
พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกตำรวจ
ถกโผรอง ผบ.ตร.ล่มตาม กตช. ระบุควรรอตั้ง ผบ.ตร.ตัวจริง ชี้โดย"มารยาท" "ธานี" ไม่ควรยุ่ง (เดลินิวส์)
ก.ตร.แข็งจริง ๆ ประชุมแต่งตั้ง รอง ผบ.ตร.ล่มตาม ก.ต.ช. โดย ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ระบุ ผบ.ตร.คนใหม่ยังตั้งไม่ได้ หากพิจารณาระดับ รองผบ.ตร.ไปอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม แม้ว่าก่อนหน้านั้นได้มีการกลั่นกรองไว้แล้ว โฆษกตำรวจเผย ไม่เกี่ยวกับตัวบุคคล เพียงแต่เห็นว่า ควรรอให้แต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่เสียก่อน ส่วนกรณีกระแสข่าวต่ออายุราชการ "ธานี" จนถึงสิ้นปี "สุเทพ" ยันไม่ต่อ ส่วนที่เรียกประชุม ก.ตร.ถกโผนายพล ทุกตำแหน่งก็เป็นไปตามมติ ก.ตร. ไม่ใช่ รรท.ผบ.ตร.ทำเพียงลำพัง "ชัจจ์" ระบุชัดทำไม่ได้เพราะขัดกฎหมาย ชี้เหลืออายุราชการเพียง 9 วัน โดยมารยาทและประเพณีปฏิบัติแล้ว ไม่ควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 21 กันยายน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า หากในวันที่ 30 กันยายนแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ไม่ได้ ก็อาจจะต่ออายุราชการ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ตร.จนถึงสิ้นปี ว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีแนวทางดังกล่าว
เมื่อถามว่าในการเรียกประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) วันนี้ มีความจำเป็นต้องแต่งตั้งตำรวจระดับนายพลหรือไม่
นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นการทำหน้าที่ตามปกติ และการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการ เป็นการตกลงกันใน ก.ตร.ว่าจะทำให้เสร็จก่อนวันที่ 30 กันยายน เพราะจะมีผลเกี่ยวกับการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ถ้าสามารถทำได้ตามที่กำหนดไว้ก็จะทำ แต่ถ้าทำแล้วยังไม่เรียบร้อยก็ค่อย ๆ ทำต่อไป
เมื่อถามต่อว่า มีการติงว่าถ้า ก.ตร. พิจารณาตามโผที่ พล.ต.อ.ธานี เสนออาจจะไม่เหมาะสม เพราะเหลือเวลาเพียง 9 วันก่อนเกษียณ
นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่ พล.ต.อ.ธานี ทำเพียงคนเดียว จะมีคณะกรรมการกลั่นกรอง ซึ่ง พล.ต.อ.ธานี และรอง ผบ.ตร.จะต้องมีการประชุมกัน และเมื่อมีความเห็นอย่างไรก็จะนำเสนอกรรมการ ก.ตร.จากนั้นก็จะมาร่วมกันพิจารณาอีกชั้นหนึ่ง
เมื่อถามว่าหากแต่งตั้งไม่ทัน จะขัดกับ พ.ร.บ.ตำรวจหรือไม่
นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา อยู่ที่มติของ ก.ตร.
ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 08.30 น. พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) นัดประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเพื่อพิจารณาแต่งตั้งนายตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร. จนถึงระดับผู้บัญชาการ โดยมีคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมประกอบด้วย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร., พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์, พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์, พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย, พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์, พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ รองผบ.ตร. ใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
สำหรับรายชื่อผู้ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรอง ประกอบด้วย พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็น รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผบ.ตร. เลื่อนเป็น รองผบ.ตร. พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผบ.ตร. เลื่อนเป็น ที่ปรึกษา(สบ10) พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เลื่อนเป็น ที่ปรึกษา(สบ10) พล.ต.ท.ชาตรี สุนทรศร ผู้ช่วยผบ.ตร. เลื่อนเป็น หน.นรป.
พล.ต.ท.ฉัตรชัย โปตระนันทน์ ผบช. ประจำสง.ผบ.ตร. เลื่อนเป็น ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. เลื่อนเป็น ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.จิโรจน์ ไชยชิต ผบช.ศ. เลื่อนเป็น ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท. บรรจง ตันศยานนท์ จเรตำรวจ (สบ8) เลื่อนเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. เลื่อนเป็นจเรตำรวจ(สบ8) พล.ต.ท.ประชิน วารี จเรตำรวจ(สบ8) เลื่อนเป็น ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท. ชลธาร จิราณรงค์ ผบช.นรป. เลื่อนเป็นผู้ช่วยหน.นรป.
พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช. สตม. ย้ายไปเป็นผบช.ศ. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส. ย้ายไปเป็นผบช.สตม. พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.7 ย้ายเป็น จเรตำรวจ (สบ8) พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.ภ.4 ย้ายไปเป็นผบช. ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ท.วีระยุทธ สิทธิมาลิก ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. ย้ายไปเป็นผบช.ภ.9 พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ ผบช. สง.ก.ตร. ย้ายไปเป็นผบช.กมค. พล.ต.ท. เรืองศักดิ์ จริตเอก จเรตำรวจ(สบ8) ย้ายไปเป็นผบช.กพ. พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผบช.กมค.ย้ายไปเป็นผบช.น.
พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รองผบช.น. เลื่อนเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต. ธนากร ศิริอัฐ รอง ผบช.สตม. เลื่อนเป็น ผบช. (ว่างไว้ รอประชุม ก.ตร.) พล.ต.ต. ตรีทศ รณฤทธิวิชัย รองผบช.ส. เลื่อนเป็น ผบช.ส. พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รองผบช.น. เลื่อนเป็น ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.เดชาวัต รามสมภพ รองผบช.ภ.3 เลื่อนเป็น ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.คัคคพงศ์ ศรีพาณิชย์ รองผบช.ส. เลื่อนเป็น ผบช. (ว่างไว้ รอประชุม ก.ตร.) พล.ต.ต.พิทักษ์ จารุสมบัติ รองผบช.สตม. เลื่อนเป็น ผบช. ประจำ ทนท. ประสานนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.สันติ เพ็ญสูตร รองผบช.ภ.9 เลื่อนเป็น ผบช. (ว่างไว้ รอประชุม ก.ตร.) พล.ต.ต.อติเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส. เลื่อนเป็น ผบช.ปส. พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น.เลื่อนเป็น ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ รองพตร.(สบ7) เลื่อนเป็น พตร. (สบ8)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 13.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ได้เดินทางมาเป็นประธานประชุม ก.ตร.ในวาระแต่งตั้ง แต่ ประชุมไปได้เพียงชั่วโมงเศษ ก็เลิกประชุมอย่างกะทันหันโดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า "ตีกันวุ่นเลย เค้าทะเลาะกัน" แล้วก็เดินกลับเข้าห้องทำงานไป ด้าน พล.ต.ท. อำนวย ดิษฐกวี ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า วันนี้มีวาระแต่งตั้ง แต่ไม่มีการแต่งตั้ง เพราะมีการถกเถียงกันเยอะ ว่าควรมีการตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก่อน
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกตำรวจ แถลงว่า วันนี้มีการประชุมหลายวาระ แต่วาระสำคัญคือการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ซึ่งช่วงเช้ามีการประชุม กลั่นกรองไปแล้ว แต่มี ก.ตร.หลายท่านได้เสนอความเห็นว่า ก.ต.ช.ยังไม่สามารถตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ได้ ก.ตร.บางท่านจึงบอกว่าควรรอให้ได้ ผบ.ตร.คนใหม่ก่อน ก็มีการอภิปราย ก.ตร.ทุกคนก็เสนอความเห็นแตกต่างกันไป ในที่สุด นายสุเทพ ในฐานะประธาน ก.ตร.จึงตัดสินใจเลื่อนการพิจารณาวาระแต่งตั้งโยกย้ายไปก่อน โดยไม่มีการยกเหตุผลอื่นมีเพียงเหตุผลนี้เท่านั้น ซึ่งยังไม่มีการหยิบขึ้นมาพิจารณาใครทั้งนั้น ปัญหาจึงไม่ใช่อยู่ที่ตัวคนที่ได้รับการเสนอชื่อ เหตุผลหลักครั้งนี้คือ ควรให้ได้ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญเสียก่อน จากนั้นค่อยพิจารณาระดับรองลงมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ ก.ตร. เลื่อนการแต่งตั้ง เกี่ยวข้องกับการที่ พล.ต.อ.ธานี จวนจะเกษียณอายุราชการหรือไม่
พล.ต.อ. วัชรพล กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ไม่มีการพูดถึงประเด็น พล.ต.อ.ธานี ก็ทำหน้าที่ในฐานะ ผบ.ตร.ไป และไม่มีการพูดว่าให้รอ ผบ.ตร. คนใหม่มาทำการแต่งตั้งโยกย้ายเอง
เมื่อถามว่าบัญชีที่ผ่านบอร์ดกลั่นกรองแล้วจะเป็นโมฆะหรือไม่
โฆษกตำรวจ กล่าวว่า ก.ตร.ไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้ แต่ผลที่ผ่านการกลั่นกรองแล้วก็ยังสามารถนำมาพิจารณาได้ แต่หากมีการแต่งตั้งหลังจากได้ ผบ.ตร.ใหม่ ก็จะมีตำแหน่ง รองผบ.ตร.ว่างอีก 1 ตำแหน่ง ไล่ลงมาถึงระดับผู้บังคับการอีก ดังนั้นก็ต้องทำบัญชีเพิ่มเติม ขณะเดียวกันก.ตร.ได้มี มติให้ขยายเวลาการพิจารณาแต่งตั้งจากเดิมกำหนดว่า การแต่งตั้งระดับผู้บังคับการขึ้นไป ต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 กันยายน เมื่อเป็นเช่นนี้ ก.ตร.จึงให้เลื่อนไปไม่มีกำหนด นอกจากนี้ ก.ตร.ได้ถอนวาระเรื่องการพิจารณาผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการการซื้อขายตำแหน่งออกไปด้วย
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุม พล.ต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้เปิดประเด็นอภิปรายว่าไม่สมควรพิจารณาการแต่งตั้งในครั้งนี้ เนื่องจากยังไม่ได้ ผบ.ตร.คนใหม่ หากพิจารณาแต่งตั้งไปนั้นอาจได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมว่า ไม่เหมาะสม จากนั้นก็มีเสียงสนับสนุน ก.ตร. หลายคน ตั้งแต่ นายชัยเกษม นิติศิริ, ร.ต.อ. ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์, พล.ต.ท.อำนวย ดิษฐกวี และ พล.ต.อ.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ จนนายสุเทพ ต้องตัดสินใจเลื่อนวาระการพิจารณาการแต่งตั้งออกไปก่อน ส่วนประเด็นที่ว่าการแต่งตั้งไม่ทันวันที่ 30 กันยายน อาจทำให้เสียสิทธิในเรื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์นั้น ก.ตร. มีการอภิปรายว่าไม่เกี่ยวข้อง สามารถทำได้
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า สาเหตุที่เลื่อนการแต่งตั้งออกไป แท้จริงแล้วเป็นเพราะบัญชีรายชื่อในการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นที่พอใจของ นายสุเทพ และคนใกล้ชิด
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ที่ปรึกษาพรรคฯ ในฐานะอดีต ผบช.ก. กล่าวถึงเรื่องการต่ออายุราชการ พล.ต.อ.ธานี ว่า ทำไม่ได้ เพราะขัดต่อกฎหมาย หากจะต่ออายุราชการก็ต้องแก้ไขกฎหมาย อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ธานี เหลืออายุราชการเพียง 9 วัน โดยมารยาทและประเพณีปฏิบัติแล้ว ไม่ควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร. ลงมาจนถึงระดับ ผบก.อีก ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ผบ.ตร.คนใหม่ เชื่อว่าสาเหตุคงถูกบีบจากฝ่ายการเมือง ส่วนปัญหาการแต่งตั้ง ผบ.ตร.นั้น เป็นความด้อยสมรรถภาพของนายกรัฐมนตรี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก กรุงเทพธุรกิจ






