บุกห้องนอน ราฟาเอล นาดาล

บุกห้องนอน นาดาล (ประชาชาติธุรกิจ)

          น่าจะเป็นที่ใฝ่ฝันสำหรับใครหลาย ๆ คนที่จะได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับบรรดานักเทนนิสระดับโลกถึงขนาดร่วมห้องนอนเดียวกัน

          แม้จะเป็นการร่วมห้องนอนเดียวกันแต่คนละเวลาก็ตาม

          เป้าหมายครั้งนี้มีทั้งโจ วิลฟรีด ซองกา, มารัต ซาฟิน และกระทิงหนุ่มเจ้าของมือวางอันดับ 3 ของโลก "ราฟาเอล นาดาล" ยอดนักเทนนิสที่จะเข้าร่วมในการแข่งขันเทนนิส "พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น 2009" ที่จัดขึ้นในวันที่ 26 กันยายน-4 ตุลาคมนี้

          "อินเตอร์คอนติเนนตัล" โรงแรมหรูใจกลางกรุงที่โรงแรมเพิ่งทุ่มงบฯ ไป 8 ล้านบาท เพื่อปรุงโฉมห้องพักให้สวยงามครบครันที่สุด คือ สถานที่ที่ทั้ง 3 จะพำนักอยู่ในระหว่างนั้น

          2 หนุ่มจะได้พักอยู่ในห้องที่เรียกว่า "แอมบาส ซาเดอร์สวีท" ขณะที่ ราฟาเอล นาดาล ที่จะเข้าพักในวันที่ 29 กันยายน-5 ตุลาคม จะอยู่ในห้องที่ชื่อว่า "รอยัลสวีท" ห้องที่ถือได้ว่าเป็นห้องดีที่สุด หรูหราที่สุด วิวสวยที่สุด ใหญ่ที่สุด และแพงที่สุด 

          ความหรูหราที่ว่านี้อยู่บนพื้นที่ 250 ตารางเมตรที่ชั้น 33 ในห้องหมายเลข 3323 เป็นห้องพักที่แสนจะเป็นส่วนตัวสไตล์ยูโรชิกที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นไทยที่มีภาพตึกสวย ๆ และสนามกอล์ฟสปอร์ตคลับใจกลางเมืองเป็นวิวให้ชมแบบพาโนรามา 

          ห้องต่าง ๆ ถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วน ทั้งห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่มีจอโทรทัศน์ LCD ขนาด 52 นิ้ว เครื่องเสียง Bose ห้องรับประทานอาหารขนาด 12 ที่นั่งพร้อมด้วยทีวี LCD 52 นิ้ว ห้องเตรียมอาหาร ห้องแต่งตัว ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีทั้งอ่างจากุซซี่และห้องชาวเวอร์ พร้อม Mirroe TV ทีวีกระจกที่เปิดชมไปด้วยในระหว่างอาบน้ำได้ 

          ถัดจากนั้นเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่จัดวางเตียงบิ๊กไซซ์ขนาด 10 ฟุต ที่เรียกว่า "ทวินคิงส์" ไว้พร้อมกับเมนูหมอนที่จะให้นาดาลเลือกนอนหนุนไว้อีก 8 ชนิด และมีทีวี LCD 42 นิ้วไว้ด้วย

          ความสะดวกสบายยังไม่หมด เพราะทางโรงแรมได้เตรียม "บัดเลอร์" ผู้ประสานงานความสะดวกระดับ วี.ไอ.พี.ที่มีประสบการณ์มานานถึง 8 ปี อย่าง "วรชิต จุนรัชฎ์" มาคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง 

          ตั้งแต่ที่นาดาลก้าวขาเข้าสู่โรงแรมแห่งนี้ บัดเลอร์ ก็จะเริ่มทำหน้าที่เป็นผู้บริการทุกอย่างตั้งแต่เก็บกระเป๋า จัดเสื้อผ้า รีดผ้า ขัดรองเท้า ดูแลอุณหภูมิในห้อง เป็นเพื่อนคุย เพื่อนไปเที่ยวหากต้องการ เรียกว่าทำทุกอย่างที่ปรารถนาได้หมด ดังนั้นบัดเลอร์จึงต้องศึกษาความชอบไม่ชอบของแขก วี.ไอ.พี.นี้อย่างละเอียดเพื่อสร้างความประทับใจสูงสุด

          สปาคอร์สมูลค่า 6,000 บาท ช็อกโกแลต Welcome Nadal ผลไม้ไทยชุดใหญ่ น้ำส้มคั้นสด แชมเปญ MOE"T & CHANDON มูลค่า 6,800++ บาท เสื้อคลุม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดมือ เช็ดปากปักชื่อ NADAL เดินเส้นสีทอง เป็นของกำนัลแรกเข้า นี่ยังไม่รวมดอกไม้สีม่วง สีสุดโปรดของแขก วี.ไอ.พี.คนนี้ที่โรงแรมจัดเตรียมกล้วยไม้สีม่วงให้ทุกวัน รวมถึงไปซีฟู้ดและมะกอก ฯลฯ ตามคำขอ 

          นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังได้เตรียมรถบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ไว้คอยบริการตลอดระยะเวลาที่พักด้วย

          บริการที่นาดาลจะได้รับนี้จะเป็นการดูแลเหมือน อย่างที่ผู้มีชื่อเสียงและผู้นำประเทศหลายคนเคยได้รับมาแล้ว ทั้งกษัตริย์คูเวต, สุลต่านบรูไน, สุลต่านมาเลเซีย, วลาดีมีร์ ปูติน, ร็อด สจ๊วต, ชีค อาหมัด อัลฟาฮัด ประธานโอลิมปิกเอเชีย, สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของอาบูดาบี ฯลฯ

          ความสะดวกสบายที่นาดาลได้รับนี้ ซองก้าและซาฟินก็จะได้รับการดูแลเช่นเดียวกัน ผิดแต่เพียงที่ขนาดห้องของสองหนุ่มจะมีขนาดอยู่ที่ 100 ตารางเมตรเท่านั้น

          ส่วนสนนราคาค่าห้องโดยปกตินั้น สำหรับห้องนาดาลอยู่ที่ 120,000 บาท และห้องของสองหนุ่มอยู่ที่ 69,000 บาท 

          และทันทีที่ 3 วี.ไอ.พี.หนุ่มเช็กเอาต์ ความหรูหรา อลังการที่ทั้งสามได้สัมผัสนั้น จะถูก "ทับรอย" จาก ผู้สนใจทันทีแบบไม่มีการปรับหรือจัดอะไรใหม่ทั้งสิ้น เรียกว่า ไปซึมซับเอาความเป็นตัวตนของพวกเขาได้อย่างเต็ม ๆ 

          การทับรอยราฟาเอล นาดาล นั้นอยู่ที่ 99,000 บาท ส่วนของสองหนุ่มอยู่ที่ 50,000 บาท โดยจะได้รับการบริการเช่นเดียวกับที่ทั้งสามได้รับทุกประการ โดยจะมีรถบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 รับ-ส่งถึงบ้าน (ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล) บริการอาหาร มีรถลิมูซีนรับ-ส่งถึงบ้านในเขตกรุงเทพฯ และชานเมือง บริการอาหาร 3 มื้อ พร้อมสปาทรีตเมนต์ฟรี 3 ชั่วโมง แถมยังจะได้ลายเซ็นของที่ระลึกจากนักกีฬาคนดังไปเป็นที่ระลึกอีกด้วย 

          การจับจองเข้าไปย่ำรอยนี้ไม่มีการประมูลใด ๆ แต่ใช้วิธีที่ใครจองก่อนรับสิทธิ์นี้ไปเลย

          สำหรับผู้ที่ไม่อยากทับรอยใคร แต่อยากจะได้เฉียดไหล่ 3 คนดังอย่างใกล้ชิด ก็สามารถทำได้โดยทางโรงแรมได้จัดแพ็กเกจห้องพักแกรนด์เดอลุกซ์ 1 คืน อาหารเช้าสำหรับ 2 ท่านพร้อมรถรับ-ส่งและบัตรเข้าชมการแข่งขันรอบตัดเชือกและรอบชิงชนะเลิศ (3 และ 4 ตุลาคม) ในที่นั่ง วี.ไอ.พี.จำนวน 2 ที่นั่ง โดยรับสิทธิ์เช็กเอาต์ได้ถึงเวลา 20.00 น. ทั้งหมดนี้ราคา 8,000 บาท 

          ทั้งหมดเป็นอีกหนึ่งของสีสันความเข้มข้นที่เกิดขึ้นเพราะ "พีพีที ไทยแลนด์ โอเพ่น 2009"

  คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก