
จับโจรเศรษฐี 46 ล้าน ย่องจนรวย แต่งช่างแอร์มุดบ้าน พบสบโอกาสฉกเงินขนไปเล่นบ่อนเขมร (เดลินิวส์)
รวบนักแซ้งค์ มนุษย์ 6 ชื่อ ทำมาหากินด้วยการลักทรัพย์ตามบ้านเรือนต่าง ๆ ถูกจับติดคุกออกมาก็ทำอีก ใช้วิธีขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนดูตามบ้านที่มีคนแก่อยู่ หาข้อมูลจากตู้จดหมายหน้าบ้าน แล้วเอาชื่อในจดหมายมาอ้างคนในบ้านว่าให้มาซ่อมแอร์ ใช้ให้เฝ้าสะพานไฟไว้ ส่วนตัวเองงัดแงะทรัพย์สินในบ้านตามสบาย ก่อนนำทรัพย์สินหลบหนีสบาย ยอมรับได้เงินมหาศาล เอาไปเล่นการพนันบ่อนเขมร ตำรวจพบมีเงินหมุนเวียนมากถึง 46 ล้านบาท
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. พ.ต.อ.เสถียร ตัณฑะกูล ผกก.สน.ยานนาวา พ.ต.ท.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ สว.สส. แถลงข่าวจับกุมตัว นายจอมภพ โสภณสิริรัตน์ หรือ นายชานนท์ โสภณสิริ หรือ นายภูผา นิราศรพ หรือ นายอภิลาภ นิราศรพ หรือ นายนักรบ พิราศรพ หรือ นายภูผา ศิริพิน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2998/77 แขวง- เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.1082/2551 ลงวันที่ 28 พ.ย. 51 ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ พร้อมของกลางธนบัตรไทยและต่างประเทศหลายใบ พระเครื่อง บัตรผู้สื่อข่าวพิเศษนิตยสารฉบับหนึ่ง และทรัพย์สินมีค่าอีกหลายรายการ จับกุมได้ที่วัดนวลจันทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ
พ.ต.อ.เสถียร กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 51 ผู้ต้องหาได้เข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 287 ถนนศรีเวียง แขวงสีลม เขตบางรัก จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุคือ นายจอมภพ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนมีประวัติของผู้ต้องหา เพราะผู้ต้องหารายนี้เคยถูก สน.ยานนาวา จับกุมเมื่อปี 2544 โดยหลังจากที่พ้นโทษออกมาเมื่อปี 2550 ก็ตระเวนก่อเหตุอีกหลายครั้ง ได้ทรัพย์สินไปมหาศาล ในสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร มีเงินหมุนเวียนถึง 46 ล้านบาท จากการตรวจสอบทราบว่า ครั้งล่าสุดผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักทรัพย์บ้านหลังหนึ่งในท้องที่ สน.วัดพระยาไกร ได้ทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
พ.ต.อ.เสถียร กล่าวต่อว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้เปลี่ยนชื่อถึง 6 ชื่อ เพื่อหลบหนีการจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นภายในบ้านพักของผู้ต้องหาพบของกลางอีกหลายรายการ และพบรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ฌภ 7591 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีฟ้าขาว หมายเลขทะเบียน วทค 757 กรุงเทพมหานคร โดยผู้ต้องหาอ้างว่ารถจักรยานยนต์เป็นรถที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนรถยนต์เป็นรถของพ่อที่เพิ่งจะซื้อมาได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่จึงยึดเอาไว้ตรวจสอบ
เบื้องต้น นายจอมภพ ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุลักทรัพย์ในลักษณะนี้มาแล้วประมาณ 100 ครั้ง โดยไม่ได้มีการวางแผนหรือเลือกเหยื่อแต่อย่างใด จะใช้รถจักรยานยนต์คู่ใจ ขับตระเวนตามบ้านที่ไม่ค่อยมีคนอาศัยอยู่ จากนั้นก็จะหยิบจดหมายที่อยู่หน้าบ้านมาศึกษาว่า บุคคลที่อยู่ในบ้านดังกล่าว ชื่ออะไรบ้าง เพื่อความแนบเนียนจากนั้นก็จะอ้างชื่อบุคคลในจดหมาย หรืออ้างว่าคนในบ้านให้มาซ่อมแอร์หลังจากนั้นจะหลอกให้เหยื่อช่วยเฝ้าสะพานไฟ และกดสวิตช์ไว้ให้ อาศัยจังหวะนั้นไปรื้อค้นทรัพย์สิน เงินสด รวมทั้งของมีค่าอื่น ๆ โดยจะเว้นระยะประมาณ 2 อาทิตย์ ก่อนจะกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง
ทั้งนี้ นายจอมภพ อ้างว่า ทรัพย์สินที่ได้มาก็จะนำไปขาย เพื่อนำไปเป็นค่ารักษาพ่อที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และนำไปเล่นการพนันที่ประเทศเขมร เมื่อเล่นการพนันหมดตัวก็จะกลับมาก่อเหตุอีก โดยหลังจากที่พ่อเสียชีวิตก็ไม่ได้ก่อเหตุอีกเลย จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ ขณะที่กำลังเก็บกระดูกพ่อเพื่อนำไปลอยอังคาร ส่วนบัตรผู้สื่อข่าวมีเพื่อนชื่อ "แดง" ทำให้ แต่ไม่เคยใช้ในการก่อเหตุ
พ.ต.อ.เสถียร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายมาตรวจสอบของกลางแล้ว 2 ราย ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายรายนี้ลักทรัพย์ไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานให้ผู้เสียหายรายอื่น ๆ มาดูของกลาง และแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติม พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่อื่น ที่ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุเพื่อมาอายัดตัว ส่วนรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซที่ผู้ต้อง หาอ้างว่าเป็นของพ่อนั้น จะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าผู้ต้องหาโจรกรรมมาหรือไม่ เนื่องจากพ่อของผู้ต้องหาไม่ได้ประกอบอาชีพและเสียชีวิตไปแล้ว ทั้งนี้ประวัติของนายจอมภพนี้ถือว่าไม่ธรรมดา ก่อคดีมากว่า 19 คดี และมีหมายจับตามโรงพักต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก






