ปิดตำนานชีวิต ปาร์คยองแบ เกาหลีกตัญญู (ไทยรัฐ)
รูดม่านปิดตำนานหนุ่มเกาหลี ยอดกตัญญู "ปาร์ค ยอง แบ" ผู้ป่าวประกาศตามหา 2 ทหารไทยในสมรภูมิเกาหลีที่เคยช่วยชีวิต ต่อมากลายเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในแวดวงกีฬาเมืองไทย ถึงแก่กรรมอย่างสงบ เวลา 06.00 น. วันที่ 21 กรกฎาคม
"ปาร์ค ยอง แบ" ตำนานหนุ่มเมืองกิมจิ-เกาหลียอดกตัญญู ผู้ป่าวประกาศตามหา 2 ทหารไทยในสมรภูมิเกาหลีที่เคยช่วยชีวิต ต่อมาได้กลายเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในแวดวงกีฬาเมืองไทย ถึงแก่กรรมอย่างสงบ โดย เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 21 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าว ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีว่า นายปาร์ค ยอง แบ หรืออาจารย์ปาร์ค วัย 72 ปี ชาวเกาหลีใต้ อดีตผู้สื่อข่าวพิเศษหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำประเทศเกาหลีใต้และผู้แทนพิเศษคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ถึงแก่กรรมอย่างสงบเมื่อเวลา 06.00 น. วันเดียวกันด้วยอาการปอดอักเสบและติดเชื้อ หลังเข้ารับการรักษาโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวานและโรคอัลไซเมอร์ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม
ย้อนหลัง ประมาณ 40 ปีเศษ "ปาร์ค ยอง แบ" เริ่มเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักกีฬาไทยที่ไปแข่งขัน "ปักจุง ฮีเกมส์" ที่ประเทศเกาหลีใต้ ทุกคนทุกคณะจะได้พบกับหนุ่มชาวเกาหลี รูปร่างสันทัดเข้าต้อนรับขับสู้ด้วยความเต็มใจ คุณลักษณะพิเศษที่โดดเด่นของ "ปาร์ค ยอง แบ" คือเป็นหนุ่มเกาหลีที่พูดภาษาไทยได้ แทบไม่พบเจอคนเกาหลีที่พูดภาษาไทยได้ กลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของคนไทยที่ประเทศเกาหลีใต้ คอยช่วยเหลือติดต่อประสานงานทุกเรื่อง เป็นล่ามแปลภาษาให้ ยามว่างจะพาไปเที่ยวช็อปปิ้งซื้อของ ทุกครั้งที่รู้ว่าคณะคนไทยจะกลับประเทศ ทุกคนจะได้รับคำขอร้อง 1 อย่างคือให้ช่วยตามหา "หมู่ตาดและหมู่วีระ" 2 ทหารไทยที่ไปร่วมรบในสมรภูมิเกาหลีเมื่อปี พ.ศ.2493 ผู้เคยช่วยชีวิตเขาไว้ในวัยเพียง 7 ขวบ และ "ปาร์ค ยอง แบ" นับถือทหารทั้ง 2 นายเปรียบเสมือนพ่อคนหนึ่งที่พลัดพรากจากกันไป จึงต้องการตามหาเพื่อตอบแทนพระคุณและพบหน้ากันอีกสักครั้งหนึ่งในชีวิต
เรื่อง ราวความกตัญญูของ "ปาร์ค ยอง แบ" กลายเป็นข่าวดังเกรียวกราวในเมืองไทย เมื่อหนังสือไทยรัฐช่วยติดตามตรวจสอบจากองค์การทหารผ่านศึก จนกระทั่งพบว่า "2 ทหารไทย" มีตัวตนอยู่จริง โดย "หมู่ตาด" หรือ ส.ท.ตราด กองจันดี ได้เลื่อนชั้นยศและเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น พ.ต.นรชัย กองจันดี สังกัดศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ในขณะนั้น) ส่วน "หมู่วีระ" หรือ ส.อ.วีระ ประภาสะวัต ได้เลื่อนยศและเปลี่ยนชื่อเป็น พ.ท.สุริยิน ประภาสะวัต รับราชการที่กรมการรักษาดินแดน (ในขณะนั้น)
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้ประสานผ่าน "แจ๊ส สยาม" ผู้กำกับดังค่ายไฟว์สตาร์ ที่กำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "อารีดัง" ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่ง "ปาร์ค ยอง แบ" มาช่วยเป็นล่ามและประสานงานกองถ่าย พาตัวเดินทางมาประเทศไทยเพื่อพบหน้า "หมู่วีระกับหมู่ตาด" ที่ประกาศตามหา เมื่อคืนวันที่ 30 ธันวาคม 2522 และเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย โลดแล่นอยู่ในวงการสื่อสารมวลชนด้านกีฬา มีบทบาทสำคัญในการประสานงานระหว่างประเทศไทยกับเกาหลีใต้ ได้รับการยกย่องและใบประกาศเกียรติคุณจากสมาคมกีฬาต่างๆของไทยเป็นจำนวนมาก เมื่ออายุมากขึ้น "ปาร์ค ยอง แบ" วางมือจากงานสื่อมวลชน หันไปทำหน้าที่ผู้ประสานงานให้กับวงการกีฬาเมืองไทย และยังเป็นที่ปรึกษาของนักธุรกิจเกาหลีใต้ที่เข้ามาลงทุนในเมืองไทย ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต "ปาร์ค ยอง แบ" ยังเลือกที่จะตายในเมืองไทยที่เขาให้ความรักและเคารพยิ่งกว่าแผ่นดินเกิด ของตัวเอง
"ปาร์ค ยอง แบ" เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2480 บิดาชื่อนายปาร์ค ยอง เซ มีกิจการโรงงานทอผ้าตั้งอยู่บริเวณเส้นขนานที่ 38 มีพี่น้องรวม 6 คน ช่วงสงครามแบ่งแยกเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ "ปาร์ค ยอง แบ" ต้องพลัดพรากจากพ่อแม่พี่น้องเป็นเด็กจรจัดในวัยเพียง 7 ขวบ จนกระทั่งได้ 2 ทหารไทยช่วยชีวิตพามาอยู่ในค่ายทหารไทยที่เกาหลีใต้ คอยช่วยทำงานสารพัดตามแต่จะสั่ง เมื่อทหารไทยต้องถอนกำลังกลับประเทศ มีความพยายามที่จะนำ "ปาร์ค ยอง แบ" กลับมาด้วย แต่ถูกตรวจพบเสียก่อน ทำให้เขาต้องพลัดพรากจากทหารไทยทั้ง 2 นาย ต้องต่อสู้หาเลี้ยงตัวเองพร้อมประกาศตามหาครอบครัว กระทั่งได้พบพ่อกับพี่ ชายอยู่ด้วยกันในประเทศเกาหลีใต้ ส่วนแม่กับพี่สาวและน้องสาวอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือ
"ปาร์ค ยอง แบ" เรียนจบปริญญาตรีด้านพลศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกียงฮี สมรสกับนางยัง ยอง จา (เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2550) มีบุตรธิดา 2 คนคือ นางปาร์ค เฮ ลันและนายปาร์ค เมียง ฮัน สำหรับศพของ "ปาร์ค ยอง แบ" จะมีพิธีรดน้ำศพในเวลา 16.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม ที่วัดเสมียนนารี กรุงเทพมหานคา (กทม.) ส่วนพิธีฌาปนกิจศพ ยังไม่ได้กำหนดเนื่องจากต้องรอบุตรสาวเดินทางจากประเทศเกาหลีใต้มาประสานงานอีกครั้ง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก