
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวยืนยันข่าวกัมพูชาขับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ออกจากประเทศ ว่า ช่วงบ่ายวันที่ 12 พฤศจิกายน กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้แจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา ขอให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขานุการเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา เดินทางออกจากประเทศภายใน 48 ชั่วโมง นับตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยไม่ได้แจ้งเหตุผล เพียงแต่แจ้งว่าถือเป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนา
"จากกรณีดังกล่าวทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยสั่งดำเนินการตอบโต้ ด้วยการแจ้งให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาในประเทศไทย ซึ่งมีตำแหน่งในระดับเดียวกัน เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา และขอให้เดินทางออกนอกประเทศภายใน 48 ชั่วโมงเช่นกัน แต่ทั้งนี้ยังไม่มีการปิดสถานทูตของแต่ละประเทศแต่อย่างใด" รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าว
นอกจากนี้ นายธานี ยังกล่าวยืนยันว่า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เดินทางกลับมาประเทศไทยจริง เพื่อประเมินสถานการณ์ ในขณะนี้ยังไม่สามารถระบุหรือยืนยันได้ว่า นายกษิต จะเดินทางกลับไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 15 พฤศจิกายน หรือไม่
ขณะที่ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทางการไทยก็จะเชิญเลขานุการเอกสถานทูตกัมพูชา เดินทางออกนอกประเทศไทยใน 48 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน เพราะตามหลักสากลจะต้องปรับระดับทางการทูตให้เท่าเทียมกัน หากรัฐบาลกัมพูชามีมาตรการทางการทูตตอบโต้ใดออกมาอีก รัฐบาลไทยก็ต้องหารือกันว่าจะมีมาตรการอย่างไรต่อไป เชื่อว่าปัญหาไม่น่าจะบานปลาย อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ยังยืนยันว่าปัญหาเกิดจากรัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษา
"หากต้องการให้สถานะทางการทูตกลับมาเป็นปกติ จะต้องย้อนเวลากลับไปก่อนที่รัฐบาลกัมพูชาจะตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และเชื่อว่าการยกเลิกแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาประเทศกัมพูชาครั้งนี้เป็นการเล่นที่เสี่ยง เพราะไม่เหลือทางให้เดินมากนัก พ.ต.ท.ทักษิณ คงหวังว่าจะให้ นายอภิสิทธิ์ ตบะแตกจนอาจทำให้เกิดเหตุนองเลือด แต่ นาอภิสิทธิ์ ก็รู้เกมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ไม่หลงกลและตั้งรับด้วยความใจเย็น ความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องกลับไปตั้งหลักที่ดูไบอีกครั้ง ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบเชื่อว่าประเทศพม่า มาเลเซีย และจีน จะไม่ยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เป็นฐานในการเคลื่อนไหวเช่นเดียวกับกัมพูชา" นายปณิธาน กล่าว






