เหล้าไทย-เขมรทำ ปลอมอื้อ เถื่อน-เกลื่อนตลาด

เหล้าเถื่อน



เหล้าไทย-เขมรทำ ปลอมอื้อ เถื่อน-เกลื่อนตลาด ทั้งเหล้าสี - เหล้าขาว ทะลักจากชายแดน หมอเตือนกินตาบอด (ข่าวสด)

          เหล้าปลอมทะลักไทย แฉเขมรทำปลอมส่งเข้ามาขาย เพราะราคาถูกหลังรัฐขึ้นภาษีสรรพสามิต รมช. คลังเผยมูลค่าความเสียหายรวมกันทั้งเหล้า - บุหรี่ นับหมื่นล้านบาท เพราะคนนิยมซื้อเนื่องจากราคาถูกกว่าเหล้าที่เสียภาษี มีทั้งเหล้าสีและเหล้าขาวติดตรายี่ห้อไทย ลอบนำเข้าตามแนวชาย แดนในลักษณะกองทัพมด และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ หมอระบุเหล้าปลอมอันตราย อาจทำตาบอดถาวร แถมชอบผสมยาฆ่าหญ้า ถึงตาย ส่วนบุหรี่มีทั้งเชื้อรา ยาฆ่าแมลง และสารก่อมะเร็ง

          เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม น.พ. พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เป็นประธานในพิธีปิดโครงการ "แฟมิลี่ เดย์ เซย์ โน" (Family Day Say No) จัดโดยกรมสรรพสามิต ที่ตลาดปัฐวิกรณ์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. แถลงผลงานความสำเร็จของโครงการตลอดระยะเวลา 3 เดือน และมอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียน พร้อมกับทำลายบุหรี่ปลอม จำนวน 1,000,000 ซอง และ สุราปลอม จำนวน 50,000 ลิตร รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 48,850,000 บาท

          น.พ.พฤฒิชัย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อรณรงค์ให้สมาชิกในครอบครัวเกิดความตระหนัก และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในการเลิกอบายมุข ด้วยการปฏิเสธบุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินกิจกรรมเพื่อร่วมรณรงค์ ในการปลูกจิตสำนึกการไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มสุรา ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

          น.พ.พฤฒิชัย กล่าวต่อไปว่า ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม - 30 มิถุนายน การรณรงค์ตามโครงการ มอบนโยบายให้กรมสรรพสามิตจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการ และให้สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 1-10 เป็นตัวแทนเพื่อรณรงค์รวมทั้งรายงานผลการปราบปรามบุหรี่และสุราเถื่อนทั่วประเทศ รวมถึงติดตามผลการจัดเก็บรายได้สุราและยาสูบทุกวันศุกร์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา

          รมช.คลัง กล่าวว่า สำหรับผลการรณรงค์ ทั่วประเทศ ทั้งการจัดกิจกรรมและการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักถึงโทษภัยของสุราและบุหรี่ ตลอดจนปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนห่างไกลยาเสพติด โดยที่กรุงเทพฯ เป็นที่จังหวัดที่ 76 ที่มีการรณรงค์ ตลอดระยะเวลาในโครงการ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 11,766 คดี พร้อมกับตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก

          "จากการกวดขันกวาดจับของเจ้าหน้าที่รัฐขณะนี้ทำให้ยอดจับกุมสูงขึ้นจากเมื่อก่อน มูลค่าของกลาง 7-10 ล้านบาทต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นเป็น 10 - 15 ล้านบาทต่อสัปดาห์ และปัญหาดังกล่าว ก็ทำให้ยอดสูญรายได้จากภาษีของรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีละ 5,000 - 8,000 ล้านบาท เป็นปีละ 8,000-10,000 ล้านบาท ขณะที่การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต เมื่อกลางเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา ยังทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มจากภาษีประเภทดังกล่าวอีกปีละ 2,000 - 4,000 ล้านบาท จากยอดจัดเก็บปกติปีละ 30,000 ล้านบาท รายได้จากการเพิ่มขึ้นของภาษี รัฐบาลได้นำไปใช้ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น มาตรการน้ำประปา ไฟฟ้า รถเมล์ รถไฟ ฟรี และขณะนี้เงินรายได้จากภาษีมีเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอีก" น.พ.พฤฒิชัย กล่าว

          ทั้งนี้ หลังจากพิธีปิดโครงการ น.พ.พฤฒิชัย ได้ร่วมทำลายบุหรี่และเหล้าเถื่อนที่จับ กุมได้ โดยวิธีการใช้หล่อปูนเททับแทนการเผา เพื่อไม่เกิดมลพิษในอากาศ

          นายพูนศักดิ์ สุวรรณรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านปราบปราม กรมสรรพสามิต กล่าวว่า การจับกุมบุหรี่ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2551 ปัจจุบัน ส่วนมากจะจับกุมได้ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา เช่น อรัญประเทศ สระแก้ว ด่านช่องเม็ก ช่องจอม จ.สุรินทร์ เป็นบุหรี่ปลอม ยี่ห้อ มาร์ลโบโร่ แอลแอนด์เอ็ม กรองทิพย์ สายฝน ซึ่งผลิตจากโรงงานในประเทศกัมพูชา ทำปลอมขึ้นจากของจริง โดยกองทัพมดหรือนักท่องเที่ยว ประชาชน และพ่อค้าขนเข้ามา 10 แถวต่อคน ขณะที่บางส่วนจับกุมได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยชาวต่างชาติขนมาเป็นบุหรี่เถื่อน เช่น มาร์ลโบโร่ แอลแอนด์เอ็ม มายด์เซเว่น โดยนักท่องเที่ยว ขนมาเพื่อสูบเอง แต่มีมากกว่า 10 แถวต่อคน เช่นเดียวกัน ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เพราะอนุญาตให้นำเข้าบุหรี่ได้เพียงคนละ 1 แถวเท่านั้น

          ทั้งนี้หากพบว่าฝ่าฝืนจะถูกปรับ 15 เท่า ของราคาสินค้า และการจับกุมทั้งหมดในส่วนของชายแดนคิดเป็นภาษีหลัก 100 ล้านบาท แต่เป็นเพียงตัวเลขจากที่จับกุมได้ โดยยังมีอีกหลายส่วนที่จับไม่ได้

          นายพูนศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเหล้า จับได้ทั้งที่ผลิตในประเทศ หรือเหล้าชุมชนไม่ติดแสตมป์ และเหล้านอก โดยเฉพาะยี่ห้อแบล็กเลเบิ้ล เรดเลเบิ้ล และไวน์ มีผู้ขนเข้ามาในประเทศและถูกจับได้มากที่สุด แถบ ด่านหนองคาย มุกดาหาร และพื้นที่ทาง ทะเล ทางภาคใต้ เช่น สะเดา สงขลา สตูล โดยเป็นการลักลอบเข้าทางป่าโกงกาง ในลักษณะของกองทัพมด ไม่ค่อยมีล็อตใหญ่ เนื่องจากมีการสนธิกำลังระหว่างตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่สรรพสามิต พร้อมให้เงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ที่จับได้ จึงมีเพียงกองทัพมดที่ลักลอบขนเหล้าเข้ามาครั้งละ 1 - 2 ลัง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน และนำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน

          "แม้กรมสรรพสามิตเข้มงวดกับการตรวจสอบประชาชน นักท่องเที่ยว และพ่อค้า แต่ก็มีหลายส่วนเล็ดลอด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่บินไปเล่นการพนันมักจะกลับมาพร้อม กับลักลอบขนบุหรี่ และเหล้าเถื่อนมาด้วยเสมอ แต่ละปีทำให้รัฐเสียรายได้จากภาษีนับร้อยล้านบาท" นายพูนศักดิ์ กล่าว

          รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับเหล้าปลอม ที่ลักลอบขนเข้ามาจากประเทศกัมพูชา นอกจากจะเป็นยี่ห้อต่างประเทศแล้ว ยังมีเหล้าทั้งเหล้าสีและเหล้าขาว ติดตรายี่ห้อไทยรวมอยู่ด้วย แต่เป็นเหล้าที่ผลิตในกัมพูชา

          น.พ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวถึงอันตรายของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบปลอมว่า ที่เคยพบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปลอม จะใช้เมทิลแอลกอฮอล์มาผลิตแทน ซึ่งจะมีฤทธิ์ทำลายประสาทตา ทำให้ประสาทตาเสื่อมถาวรได้ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีบางกรณีใช้เอทิลแอลกอฮอล์ แต่ผสมยาฆ่าหญ้า (Paraquat) ลงไปด้วย เพราะมีความเชื่อผิดๆ ว่า จะทำให้เมาได้เร็วกว่าปกติ ซึ่งสารดังกล่าวมีฤทธิ์ทำลายประสาท จึงทำให้เกิดอาการมึนงง แต่หากได้รับในปริมาณมากอาจทำให้เสียชีวิตได้ในทันที เพราะสารเคมีดังกล่าวไม่มียาแก้ แต่การสังเกตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปลอมทำได้ยาก เพราะสัญลักษณ์อย่างแสตมป์ก็ปลอมแปลงได้ ส่วนสีและกลิ่นก็แทบจะแยกไม่ออก นอกจากมีการผสมในปริมาณมาก ก็จะทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตัวขึ้น ไม่เหมือนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามปกติ โดยจะมีกลิ่นฉุนและเหม็นเขียว

          น.พ.สมาน กล่าวว่า สำหรับบุหรี่ปลอมนั้น มักเป็นการนำบุหรี่หมดอายุมาตีฉลาก ใส่แสตมป์ใหม่ บุหรี่ประเภทนี้มักมีเชื้อราปลอมปน ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ หรือไม่ก็เป็นบุหรี่ที่ทำจากใบยาสูบที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยปกติแล้วยาสูบที่นำมาผลิตเป็นบุหรี่ จะมีการใช้ยาฆ่าแมลงจำนวนมาก จึงต้องมีการตากและทิ้งไว้ให้ยาฆ่าแมลงสลายไป รวมถึงต้องมีกระบวนการอบเพื่อฆ่าเชื้อรา แต่บุหรี่ปลอมแปลงจะไม่ผ่านขั้นตอนดังกล่าว ทำให้อาจเกิดอันตรายจากสารพิษตกค้างจากยาฆ่าแมลงได้ สารเหล่านี้จะเป็นอันตรายทำให้เกิดมะเร็งได้

          "ทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ ต่างมีอันตรายอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว หากบริโภคของปลอมอีกก็จะทำให้ได้รับอันตรายมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปลอมจะอันตรายมากถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นถาวร หรือเสียชีวิตได้ อีกทั้งสังเกตได้ยาก ทางที่ดีควรลดละเลิกจะดีกว่า" น.พ.สมาน กล่าว


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เหล้าไทย-เขมรทำ ปลอมอื้อ เถื่อน-เกลื่อนตลาด อัปเดตล่าสุด 20 กรกฎาคม 2552 เวลา 14:39:43 21,350 อ่าน
TOP
x close