
กัมพูชากล่าวหาไทย ยิงวัยรุ่นเขมรเผาทั้งเป็น (กรุงเทพธุรกิจ)
หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์รายงานวันที่ 14 กันยายน อ้างคำพูดของนายธน นล นายอำเภอสำโรง จังหวัดอุดรมีชัย ทางตะวันตกของกัมพูชาว่า ทหารไทยยิง นายยน ริต วัยรุ่นกัมพูชาอายุ 16 ปี ในข้อหาลักลอบเข้าไปตัดไม้ในเขตไทยและจุดไฟเผาทั้งเป็น แต่ข่าวไม่ได้ระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อใด
นายธน อ้างด้วยว่า มีวัยรุ่นอีกคนหนึ่งถูกทหารไทยยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ชาวบ้านได้ช่วยเหลือพาตัวกลับเข้ามาส่งโรงพยาบาลในฝั่งกัมพูชา ส่วนศพของนายยน ริต นั้น ทางครอบครัวพบศพ และนำกลับมาทำพิธีที่หมู่บ้านแล้ว ขณะนี้ทางการกำลังหามาตรการช่วยเหลือเหยื่อทั้งสองคน รวมถึงมาตรการในการดำเนินการกับทางการไทย
ทางด้านนายพิช รัตนา เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลในจังหวัดอุดรมีชัย ประณามการสังหารพลเมืองชาวกัมพูชา พร้อมตั้งคำถามว่าเหตุใดทหารไทยจึงเผาคนทั้งเป็น และถ้าพวกเขาทำผิดในแผ่นดินไทยก็ควรจะจับกุมตามกฎหมาย ขณะที่สถานทูตไทยในกรุงพนมเปญยังไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนเพิ่งเกิดเหตุการณ์ ทำนองเดียวกันนี้ โดยทหารไทยจับกุมชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่ง ที่ลักลอบเข้าไปตัดไม้ในฝั่งไทย และเมื่อเดือนที่แล้วทหารไทยได้ยิงชายชาวกัมพูชาเสียชีวิต 2 ราย ขณะที่ทางกองทัพไทยยืนยันว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัว
ขณะที่ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์กัมพูชาโพสต์ เสนอข่าวว่ามีกองกำลังทหารไทยจับชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้ามาบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ไปเผาในพื้นที่สวนผลไม้ว่า ถือเป็นเรื่องใหม่ กองทัพภาคที่ 2 ยังไม่ได้รับรายงาน และเชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์เช่นนั้น ที่ผ่านมากองทัพภาคที่ 2 ไม่ได้จับกุมชาวกัมพูชาหลบหนีเข้ามาในบริเวณดังกล่าว ยืนยันไม่มีการกระทำป่าเถื่อนอย่างหนังสือพิมพ์กัมพูชาเสนอข่าว อย่างไรก็ตาม คิดว่าทางหนังสือพิมพ์กัมพูชาอาจจะได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ทหารไทยและทหารกัมพูชา มีข้อตกลงในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาอยู่แล้วไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นห่วงเรื่องการชุมนุมของกลุ่มมวลชนที่จะเดินเท้าขึ้นไปยังบริเวณปราสาท เขาพระวิหาร เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่อันตราย เพราะบางพื้นที่ยังมีกับระเบิดที่มีการฝังไว้ และเจ้าหน้าที่ก็ยังไมได้มีการเก็บกู้ ทั้งนี้หากขึ้นไปประท้วงจะได้รับอันตราย ขณะเดียวกันรัฐบาล และกองทัพก็พยายามหาทางแก้ไขเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนอยู่ อย่างไรก็ตาม หากมวลชนยังดื้อจะขึ้นไปให้ได้ก็เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย รวมถึงอาจจะกระทบเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งขณะนี้การแก้ไขปัญหาของทั้งสองประเทศอยู่ในทิศทางที่ดี
"หากมวลชนยังมีการยั่วยุเกรงว่าจะเกิด ปัญหาตามมาอีก ทั้งนี้เรากังวลว่าหากปล่อยให้มวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ขึ้นไปยัง ปราสาทเขาพระวิหารก็เกรงว่าทหารกัมพูชาจะจับตัวไปเหมือนเหตุการณ์ที่ผ่านมา อีกทั้งในพื้นที่ดังกล่าวกำลังทหารของกัมพูชาก็ มีการถืออาวุธหากยั่วยุเกรงว่าจะได้รับอันตราย อีกทั้งเจ้าหน้าที่ทหารก็ทำงานหนักอยู่แล้ว หากมวลชนขึ้นไปก็จะต้องจัดกำลังมาดูแลอีก" พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีปัญหาข้อพิพาทบนพื้นที่เขาพระวิหารระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า ในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เราไม่ได้เสียอะไรให้กัมพูชา แต่ขณะนี้ก็มีการวางกำลังอยู่ทั้ง 2 ฝ่าย ขอให้เชื่อมั่นว่ากองทัพดูแลอาณาเขตของไทยได้ ส่วนพื้นที่ที่ยังมีข้อพิพาทกันอยู่ แม้จะมีการตรึงกำลังทั้งสองประเทศ แต่ก็เป็นการวางกำลังเพื่อหาข้อยุติด้วยวิธีสันติวิธี ซึ่งปัญหาพิพาทเขาพระวิหารมีหนทางแก้ปัญหา 3 ข้อ คือ...
1. รบกัน แต่แนวทางนี้ไม่เป็นที่ปรารถนาของทั้ง 2 ฝ่าย
2. ตัดสินกันด้วยกระบวนการศาลโลก ซึ่งคงไม่มีใครรู้ดีเท่ากับคู่กรณีไทยและกัมพูชา
3. ซึ่งเป็นหนทางที่ดีที่สุดคือ การหารือร่วมกันของคณะกรรมการร่วมของไทยและกัมพูชา เพื่อหารือประเด็นพิพาท แม้ที่ผ่านมาจะหยุดไม่เดินหน้า แต่เป็นวิธีที่ทั้งสองฝ่ายหาทางออกร่วมกันได้
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับคนไทยที่ จะไปชุมนุมในพื้นที่ก็ต้องระวังว่าจะส่งผลกระทบต่อยุทธศาสตร์การแก้ปัญหา เพราะกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีอาวุธและตรึงกำลังกัน หากมีคนไทยลุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ที่มีการวางกำลังแล้วถูกจับไปก็จะเท่ากับเป็นการยอมรับให้กับเขาว่าเป็นพื้นที่ของกัมพูชาได้ ทั้งนี้ ไม่ขอวิจารณ์ถึงการมีผู้ชุมนุมท้วงคืนเขาพระวิหารว่ามีวัตถุประสงค์อะไร แต่เราเป็นข้าราชการของรัฐมีหน้าที่รักษาอธิปไตย ทั้งนี้ กองทัพทำตามกรอบนโยบายของรัฐบาลและสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
ส่วน พ.อ.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม เสนาธิการกองกำลังสุรนารี เปิดเผยถึงกรณีที่ กลุ่มทวงคืนเขาพระวิหารจะออกมาเคลื่อนไหวไล่ชาวกัมพูชาออก ไปจากพื้นที่ทับซ้อนในวันที่ 19 กันยายนนั้น คิดว่าทางเจ้าหน้าที่คงไม่อนุญาตให้เข้าไป เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย คงให้อยู่บริเวณปากทางเข้า ซึ่งทางกรมป่าไม้ก็ได้มีการประกาศเป็นเขตห้ามเข้าหากไม่ได้รับอนุญาตอยู่ แล้ว ซึ่งขณะนี้ในบริเวณพื้นที่ทับซ้อน 4.6 กิโลเมตร ทั้งสองฝ่ายมีการวางกำลังในพี้นที่อยู่ในระดับที่สมดุล การแก้ไขปัญหาอยู่ที่รัฐบาลซึ่งในอนาคตก็จะมีการประชุมร่วมเจบีซีอยู่แล้ว ยืนยันว่าเรายังไม่ได้เสียดินแดนแต่อย่างใด การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นหากมีการชี้แจงรายละเอียด คงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมได้
"ถ้าเกิดมีคนที่หลุดรอดเข้าไปแล้วทหาร เขมรจับตัวหรือทำร้าย ก็อาจจะเกิดอันตรายได้ ซึ่งปัญหาก็จะยิ่งบานปลาย ที่สำคัญอาจนำไปสู่อุบัติเหตุให้สองฝ่ายปะทะกัน เพราะทหารสองฝ่ายก็มีอาวุธ ถ้าใครเป็นอะไรไป เจ้าหน้าที่ไทยก็จะถูกมองว่าบกพร่องต่อหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลย" พ.อ.ธเนศ กล่าว
แหล่งข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะพุ่งเป้าต่อรองกับรัฐบาล ซึ่งน่าสังเกตุว่า เป็นวันเดียวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ แต่เชื่อมั่นว่านโยบายของกองทัพในภาพรวม ไม่ต้องการให้เกิดการใช้กำลังทหารทั้งสองส่วนคือที่ กรุงเทพฯ และ ชายแดน ตอนนี้ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะถูกดึงเป็นเรื่องการเมือง แต่ทหารจะพยายามใช้วิธีในการทำความเข้าใจและขอร้องเป็นหลัก ในขณะที่แนวร่วมในพื้นที่ ศรีสะเกษ ยังไม่มีมากนักแต่กลุ่มพันธมิตรฯ เคยระดมคนมาเยี่ยมให้กำลังใจทหารมาแล้ว จึงต้องดูว่าวันที่ 19 กันยายน จะมีมากแค่ไหนแต่เชื่อว่าจะไม่มากนัก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ






