ท่องสวนป่าทองผาภูมิ ดูผลงานของชุมชนห้วยเขย่ง



ท่องสวนป่าทองผาภูมิ ดูผลงานความร่วมใจของชุมชนห้วยเขย่ง (ไทยรัฐ)

          หน้าหลัก นสพ.ฉบับวันนี้ บริการออนไลน์ สมัครสมาชิก เข้าสู่ระบบ  ไทยรัฐออนไลน์วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2552  sการเมืองกีฬาบันเทิงไลฟ์สไตล์วิทยาการเศรษฐกิจการศึกษาต่างประเทศภูมิภาคอื่นๆสังคม-สตรีอาหารและสุขภาพยานยนต์ท่องเที่ยวคอลัมน์ไลฟ์สไตล์ท่องสวนป่าทองผาภูมิ ดูผลงานความร่วมใจของชุมชนห้วยเขย่ง อีกบรรยากาศยามเย็นของผืน(สวน)ป่า

          เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อ "ห้วยเขย่ง" มาบ้าง  จากโฆษณาสร้างภาพลักษณ์ของ ปตท.ที่ไปฟื้นฟูธรรมชาติ แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า "ห้วยเขย่ง" ที่เห็นในหนังโฆษณานั้น เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอทองผาภูมิ  จ.กาญจนบุรี อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ 

          ความเป็นมาของชุมชนห้วยเขย่ง จากชาวบ้านที่เคยอยู่ในพื้นที่ลุ่ม  ปัจจุบันกลับกลายมาเป็นคนพื้นที่สูง  เพราะบริเวณที่เคยอยู่กลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมจากการก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขื่อนเขาแหลม) ชีวิตชาวบ้านห้วยเขย่งจากที่เคยทำนาหาปลา ก็ต้องย้าย ถิ่นฐานมาอยู่บริเวณเชิงเขาหินปูน  ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าเสื่อม โทรมและแห้งแล้ง ซึ่งเมื่อชาวบ้านห้วยเขย่งใช้เงินที่ได้รับชดเชยค่าที่ดินไปจนหมด ความยากจนก็กลับมาเยือน  หลายครอบครัวต้องขายที่ดินที่ได้รับมาใหม่ แล้วหันมามีอาชีพรับจ้างทำไร่และหาของป่าขายเป็นรายได้ยังชีพ

          กระทั่ง พ.ศ. 2541 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติไทย-สหภาพ พม่า ผ่านพื้นที่ป่าและชุมชนห้วยเขย่ง จึงมีโครงการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้แก่ ชุมชนและฟื้นฟูดูแลอนุรักษ์พื้นที่ป่าทองผาภูมิ 

          แป๊บเดียว 10 ปีผ่านไป วันนี้ที่ชาวห้วยเขย่งได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิโครงการหลวง  ผ่านสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) เข้ามาดำเนินการตั้งเป็นโครงการขยายผลโครงการหลวงห้วยเขย่ง ด้วยเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือให้คนในชุมชนมีรายได้เพียงพอ ชุมชนเข้มแข็งมีสิ่งแวดล้อมที่ดีและยั่งยืน ตามกรอบทำงานที่ดึงพลัง 3 ด้านของการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน คือการสร้างรายได้ การสร้างสิ่งแวดล้อมและการสร้างความมั่นคงทางสังคม  กระทั่งมาถึงวันที่มีความพร้อมก้าวย่างไปได้ ด้วยตัวเอง



โบสถ์วัดท่ามะเดื่อที่จุดเด่นอยู่ตรงเสาทั้งสี่ ใหญ่ขนาดสองคนโอบ


          จากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านกับการมีผู้นำชุมชนที่เข้มแข็ง เมื่อพบว่าในพื้นที่มีทรัพ-ยากรทางการท่องเที่ยวที่เหมาะสมแก่การพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ พวกเขาก็พร้อมแล้วที่จะเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวที่นิยมท่องไพรแบบขาลุย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าฝนพรำอย่างนี้ เพราะที่นี่มีทั้งกิจกรรมจากคนเป็นผู้จัดทำ เช่น การล่อง-แก่ง เข้าสวนชิมผลไม้ หรือการเข้าสัมผัสกับธรรมชาติของผืน (สวน) ป่าทองผาภูมิ ที่อยู่ในการดูแลขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ซึ่งตลอดเส้นทางมีที่พักแบบรีสอร์ต โฮมสเตย์ของเอกชน หรือจะกางเต็นท์นอนในหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ก็มีให้เลือกตามอัธยาศัย  แล้วตื่นเช้าแวะไปทำบุญไหว้พระดูโบสถ์หลังใหม่ของวัดท่ามะเดื่อ  ที่โดดเด่นกับเสาไม้ค้ำทั้ง  4 ที่เชื่อว่าหาไม่ได้ง่ายแล้วในตอนนี้

          จากนั้นค่อยเดินทางเข้าสู่ภายในสวนป่า (ปลูก) ที่ อ.อ.ป.เน้นปลูกไม้สักทองกับยางพารา บนเนื้อที่นับหมื่นไร่ใน ต.ห้วยเขย่ง แห่งนี้ มีความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติซุกซ่อนอยู่มากมาย ทั้งเป็นที่อยู่อาศัยของปูสามสี หรือปูราชินี ที่มักจะขึ้นมาอวดโฉมให้เห็นได้ก็ยามหน้าฝนมาเยือน หรือจะเข้าชมถ้ำ 28 ที่นอกจากหินงอกหินย้อยแล้วยังเป็นที่อยู่ของค้างคาวคุณกิตติสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เล็กที่สุดในโลก ต่อด้วยป่าพรุน้ำจืดที่โดดเด่นของห้วยเขย่ง คือเส้นทางศึกษาธรรมชาติพรุหนองปลิง ที่อุดมไปด้วยพันธุ์ไม้และกล้วยไม้หลากชนิด เดินตามไปสะพานไม้ที่ทอดยาวเป็นระยะทางราว 400 เมตร  ซึ่งสะพานไม้นี้เกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านโดยแท้และก็มีเรื่องเล่าจากไกด์ท้องถิ่นว่า แต่ก่อนพรุหนองปลิงแห่งนี้เคยมีปลิงอยู่มากมาย กลายเป็นอุปสรรคสาหัสในการทำสะพาน แต่ไม่รู้ใครเป็นคนต้นคิด ใช้เปลือกทุเรียนโยนลงไปในบึงน้ำ ไม่นานนักปลิงหายเกลี้ยง

สองข้างทางคือสวนยางที่ อ.อ.ป.ปลูก  พิสูจน์ได้แล้วว่าที่ไหนก็ปลูกยางพาราได้



          เดินชมป่าพรุดูปูราชินีเรื่อยไปจนถึงถ้ำ   28 ด้วยเวลาที่จำกัด ทั้งที่ในผืนป่าแห่งห้วยเขย่ง ยังมี บึงน้ำทิพย์  ต้นไม้ยักษ์ ฟอสซิลหอย 280 ล้านปี โป่งพุร้อน น้ำตกสายรุ้งและการนั่งห้างดูช้าง ให้เลือกเที่ยวสารพัด หากมีเวลามากพอ เพราะแต่ละจุดต้องใช้เวลากับความอึดพอสมควรในการเดินทาง เช่น ต้นไม้ยักษ์ จากปากของเจ้าหน้าที่ อ.อ.ป. บอกว่าต้องจอดรถไว้ที่ราบ แล้วเดินต่อไปอีกราว 45 นาที! 

          คิดเอาเองแล้วกันว่าน่าจะไกลขนาดไหน ยิ่งฝนตก  ถนนที่เป็นทางลูกรังยิ่งเละ  ดังนั้น ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อถึงเอาอยู่ แต่ถ้าจะเดินทางมารถยนต์ ธรรมดาก็พอไหว จากเมืองกรุงมุ่งหน้ามาทางราชบุรี เข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 323 จากเมืองกาญจน์ผ่านอำเภอไทรโยค สู่ อ.ทอง-ผาภูมิ จากนั้นเดินทางต่อโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3273 (ทองผาภูมิ-บ้านอีต่อง) ผ่านเขื่อนเขาแหลม ไปประมาณ 20 กม.มีป้ายบอกทางอยู่ขวามือ เลี้ยวเข้าไปราว 500 เมตร ก็ถึงที่ทำการ รวมระยะทางราว 289 กม. 

          หรือจะแวะเข้าไปที่ อบต.ห้วยเขย่ง ก่อนเพราะตั้งเด่นอยู่ริมทางก็ได้ เพราะไหนๆ คุณชัชชัย อุดม-สถาผล นายก  อบต.ห้วยเขย่ง ก็แอบกระซิบด้วยน้ำเสียงเจือน้อยใจว่า ที่ผ่านมา ที่นี่เหมือนแค่ทางผ่าน เพราะใครๆ ก็จะเลยไปบ้านอีต่องไปปิล๊อกกันหมด....ทั้งที่ "ห้วยเขย่ง" มีของดีรอมาให้ชมตั้งมากมาย  เพียงแต่ที่ผ่านมาเหมือนผืนป่าบังตาซะงั้นแหละ



หมอกยามเช้าที่ห้วยเขย่ง แต่แปลกอากาศไม่ยักเย็นอย่างที่คิด



"ปูราชินี" ดาวเด่นของป่าทองผาภูมิ ที่ใครมาก็อยากได้รูป



หินงอกหินย้อยในถ้ำ 28 ที่มีค้างคาวคุณกิตติเป็นตัวชูโรง



          ทางเดินชมธรรมชาติของพรุหนองปลิง ที่ชาวห้วยเขย่งภูมิใจนำเสนอ เพราะเกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชน





ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ท่องสวนป่าทองผาภูมิ ดูผลงานของชุมชนห้วยเขย่ง อัปเดตล่าสุด 30 พฤษภาคม 2552 เวลา 16:50:00 8,743 อ่าน
TOP
x close