โวยโรงเรียนมั่ว ยัดชื่อนักเรียนปกติเป็นปัญญาอ่อน

การศึกษา


โวย รร.มั่ว-ยัดชื่อนร.ปกติเป็นปัญญาอ่อน หวังได้งบช่วย ร้องผู้ว่าฯ สอบ (ข่าวสด)

          ผู้ปกครองโวยโรงเรียนทำพิลึก สวมชื่อนักเรียนสติปัญญาปกติไปอยู่ในรายชื่อเด็กบกพร่องทางสติปัญญา มีปัญหาการเรียนรู้ จะได้รับเงินช่วยเหลือปีละ 2,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ทางบ้านไม่เคยรู้มาก่อน แฉความมาแตกเมื่อตอนปีใหม่ ลูกได้รับของขวัญและรางวัลจำนวนมากจากการแข่งกีฬาเด็กพิการ ขณะที่เด็กเองก็งง เรียนหนังสือ เล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดี สอบถามทางโรงเรียนตอบไม่เคลียร์ ด้าน ผอ.สพท.ตราด สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะที่ ผอ.โรงเรียนโต้ ยันการคัดกรองเป็นระบบ มีจิตแพทย์ตรวจสอบ

          เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่โรงเรียนบ้านเนินตะบก หมู่ 1 ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด นายอุดม บังเกิดสุข ผอ.โรงเรียน และคณะครู เชิญผู้ปกครองของนักเรียนที่มีรายชื่ออยู่ในเกณฑ์มีความบกพร่องทางสติปัญญา มีปัญหาทางการเรียนรู้ จำนวน 60 คน มาร่วมประชุม และฟังคำชี้แจงจากนายนาวิน วิภาธนาวี นักวิชาการศูนย์การศึกษาพิเศษ จ.ตราด นักวิชาการสาธารณสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ในการพิจารณาว่าจะใช้หลักเกณฑ์อะไรวัดว่า เด็กนักเรียนคนไหนพิการ หรือมีความบกพร่องทางสติปัญญา และมีปัญหาทางการเรียนรู้

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายนาวินอธิบายถึงลักษณะ และเกณฑ์ของการจัดเด็กที่มีอาการทางสมอง และมีปัญหาทางการเรียนรู้ โดยใช้วิธีให้ทำข้อสอบ หรือแบบทดสอบไอคิว จากนั้นจะส่งไปให้แพทย์ตรวจทดสอบไอคิว และความสามารถในการเรียนรู้ ปรากฏว่ามีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหลายคน โต้แย้งว่าลูกไม่ได้มีอาการผิดปกติทางสมอง และทุกคนยังสามารถเรียนหนังสืออยู่ในเกณฑ์ สามารถทำกิจกรรม หรือรับฟังคำสั่งของครูได้เป็นอย่างดี แต่ทำไมลูกจึงถูกจัดให้เป็นเด็กที่มีความบกพร่องดังกล่าว ขณะที่นายนาวินชี้แจงว่า เด็กที่มีรายชื่อดังกล่าว สามารถถอนชื่อออกจากบัญชีได้ทันทีที่ต้องการ เหมือนกับการใส่ชื่อเด็กเป็นนักกีฬาฟุตบอล หากไม่ต้องการก็สามารถถอนชื่อได้

          จากนั้น น.ส.ราตรี อุปเท่ห์ ครูโรงเรียนบ้านเนินตะบก ร่วมกล่าวชี้แจงต่อผู้ปกครองว่า เป็นเพราะเด็กเรียนรู้ช้า และเรียนไม่ทันเพื่อน ทำข้อสอบช้าและทำไม่ถูก ต้องทำถึง 3-4 ครั้ง ดังนั้น จึงต้องนำไปตรวจสอบไอคิว ปรากฏว่ามีความบกพร่องทางสติปัญญา โดยมีแพทย์เซ็นหนังสือรับรองมาด้วย อย่างไรก็ตาม เด็กบางคนสามารถพัฒนาการเรียนรู้ และยกระดับเป็นเด็กปกติได้

          ด้านนางไพรินทร์ จำเนียรกาล ผู้ปกครองของ ด.ช.ยุทธนา จำเนียรกาล เป็น 1 ใน 60 รายชื่อที่ทางโรงเรียนระบุว่ามีความบกพร่องทางสติปัญญา กล่าวว่า ลูกถูกขึ้นบัญชีเป็นเด็กปัญญาอ่อน หรือเด็กบกพร่องทางสติปัญญา มีปัญหาทางการเรียนรู้ เมื่อ 2 ปีก่อน โดยที่ทางบ้านไม่รู้ มารู้เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เนื่องจากลูกชายนำของขวัญจำนวนมากมาให้ และบอกว่าไปแข่งกีฬาร่วมกับเด็กพิการ และไม่รู้ว่าทำไมครูจึงนำตนเองและเพื่อนไปแข่งขัน จากนั้นจึงสอบถามไปยังครูราตรี แต่ก็ชี้แจงไม่เป็นที่น่าพอใจ อีกทั้งผอ.โรงเรียนก็ไม่ให้ความร่วมมือ วันนี้จึงมาร่วมประชุมกับผู้ปกครองคนอื่น เพื่อขอคำชี้แจง แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน

          ขณะที่ ด.ช.ยุทธนากล่าวว่า ไม่ทราบสาเหตุว่าถูกจัดให้เป็นเด็กที่มีความบกพร่องเมื่อไหร่ ที่ผ่านมาแม้จะเรียนไม่เก่ง แต่ก็สามารถทำกิจกรรม สามารถเล่นฟุตบอล และวอลเลย์บอลได้ดี รวมทั้งชอบเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ รู้สึกอึดอัดใจที่โรงเรียนส่งตนเอง และเพื่อนไปแข่งขันกีฬาและกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับเด็กพิการในศูนย์การศึกษาพิเศษ จ.ตราด ในช่วงปีใหม่ และได้รางวัลชนะการแข่งขันมากมาย แต่ไม่รู้สึกภูมิใจ เพราะต้องแข่งขันกับเด็กที่มีความพิการ และสู้ไม่ได้

          ส่วนนายอุดม กล่าวชี้แจงว่า เป็นเรื่องปกติที่เด็กนักเรียนจะเรียนรู้ได้ไม่เท่ากัน  และเป็นเรื่องปกติที่เด็กจะมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ โรงเรียนพิจารณาเด็กที่มีปัญหาจริง ๆ แต่ไม่ได้มีมาก และเป็นทั้งหมดของโรงเรียน ส่วนงบประมาณนั้น จะได้รับจากศูนย์การศึกษาพิเศษ จ.ตราด เพื่อฟื้นฟูสภาพการเรียนรู้ รายละ 2,000 บาทต่อปี และยืนยันว่าไม่ได้ทำรายชื่อเพิ่ม เพื่อเบิกงบประมาณเข้าโรงเรียน หรือหาผลประโยชน์จากโครงการนี้

          ด้านนายชิษณุพงศ์ ขวนขวาย ประธานคณะกรรมการชมรมเด็กและเยาวชน ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ปกครอง  เพราะโรงเรียนแห่งนี้มีเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาเพียง 4 คนเท่านั้น ทางผู้ปกครองจึงทำหนังสือร้องเรียนไปยัง ผวจ.ตราด และผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อให้รับทราบปัญหานี้แล้ว

          ขณะที่นางเงาแข เดือดขุนทด ผอ.ศูนย์การศึกษาพิเศษ จ.ตราด กล่าวว่า โครงการที่ น.ส.ราตรี ทำเพื่อขอสนับสนุนงบประมาณมานั้น ทางศูนย์สนับสนุนจริงในงบประมาณ 2,000 บาทต่อคน จะแบ่งเป็นเงินสด และอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนในอัตราที่เท่ากัน สำหรับเด็กที่ต้องใช้สื่อสำหรับการเรียนการสอนจริง โดยเงินจำนวนนี้ทางโรงเรียนและครูผู้รับผิดชอบ จะนำไปบริหารจัดการเอง

          วันเดียวกัน นายธงชัย พุ่มชลิต ผอ.สำนัก งานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ตราด กล่าวว่า ได้รับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มผู้ปกครองแล้ว โดยระบุว่าทางโรงเรียนไม่ได้แจ้งให้ผู้ปกครองรับทราบก่อน และไม่เป็นไปตามขั้นตอน บางรายระบุว่ามีการปลอมลายเซ็นโดยที่ผู้ปกครองไม่รับทราบ ดังนั้น จะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่โรงเรียนในวันที่ 8 ม.ค. ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร หรือเป็นการเข้าใจผิด

          อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีมาตรการในการดูแลเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ หรือเด็กแอลดี โดยศูนย์การศึกษาพิเศษ จะทำหน้าที่คัดกรองเด็ก และโรงเรียนก็จะทำแผนเสนอเพื่อของบฯ นำไปพัฒนาเด็กกลุ่มนี้ โดยทางศูนย์จะมีงบฯ ให้คนละ 2,000 บาทต่อปีการศึกษา เพื่อให้โรงเรียนนำไปพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก

          "เด็กแอลดี ไม่ใช่เด็กพิการ หรือเด็กปัญญาอ่อน เพียงแต่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ เช่น เรียนรู้ได้ช้ากว่าปกติ แต่ก็สามารถเรียนรู้ได้ โดยที่ผู้สอนจะต้องมีความเข้าใจเด็ก ตรงนี้ผู้ปกครองอาจไม่เข้าใจ ในวันที่ 8 ม.ค. ผมจะไปหารือกับทางโรงเรียนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และทำความเข้าใจร่วมกับผู้ปกครองด้วย เพราะการดำเนินการต่าง ๆ มีกระบวนการและขั้นตอนอยู่ มีนักจิตวิทยาเป็นผู้ตรวจสอบ ทางโรงเรียนไม่สามารถจะนำรายชื่อเด็กไปจัดไว้ในกลุ่มนี้ โดยที่ผู้ปกครองไม่ยินยอม" นายธงชัย กล่าว

          ด้านนายอุดม บังเกิดสุข ผอ.โรงเรียนบ้านเนินตะบก ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ยืนยันว่าการคัดกรองเป็นไปตามระบบการคัดกรองเด็กพิเศษ 9 ประเภท มีจิตแพทย์เป็นผู้คัดกรอง โดยเด็กในกลุ่มนี้ เป็นเด็กที่มีความบกพร่องในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการเรียนรู้ พฤติกรรม อารมณ์ เมื่อเด็กผ่านการคัดกรองแล้ว ทางโรงเรียนจะนำข้อมูลไปเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเด็ก เป็นระบบปกติเพื่อช่วยเหลือนักเรียน

          "ยืนยันว่าทางโรงเรียนดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของสพฐ. มีแพทย์ด้านจิตเวชเป็นผู้คัดกรองเด็ก โรงเรียนไม่ได้ดำเนินการเอง ส่วนที่ระบุว่านำรายชื่อเด็กไประบุว่าเป็นเด็กบกพร่อง เกินกว่าจำนวนที่มีอยู่จริง เพื่อขอรับงบประมาณเพิ่มนั้นก็ไม่เป็นความจริง ดังนั้น ผมจะทำหนังสือชี้แจงไปยังผอ.สพท.ตราด ต่อไป" ผอ.โรงเรียนบ้านเนินตะบก กล่าว


ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โวยโรงเรียนมั่ว ยัดชื่อนักเรียนปกติเป็นปัญญาอ่อน อัปเดตล่าสุด 8 มกราคม 2553 เวลา 13:27:54 8,494 อ่าน
TOP
x close