
ปปช.ฟัน เสนาะ ฮุบที่ธรณีสงฆ์สนามกอล์ฟอัลไพน์ (คมชัดลึก)
ระบุตระกูลเทียนทองถือหุ้นอัลไพน์ ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 148 ต่อไป ฐานะเป็นเจ้าพนักงานที่ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. เวลา 17.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.แถลงผลการประชุม ว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ได้พิจารณากรณีการกล่าวหา นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กับพวก ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีการจดทะเบียนโอนมรดกและโอนสิทธิขายที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมามิการามวรวิหาร จ.ปทุมธานี จำนวน 732 ไร่ โดยมิชอบ และละเว้นไม่ดำเนินการเพิกถอนการจดทะเบียนการโอนที่ดินโดยมิชอบดังกล่าว สมัยเป็น รมช.มหาดไทย เมื่อปี พ.ศ.2533 โดยจากการไต่สวนข้อเท็จจริง มีประเด็นต้องพิจารณาว่า ที่ดินตามพินัยกรรมดังกล่าว เป็นที่ธรณีสงฆ์หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาและเห็นว่า ที่ดินของ นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ตกเป็นของวัดและเป็นที่ธรณีสงฆ์แล้ว
นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายเสนาะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้วัดรับมรดกที่ดินดังกล่าว เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2533 นั้น ต่อมาวัดได้ขายที่ดินดังกล่าวให้กับ 2 บริษัท ซึ่งการขายที่ดินดังกล่าว จากการตรวจสอบปรากฏว่า บริษัททั้งสองแห่งมี นางอุไรวรรณ เทียนทอง ถือหุ้นอยู่ 3 แสนหุ้น มูลค่า 30 ล้านบาท, นายวิทยา เทียนทอง ถือหุ้นอยู่ 1.5 แสนหุ้น มูลค่า 15 ล้านบาท, นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ถือหุ้น 1.5 แสนหุ้น มาตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. 2533 ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่นายเสนาะจะไม่อนุญาตให้วัดรับที่ดินที่ได้มาตามพินัยกรรม
ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ดำเนินการดังกล่าวของนายเสนาะ เป็นการกระทำในฐานะเป็นเจ้าพนักงานที่ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือฝืนใจผู้อื่น ให้หามาให้ซึ่งประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย แต่เนื่องจากความผิดตามมาตรา 157 ได้ขาดอายุความไปแล้วตั้งแต่เดือน ส.ค. 2548 จึงให้ส่งเรื่องต่ออัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 148 ต่อไป
ทางด้าน นายเสนาะ เทียนทอง กล่าวยอมรับผลการตัดสินของ ป.ป.ช. แต่ขอยืนยันว่าทำถูกกฎหมายแล้ว แต่อาจไม่ถูกใจพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นได้
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก







