นักร้องสาวอาร์แอนด์บี ''ลีเดีย'' ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา เป็นโจทก์ฟ้อง หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม หรือ นายศุภกฤษฏ์ ปทุมศรีวิโรจน์ ซึ่งเป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท หลังจากที่หมอดูคนดังได้ออกมาทำนายดวงชะตาว่านักร้องสาวมีเกณฑ์ตั้งครรภ์ กระทั่งกลายเป็นข่าวฮือฮาในวงการบันเทิงมาแล้วก่อนหน้านี้

          โดยบรรยากาศการไต่สวนมูลฟ้องในวันดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า คู่ความทั้ง 2 ฝ่าย ได้เดินทางมาตามที่ศาลนัด โดยนักร้องสาวมีนายไชยยันต์ วิสุทธิธาดา และนางศันสนีย์ วิสุทธิธาดา บิดาและมารดา มาให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ส่วนทางหมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม  มีเพียงญาติสนิทที่เดินทางมาให้กำลังใจเท่านั้น

          สำหรับการไต่สวนนัดนี้ ทนายความโจทก์นำนักร้องสาวขึ้นเบิกความเป็นพยานโจทก์เพียงปากเดียว โดยการเบิกความของ ''ลีเดีย''ศรัณย์รัชต์ ในครั้งนี้พอสรุปได้ว่า

          "ก่อนเกิดเหตุในคดีนี้มีข่าวลือว่าตนเป็นภรรยาน้อยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เชื่อว่าเป็นเรื่องของเกมการเมือง เพราะครอบครัวตนและครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ มีความคุ้นเคยกัน เคยตีกอล์ฟด้วยกันในบางครั้ง จนเมื่อมีข่าวลือว่าตนท้อง ประกอบกับตนได้รับเชิญไปร้องเพลงที่ประเทศมาเลเซีย แต่เกิดมีปัญหากับทีมงานจึงไม่ได้ร้องเพลง จึงกลับมีข่าวว่าตนไปทำแท้งที่ประเทศมาเลเซีย แต่ขณะนั้นไม่มีสื่อมวลชนใดยืนยันข่าวลือต่างๆ กระทั่งวันที่ 20-25 พฤศจิกายน 2551 ผู้สื่อข่าวของรายการทีวีพูล ไลฟ์ ทางช่อง 5 ไปสัมภาษณ์จำเลย ก็ได้ทำนายดวงชะตาว่า ลีเดีย ท้อง คอนเฟิร์ม อย่างไม่กลัวว่าจะทายผิด ซึ่งการทำนายดังกล่าวไม่มีการมาขออนุญาตตนแต่อย่างใด อีกทั้งการทำนายของจำเลย ไม่เหมือนหมอดูทั่วไปที่จะต้องดูตามวัน เดือน ปีเกิด แต่เป็นการทำนายตามนาฬิกาของจำเลยเอง''


หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม



          นอกจากนี้ ลีเดีย ยังเบิกความอีกต่อไปด้วยว่า เข้าใจว่าที่จำเลยต้องการทำนายคนที่มีชื่อเสียง เพราะต้องการเกาะดาราดัง เป็นการหาประโยชน์จากชื่อเสียงของตนเอง ซึ่งก่อนหน้านั้นจำเลยเคยทำนายดวงชะตาของ ''ชมพู่'' อารยา เอ ฮาร์เก็ต ดาราสาวช่อง 7 ว่าเป็นซีสในร่างกาย ทำให้ชมพู่เกิดความเครียดจนต้องไปตรวจร่างกายมาแล้ว ซึ่งจำเลยได้บันทึกไว้ในหนังสือส่วนตัวของจำเลยเองว่า ต้องการเกาะดาราดัง และที่ผ่านมาในแวดวงของโหราศาสตร์ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำนายดวงชาตะของจำเลย ว่าเป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณอีกด้วย ซึ่งตนเห็นว่าการทำนายดวงของจำเลยถือว่าเป็นการยืนยันในข้อเท็จจริง ที่ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดจนทำให้ตนได้รับผลกระทบต่อชื่อเสียง จิตใจ ขณะที่คนในครอบครัว ต้องถูกตั้งคำถามต่างๆ

          ''แม้ว่าทางผู้บริหารค่ายเพลง และตนจะออกมาแถลงข่าวแล้ว ก็ยังกลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตอยู่อีก ทำนองว่าไปทำแท้งมาแล้วถึงมาแถลงข่าว ทำให้ตนและครอบครัวมีความเครียดมาก ขณะที่จำเลยได้เคยให้สัมภาษณ์ยอมรับผิด โดยตนได้ยื่นฟ้องคดีแพ่งกับจำเลย ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท ส่วนที่จำเลย ได้ยื่นฟ้องกลับตน และแมทธิว ดีนส์ แฟนหนุ่ม ต่อศาลแพ่ง เรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท รวมทั้งยื่นฟ้องแพ่ง นางศันสนีย์ มารดาของตนด้วยอีก 100 ล้านบาท ส่วนคดีที่จำเลย ฟ้องคดีอาญากับมารดาของตน ต่อศาลแขวงปทุมวันนั้นศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้องไปแล้ว''

          อย่างไรก็ตาม เมื่อทางนักร้องสาว ''ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์'' ซึ่งเป็นฝ่ายโจทย์ ได้ขึ้นเบิกความเสร็จสิ้นแล้ว ทางศาลก็ได้นัดทั้ง 2 ฝ่าย ให้มาฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องคดีดังกล่าวหรือไม่ ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 เวลา 09.00 น. ต่อไป

          ในเวลาต่อมา ทางนักร้องสาว ''ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์'' ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูจะผ่อนคลายไปกว่าช่วงเช้าด้วยว่า สำหรับการไต่สวน เดียได้พูดไปตามความจริงทั้งหมดแล้ว  อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เดียไม่กลัวอะไรแล้ว แต่เดียก็ยอมรับนะคะว่าการที่ต้องมามีเรื่องมีราวมีการฟ้องร้องกันแบบนี้ มันก็ทำให้เดียเกิดความเครียดไม่น้อย เพราะเกิดมาเดียก็ไม่เคยขึ้นศาลมาก่อน ส่วนเรื่องคดีถ้าถามว่าจะมีทางไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่ ถ้าถามตัวเดีย เดียก็อยากจะให้มันจบเร็วๆ นะ แต่การที่หมอกฤษฏ์มาฟ้องกลับ ทั้งเดีย ทั้งพี่แมทธิว รวมถึงแม่เดียอีก เดียว่าการไกล่เกลี่ยน่าจะยากค่ะ

          ขณะที่หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม ก็ได้เปิดใจว่า เนื่องจากวันนี้เป็นการไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ผมจึงยังไม่มีโอกาสได้พูดอะไรเลย ทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับศาล ว่าศาลท่านจะพิจารณาวินิจฉัยอย่างไร ศาลจะรับฟ้องคดีนี้หรือไม่ผมคงตอบไม่ได้  แต่ผมก็มั่นใจว่าผมไม่ได้ทำความผิดอะไร เพราะทุกอย่างทำนายไปตามหลักวิชาการ ไม่ได้ใส่ความใคร ส่วนเรื่องสภาพจิตใจ ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว ดีกว่าช่วงแรกๆ ที่เครียดจนต้องนอนร้องไห้ ส่วนเรื่องงานตอนนี้ก็มีเข้ามาตลอดครับ เรียกว่าเริ่มจะกลับเข้ามาเหมือนเดิมแล้ว จะว่าเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ก็ว่าได้ เพราะสัปดาห์หนึ่ง 7 วัน ผมไม่มีวันว่างเลย อย่างวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ศาลนัดฟังคำสั่งผมก็ติดงาน คงจะเดินทางมาฟังคำสั่งไม่ได้  คงจะมอบอำนาจให้ทีมทนายความมาฟังคำสั่งแทน


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลีเดีย ประจันหน้า กฤษฏ์ ไม่สบตาไม่คุย อัปเดตล่าสุด 5 พฤษภาคม 2552 เวลา 16:44:41 19,449 อ่าน
TOP
x close